ม.ปิดทองหลังพระจับมือม.แม่ฟ้าหลวงลุยปลูกป่าจ.น่าน

ม.ปิดทองหลังพระจับมือม.แม่ฟ้าหลวงลุยปลูกป่าจ.น่าน

ม.ปิดทองหลังพระจับมือม.แม่ฟ้าหลวงลุยปลูกป่าจ.น่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง เดินหน้าโครงการปลูกป่า ใน อ.ท่าวังผา และ อ.เฉลิมพระเกียรติ หลังจากประสบความสำเร็จใน 21 หมู่บ้าน นำร่องใน 3 อำเภอ

มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ จับมือ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เดินหน้าโครงการปลูกป่าใน จ.น่าน จากการเปิดเผยของ ม.ร.ว. ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ โครงการลูกป่านี้จะนำองค์ความรู้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ "ลดการใช้พื้นที่ป่า ปลูกนาขั้นบันได" ในสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มาขยายผลในพื้นที่ หลังจากที่ได้เริ่มของการนำร่อง 3 หมู่บ้าน ใน ต.ยอด อ.สองแคว ต.ตาลชุม อ.ท่าวังผา และ 15 หมู่บ้าน ใน ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2552

ในการดำเนินการครั้งนี้ จะมีพื้นที่ครอบคลุม 250,000 ไร่ แบ่งเป็นป่าอนุรักษ์ 150,000 ไร่ ปลูกป่าแบบปลูกป่าเสริมด้วยไม้โตช้าและไม้โตเร็ว ในพื้นที่  42,894 ไร่ ปลูกป่าแบบไม่ปลูกในพื้นที่ที่เหลือ ส่วนพันธุ์ไม้ที่ปลูกประกอบด้วย ประดู่ป่า พระเจ้าห้าพระองค์ พะยอม มะค่าโม่ง และยางนา ส่วนป่าใช้สอยเดิมมีพื้นที่ 20,000 ไร่ก็จะขยายเป็น 17,717 ไร่ ปลูกพันธุ์ไม้โพบาย ขึ้เหล็ก มะกอก เหมือดโลด และเสี้ยวดอกขาว สำหรับป่าเศรษฐกิจจะมีพื้นที่ 50,000 ไร่ จะปลูกพืชที่สร้างรายได้สูง เช่น มะม่วงหิมพานต์ ไผ่ หวาย และจามจุรี โดยมีการสร้างเรือนเพาะชำกล้าไม้ที่ อ.ปัว โดยเน้นการหาเมล็ดพันธุ์ในพื้นที่

สำหรับพื้นที่ในการดำเนินโครงการ จะอยู่ที่บ้านยอด 20,200 ไร่ บ้านน้ำป้าก 14,700 ไร่ และที่ ต.ขุนน่าน จะปลูก 73,000 ไร่ เพราะเป็นพื้นที่ที่ป่าถูกทำลายมากที่สุดทั้งที่เป็นป่าต้นน้า

ซึ่งคาดว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างแหล่งน้ำและอาชีพของชาวบ้านในโครงการ อันจะนำสู่การสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชน จนสามรถลดภาระหนี้สินลงได้ ซึ่งในปัจจุบัน รายได้ของชาวบ้านใน จ.น่านเฉลี่ยต่อหัวของประชากร ต่ำเป็นลำดับ 3 ของประเทศ

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook