นาปรังเขตชลประทานเจ้าพระยารอดปรับส่งน้ำเพิ่ม

นาปรังเขตชลประทานเจ้าพระยารอดปรับส่งน้ำเพิ่ม

นาปรังเขตชลประทานเจ้าพระยารอดปรับส่งน้ำเพิ่ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นาปรังในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา รอด กรมชลประทาน ปรับแผนส่งน้ำเพิ่ม แต่ให้งดปลูกต่อเนื่อง

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ส่งไปสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด (7 ก.พ. 57) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 12,800 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างฯ รวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้จำนวนทั้งสิ้น 6,104 ล้านลูกบาศก์เมตร

สถานการณ์น้ำในเขื่อนต่าง ๆ มีดังนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,594 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,794 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,221 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,371 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 422 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 45 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 379 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 563 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 59 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 560 ล้านลูกบาศก์เมตร

อนึ่ง สืบเนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง มีการทำนาปรังเกินแผนที่กำหนดไว้ ไปแล้วกว่า 2 เท่า กรมชลประทาน จึงต้องวางแผนการจัดสรรน้ำใหม่ ด้วยการเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นจากแผนเดิมที่ได้กำหนดไว้ เพื่อสนับสนุนพื้นที่นาปรังที่กำลังออกรวงและพร้อมจะเก็บเกี่ยวได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยจะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ หรือให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ทั้งนี้ มีข้อแม้ว่าหากเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวรอบนี้เสร็จแล้ว จะต้องพักการทำนาปรังไว้ก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งต้องสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนหน้านี้ด้วย จึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้งดทำนาปรังรอบต่อไป เพื่อให้การจัดสรรน้ำเป็นไปอย่างเพียงพอ และไม่เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook