ทีมสืบสวนนครบาลเจ๋ง! จับยกแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ หลังหนีมากบดานที่ประจวบฯ

(ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาข่าว)

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ม.ค. พ.ต.อ.อาคเนย์ แดงด้อมยุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการประสานแจ้งเบาะแสจาก พ.ต.อ.ทีฆโชติ สุวรรณาคม รอง ผบก.สส.บช.น. ว่าสืบทราบว่า แก๊งเรียกค่าไถ่ ที่มี นายปิยะสรรค์ เปรมบำรุง อายุ 27 ปี นักโทษเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี ซึ่งหลบหนีจากที่คุมขัง และมีหมายจับคดีหลบหนีหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ข้อหาฆ่า พยายามมฆ่า และหลบหนีที่คุมขัง เป็นหัวหน้าแก๊ง ร่วมกับ นายพงษ์ศักดิ์ แซ่ตั้ง อายุ 24 ปี ร่วมกันก่อเหตุลักพาตัว นายบุญรัตน์ แซ่ย่าง อายุ 24 ปี ชาวไทยภูเขาจาก จ.เชียงราย เพื่อเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท หนีมากบดานและนำเหยื่อมากักขังไว้ในพื้นที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

พ.ต.อ.อาคเนย์ เปิดเผยต่อไปว่า หลังรับแจ้งเหตุ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ประสานกับ ชุดสืบสวน บชน. ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และติดตามดูพฤติกรรม กระทั่งพบ นายปิยะสรรค์ กำลังขับรถกระบะ อีซูซุ ตอนครึ่ง สีเขียว ทะเบียน บร 1770 สุพรรณบุรี บริเวณทางลอดอุโมงค์รถไฟถนนมหาราช 1 จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่ นายปิยะสรรค์ ขัดขืนและพยายามขับรถหลบหนีพุ่งชนรถตำรวจ และชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงยิงสวนถูกแขนด้านขวาและลำตัวผู้ต้องหาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนยี่ห้อบาเรตต้า ขนาด 9 มม. พร้อมกระสุนในแมกกาซีนจำนวน 15 นัดในสภาพขึ้นลำกล้องพร้อมยิง สอบสวนเบื้องต้น นายปิยะสรรค์ ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกที่หลบหนีอีก 3 คน ตั้ง"แก๊งสุพรรณ" อุ้ม นายบุญรัตน์ แซ่ย่าง มาจากอ.เทิง จ.เชียงราย เพื่อเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท โดยนำตัวผู้เสียหายมากักขังไว้ ที่บ้านเลขที่ 12/1 ถนนสุขจิตในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายเสริมศักดิ์ สีมาพานิช หรือ ส.ท.ผอม อายุ 55 ปี อดีตเลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์

ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวต่อไปว่า หลังทราบข้อมูลจากคำให้การ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พฤหัส สังข์ประเสริฐ รอง ผกก.สส.รวบรวบพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ 45/57 เข้าตรวจค้น บ้านหลังดังกล่าว ระหว่างเข้าตรวจค้นนายเสริมศักดิ์และพรรคพวก พยายามหลบหนีออกทางประตูหลังบ้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมไว้ได้ จากการตรวจค้นในบ้านพัก พบ นายบุญรัตน์ ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม ถูกขังอยู่ในห้องเล็กด้านหลังบ้าน นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืนยาวประดิษฐ์ วางอยู่ใต้บานประตูในห้องพักชั้น 2และ พบ น.ส.ดาว ไม่ทราบนามสกุลอายุ 17 ปีสัญชาติลาว นายยาว ไม่ทราบนามสกุล อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงดำเนินคดีข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายให้ที่พักพิงซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือเพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม

ด้าน พ.ต.อ.ทีฆโชติ สุวรรณาคม รอง ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้รับการร้องเรียนจากญาตินายบุญรัตน์ ซึ่งหายสาบสูญ ไปจากภูมิลำเนาตั้งแต่เดือน พ.ย. 56 และได้รับการติดต่อจาก"แก๊งสุพรรณ" เพื่อขอเงินค่าไถ่ 3 ล้าน โดยให้นำมาจ่ายภายในวันที่ 27 ม.ค. ไม่เช่นนั้นจะฆ่าเหยื่อเพื่อปิดปากทันที เนื่องจากเดิมนายบุญรัตนฺเป็นสายล่อซื้อยาเสพติดให้กับตำรวจสืบสวนสอบสวนใน จ.เชียงราย และมีฐานะดี เมื่อนายปิยะสรรค์ทราบว่า นายบุญรตัน์เป็นสายสายลับให้ตำรวจจึงจับตัวมาคุมขัง และลงมือทำร้ายร่างกายอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดีนี้จะมีการอายัดตัว นายเสริมศักดิ์ไปส่งที่ สภ.เทิง จ.เชียงรายเนื่องจากญาติผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ และนำตัวนายปิยะสรรค์ ส่งเข้าเรือนจำเขาบินโดยขณะนี้มีการสืบทราบแหล่งกบดานของแก๊งสุพรรณและให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาลติดตามจับกุมต่อไปเนื่องจากเป็นแก๊งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกกับกระบวนการค้ายาเสพติดการค้ามนุษย์ ในหลายจังหวัดทางภาคตะวันตก