ศอ.รส.ห้ามคนเข้าออกเขตพรบ.มั่นคงงดใช้7เส้นทาง
ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ออกประกาศเพิ่ม 2 ฉบับ ห้ามบุคคลเข้า-ออกจากสถานที่ที่กำหนด และห้ามใช้เส้นทางคมนาคม 7 จุด สถานที่ราชการ 8 แห่ง
พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แถลงว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. ได้ออกประกาศเพิ่มเติม 2 ฉบับ เพื่อให้พื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. จะชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ โดยมีข้อกำหนด ห้ามบุคคลเข้าหรือออกจากสถานที่ที่กำหนด และห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือใช้ยานพาหนะใน 7 จุด และสถานที่ราชการ 8 แห่ง อาทิ แยกศาลาแดง แยกปทุมวัน แยกราชประสงค์ แยกอโศก
นอกจากนี้ ยังห้ามยานพาหนะทุกชนิด ที่บรรทุกเครื่องมือ อาทิ กระสอบ ไม้ไผ่ และยางรถยนต์ ที่อาจนำมาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการรักษาความสงบด้วย
ทั้งนี้ ศอ.รส. มีวิทยุสั่งการแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ด้วย โดยไม่อนุญาตให้ กองร้อยควบคุมฝูงชน พกพาอาวุธปืนโดยเด็ดขาด ส่วนการใช้กำลังจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนตามหลักสากล และให้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไขนำไปสู่เหตุการณ์บานปลาย
นายกฯเข้าศอ.รส.ถกรับมือชัตดาวน์-เฉลิมขอสุเทพถอย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพื่อประชุมติดตามความพร้อมรองรับสถานการณ์การชุมนุม ในวันพรุ่งนี้ กับ ศอ.รส. และหน่วยงานด้านความมั่นคง โดย นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามว่าเป็นห่วงสถานการณ์การชุมชุมอย่างไรบ้าง เพียงแค่ยิ้มทักทายผู้สื่อข่าว เดินขึ้นลิฟต์แล้วเข้าห้องประชุมทันที
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ฝากเตือนไปยัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ว่า ยังคงมีเวลาเหลือที่จะทบทวนไตร่ตรองให้ดี ในการเคลื่อนไหวในวันพรุ่งนี้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการปิดกรุงเทพมหานคร การปฏิเสธการเลือกตั้ง และการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุม หากเคลื่อนไหว สุดท้ายก็มีแต่คดีความ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ ประเมินสถานการณ์เป็นห่วงมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ แต่หวังว่าจะไม่มีความรุนแรง และจะไม่ซ้ำรอยเหมือนเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 2553 เพราะรัฐบาลไม่ดำเนินการใดที่รุนแรง ตำรวจจะไม่ใช้อาวุธ
ส่วนการเสนอให้มีการเลื่อนการเลือกตั้ง ของ กกต.บางคน ไม่รู้ว่าเอาข้อกฎหมายใดมาอ้างอิง ซึ่งเป็นการคิดเอาเอง เพราะเลื่อนไม่ได้ คนที่สั่งเลื่อนก็จะมีความผิด ขณะที่มองว่า ไม่จำเป็นต้องมีการพูดคุยหารือเพื่อทำความเข้าใจกับ กกต. อีก เพราะได้พูดคุยไปหมดแล้ว ยืนยันว่าต้องเดินหน้าในการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ อย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มท.1ดูรปภ.บ้านนายกฯยันไม่หนีม็อบปิดกทม.จ่อถกรับมือ
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=508075