ประเด็นฮอตในสังคม ที่สุดแห่งปี 2556

ประเด็นฮอตในสังคม ที่สุดแห่งปี 2556

ประเด็นฮอตในสังคม ที่สุดแห่งปี 2556
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในปี 2556 เกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมากมาย มีหลายประเด็นที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากสังคมให้ความสนใจติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นประเด็นฮอตที่ถูกพูดถึงมากที่สุดแห่งปี

 


ละคร "เหนือเมฆ 2" ถูกสั่งแบน

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สุดในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ตัดสินใจถอดละครเรื่อง "เหนือเมฆ 2" ออกจากผังรายการ ทั้งที่ยังเหลืออีก 3 ตอนจึงจะจบ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าเนื้อหาของละครที่เกี่ยวกับนักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่นและมีการเสียดสีนักการเมืองในรัฐบาล จึงทำให้ช่อง3 ได้รับใบสั่งจากอำนาจมืดเข้ามาแทรกแซงบีบบังคับสั่งระงับออกอากาศ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารช่อง 3 ออกมาชี้แจงว่า การระงับออกอากาศเป็นการตัดสินใจของช่องเอง เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม มีบทรุนแรง ขัดต่อมาตรา 37 พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีใบสั่งจากการเมืองแต่อย่างใด

 


"ตุ๊กตาเฟอร์บี้" ของเล่นยอดนิยมของคนมีเงิน

ถ้าพูดถึงของเล่นที่มาแรงที่สุด เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คงจะหนีไม่พ้น "ตุ๊กตาเฟอร์บี้" ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ดารา คนดัง ก็ต่างต้องมีเจ้าตุ๊กตาหุ่นยนต์ตัวนี้ไว้คู่กาย ทั้งที่ราคาของมันนั้นอยู่ในหลักหลายพันขึ้นไปทั้งสิ้น เฟอร์บี้ถือกำเนิดเมื่อ 10 กว่าปีก่อน และกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง จุดเด่นของมันคือ เป็นตุ๊กตาที่สามารถพูด ขยับปาก ขยับตา และเต้นได้ มีปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนสัตว์เลี้ยง แถมยังพัฒนาให้สามารถสั่งการผ่านแอพลิเคชั่นในมือถือได้ด้วย แต่ในปัจจุบัน กระแสความนิยมของตุ๊กตาเฟอร์บี้ก็เริ่มเลือนหายไปในเวลาเพียงไม่นาน 




อุ้มฆ่า เอกยุทธ อัญชันบุตร

นายเอกยุทธ อัญชันบุตรนักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์จอมแฉฝีปากกล้า เจ้าของเว็บไซต์ ไทยอินไซเดอร์ ซึ่งต่อต้านรัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกลักพาตัวหายตัวไปอย่างลึกลับ ก่อนเจ้าหน้าที่จะเริ่มแกะรอยหาเบาะแส ในที่สุด คดีก็คลี่คลายเมื่อตำรวจเค้นสอบ นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถของนายเอกยุทธจนรับสารภาพว่าเป็นมือฆ่า เนื่องจากต้องการชิงทรัพย์ 5 ล้านบาท และโกรธแค้นที่แฟนตนเองถูกนายเอกยุทธไล่ออกจากงาน จึงทำการลักพาตัว ลงมือฆาตกรรมและนำศพไปฝังอำพรางไกลถึง จ.พัทลุง โดยต่อมาผู้ต้องหาสารภาพว่ามีคนมีสีจ้างวานฆ่านายเอกยุทธด้วยเงิน 3 ล้าน แต่ก็ได้กลับคำให้การในชั้นศาล และขอต่อสู้คดี จึงทำให้คดีนี้ยังคงยืดเยื้อต่อไป

 

หลวงปู่เณรคำ พระฉาวแห่งปี

ในช่วงเดือนมิถุนายน เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีภาพหลุดพระสงฆ์ชื่อดัง นั่งเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว สวมแว่นตาดำ ใช้โทรศัพท์และกระเป๋าราคาแพง ซึ่งมีการร้องเรียนว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งพระรูปนี้คือพระวิรพล สุขผล หรือที่เรียกกันว่า "หลวงปู่เณรคำ" นอกจากนี้ยังมีภาพหลุดชายหน้าคล้ายพระรูปนี้นอนอยู่กับสีกา ตามมาด้วยกรณีหญิงสาวหลายคนออกมาแฉว่าเป็นภรรยาของพระวิรพลและมีลูกด้วยกันในขณะที่ยังเป็นพระ ด้านลูกศิษย์แฉมีการฉ้อโกงหลอกลวงให้คนบริจาคเงิน เพื่อสร้างพระแก้วมรกตจำลอง แล้วนำเงินดังกล่าวไปซื้อรถหรู สร้างบ้านหลังใหญ่ ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาว พระวิรพลได้เดินทางหลบหนีไปยังต่างประเทศ และในขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวกลับมาดำเนินคดีได้

 


คราบน้ำมันรั่ว เกาะเสม็ด

27 กรกฎาคม ท่อน้ำมันในเรือบรรทุกน้ำมันดิบของ บริษัทพีทีที โดยรอบ เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เกิดแตกขึ้นมา ทำให้น้ำมันดิบรั่วออกมากลางทะเล บริเวณท่าเทียบเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด คลื่นลมทะเลพัดแรงจนคราบน้ำมันเข้าไปยังชายฝั่งอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ทำให้หาดทรายกลายเป็นสีดำกว่า 1 กม. ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ วิถีชีวิตชาวบ้าน และการท่องเที่ยว โดยเจ้าหน้าที่ต่างระดมกำลังช่วยกันขจัดคราบน้ำมันกันอย่างเร่งด่วน ในขณะเดียวกันในทุกๆภาคส่วนต่างกระตือรือร้นหาวิธีช่วยเหลือ เพื่อคืนความสวยงามให้กับเสม็ดอีกครั้ง

 

คัดค้านเขื่อนแม่วงก์

จากกรณีที่รัฐบาลมีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยจะใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 13,280 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้างถึง 8 ปี ซึ่งนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร ชี้ว่าการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ไม่ได้ช่วยเรื่องน้ำท่วมอย่างแท้จริง เพราะป้องกันได้เพียง 20% ต้องใช้เวลาสร้างถึง 8 ปี ไม่คุ้มค่ากับการรอคอย โดยนายศศินพร้อมเครือข่ายนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้เดินรณรงค์คัดค้านจากเขื่อนแม่วงก์ถึงกรุงเทพฯระยะทาง 388 กม. กระตุ้นให้สังคมตื่นตัวและจริงจังกับการศึกษาถึงผลกระทบในการสร้างเขื่อน จนเกิดกระแสการคัดค้านอย่างกว้างขวางในวงการอนุรักษ์และกลุ่มประชาชน

 

 

แม่ยายสั่งฆ่า "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์"

วันที่ 19 ตุลาคม นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกลอบยิงจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งตำรวจได้ตั้งประเด็นการสังหารไว้หลายเรื่อง โดยให้น้ำหนักไปที่ประเด็นความโกรธแค้นส่วนตัวมากที่สุด และได้ตามสืบสวนแกะรอยจนสามารถจับกุมมือปืนคนรับงานและจัดหามือปืน กระทั่งสาวจนหาตัวผู้จ้างวานได้ ซึ่งก็คือ นางสุรางค์ ดวงจินดา แม่ของ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ โดย นางสุรางค์ อ้างว่าแรงจูงใจการจ้างวานฆ่ามาจากการที่ นายจักรกฤษณ์ ทำร้ายลูกสาวจนถึงขั้นแท้งลูก

 

คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงส่วนใหญ่ เห็นด้วยในวาระที่ 2 และ 3 ของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ แบบสุดซอยหรือเหมาเข่ง เพื่อล้างความผิดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตต่าง ๆ ทำให้พรรคฝ่ายค้านและประชาชนออกมาคัดค้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม จนมีการชุมนุมทั่วประเทศ เริ่มจากเวทีการชุมนุมต่อต้านของพรรคประชาธิปัตย์ บริเวณสถานีรถไฟสามเสน มีสัญลักษณ์คือการเป่านกหวีด ต่อมาได้ยกระดับการชุมนุมโดยใช้ถนนราชดำเนินเป็นเวทีหลัก มีการเดินขบวนเป่านกหวีดทั่วกรุงเทพฯ และนำไปสู่การชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ยังคงยืดเยื้อมาจนขณะนี้

 

 

คําพิพากษาศาลโลก คดีเขาพระวิหาร

กัมพูชายื่นคำร้องต่อศาลโลก ขอให้ตีความคำพิพากษาของศาลเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 กรณีปราสาทพระวิหาร ศาลโลกอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร จากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 11 พศจิกายน ซึ่งศาลไม่ได้ตีความเกินขอบเขตคำพิพากษาเดิม เมื่อปี 2505 โดยพิพากษาเฉพาะตัวปราสาทไม่แตะพื้นที่ 4.6 ตร.กม. และสั่งย้อนดูวรรค 98 ของคำพิพากษาเดิม ภายหลังศาลโลก อ่านคำพิพากษานักวิชาการของไทยต่างตีความกันไปหลายแง่มุม
ซึ่งท่านทูตวีระชัย แถลงว่าศาลโลกไม่ได้ให้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร และภูมะเขือ แก่กัมพูชา แต่จะมีพื้นที่เล็กมากๆ ซึ่งไทยและกัมพูชาจะหารือกันต่อไป

 

 

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมบุกทำเนียบ

วันที่ 1-2 ธ.ค. ได้เกิดเหตุความวุ่นวายจากการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุมผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่พยายามพังแนวแบริเออร์ ที่บริเวณแยกพล 1 ก่อนถึง บช.น.และสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีการยิงแก๊สน้ำตาและน้ำผสมสารเคมีออกมาจากฝั่งตำรวจหลังแนวแบริเออร์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ชุมนุมใช้กระสอบทรายชุบน้ำจำนวนมากใช้ในการคลุมแก๊สน้ำตา รวมทั้งมีหน่วยแนวหน้าคอยเก็บลูกแก๊สน้ำตาขว้างกลับไปทางฝั่งตำรวจ ซึ่งผลจากการเผชิญหน้าส่งผลให้มีประชาชน ช่างภาพสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก การเผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมเป็นไปด้วยความตึงเครียด

 

 

"ไอ้หนุ่ย" ฆาตกรฆ่าข่มขืนเด็กต่อเนื่อง

หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพวงจรปิด น้องการ์ตูน เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ถูกพาตัวหายไปจากย่านสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง นำไปสู่การจับกุมตัว นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง ไม่มีนามสกุล ผู้ต้องหาลักพาตัวน้องการ์ตูน ที่สารภาพว่าได้ลงมือฆ่าข่มขืนเด็กหญิงแล้วทิ้งไว้ในพงหญ้า โดยเจ้าหน้าที่พบกะโหลกมนุษย์ที่ยืนยันแล้วว่าเป็นน้องการ์ตูนจริง ซึ่งเรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เมื่อนายหนุ่ยสารภาพว่าเคยก่อเหตุกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีมานับสิบครั้ง และฆ่าเด็กไปแล้ว 4 ราย จากการขยายผล คำสารภาพได้เชื่อมโยงกับกรณีเด็กหายอีก 2 รายที่จ.เลย นับเป็นคดีฆ่าข่มขืนเด็กที่สะเทือนสังคมที่สุดในปีนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook