คลื่นยักษ์ซัดใต้-ชี้เป็นสตอร์มเซิร์จ
นายสมิทธ กล่าวต่อว่า สำหรับคลื่นที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หากเข้ามากระทบชายฝั่งทะเล 1 ครั้ง จะสามารถกัดเซาะพื้นที่ได้ประมาณ 10 - 20 ซ.ม. ซึ่งการกัดเซาะแต่ละครั้งต้องขึ้นกับความรุนแรงของคลื่นและความเร็วของลม โดยอาจส่งผลให้สิ่งก่อสร้างของประชาชนที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลได้รับความเสียหาย จึงอยากให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ไม่ว่าจะเป็น อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี จ.พัทลุงจนถึงจ.นราธิวาส ต้องคอยสังเกตภูมิอากาศในช่วงนี้ หากพบว่า อากาศมีอุณหภูมิต่ำลงก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นอีก จึงอยากให้เรือประมงและเรือโดยสารไม่ควรออกจากชายฝั่งในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามหากเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนคลื่นขนาดใหญ่ก็จะหมดไป
นายสมิทธ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเคยเกิดสตอร์มเซิร์จขนาดใหญ่ขึ้นที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ.2505 ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก สำหรับสตอร์มเซิร์จขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจะมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค. เนื่องจากลมมรสุมจากตะวันตกเฉียงใต้ได้พัดผ่านเข้ามาที่บริเวณอ่าวไทย