ฮือฮา!! ผบ.ตร.ออกคำสั่งให้ รอง ผบ.ตร.ถึงผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่คล้ายร้อยเวร

ฮือฮา!! ผบ.ตร.ออกคำสั่งให้ รอง ผบ.ตร.ถึงผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่คล้ายร้อยเวร

ฮือฮา!! ผบ.ตร.ออกคำสั่งให้ รอง ผบ.ตร.ถึงผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่คล้ายร้อยเวร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. มีคำสั่งที่ 576/2556 ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.ถึงผู้ช่วย ผบ.ตร.) ปฎิบัติหน้าที่แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการบริหารจัดการศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเวรอำนวยการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

คำสั่งระบุว่า มอบหมายภารกิจให้มีเวรอำนวยการประจำ ตร. รับผิดชอบ ดูแล ระบบสาธารณูปโภค ความสะอาด การรักษาความปลอดภัย และการจราจร ภายในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บัญชาการ รองผู้บังคับการ และรองผู้กำกับการ ของหน่วยงานมีที่ตั้งภายในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สับเปลี่ยนหมุนเวียนปฎิบัติหน้าที่ทุกวัน มีที่ทำการอยู่ที่บริเวณกองรักษาการณ์ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ด้านตร. ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเวรอำนวยการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ มีการบูรณาการในการปฏิบัติงานร่วมกัน ตลอดจนเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ขับเคลื่อนการปฎิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นจึงให้ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับจเรตำรวจแห่งชาติ รองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่า ปฎิบัติหน้าที่แทนผบ.ตร. ในการบริหารจัดการศปก.ตร. และเวรอำนวยการ โดยเริ่มปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-09.00 น.

สำหรับการควบคุม กำกับ ดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของเวรศปก.ตร. และเวรอำนวยการ โดยลงนามในสมุดข้อสั่งการและแนะนำอย่างน้อย 1 ครั้ง โดยดูแล ระบบรักษาความปลอดภัย ความสะอาด การจราจร และระบบระบายน้ำทิ้ง ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ลงนามในสมุดข้อสั่งการและแนะนำ ซึ่งจัดไว้กองรักษาการณ์ กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรายงานสรุปสถานการณ์ประจำวันให้ทราบที่ห้องติดตามและบริหารสถานการณ์ (Tactical Operation Center : TOC) ซึ่งจัดไว้ที่ห้องติดตามและบริหารสถานการณ์ นอกจากนี้สั่งและปฎิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เฉพาะกรณีที่ฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วน ที่หากไม่สั่งการแล้วจะเกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง แล้วรายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบ ในโอกาสแรกที่พึงกระทำได้ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook