ผู้ว่าฯ อยุธยาชี้มวลน้ำก้อนใหญ่จากเหนือไหลมาถึงใน 2-3 วันนี้

29 ก.ย. - เมื่อเวลา 16.00 น. นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวหลังจากนำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า ระดับน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ยังทรงตัวในระดับสูง แต่ในระยะ 2-3 วันนี้ เชื่อว่าจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่ท่วมหนักในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และนครสวรรค์ ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในระดับสูง ซึ่งจะทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ เพิ่มสูงขึ้นไปอีก ประมาณ 30 เซนติเมตร แต่ยืนยันว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดในปีนี้ จะไม่ถึงปี 2554 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ขอยืนยันว่า พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้ง 5 แห่งของจังหวัด ได้ทำแนวป้องกัน ด้วยการยกระดับถนนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา จากอำเภอท่าเรือ ไปจนถึง อำเภอบางปะอิน สูงกว่าระดับน้ำท่วมปี 2554 ถึง 1 เมตรครึ่ง และขณะนี้ทำหน้าที่ เป็นแนวป้องกันน้ำท่วมได้อย่างดี

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม 8 อำเภอของจังหวัดพิษณุโลก ว่ายังไม่คลี่คลาย หลังเกิดฝนตกหนักทั้งในพื้นที่ และบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ส่งผลเกิดน้ำป่าไหลหลาก ตลอดจนน้ำล้นตลิ่ง อาทิ แม่น้ำวังทอง และแม่น้ำแควน้อย และลำคลองสาขาเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรขยายวงกว้าง นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าขณะนี้มีนาข้าวได้รับความเสียหาย 10,259 ไร่ พืชสวน 150 ไร่ พืชไร่ 2,038 ไร่ บ่อปลา 25 บ่อ ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย 7 สาย สะพานไม้พัง 2 แห่ง ฝาย 2 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง โดยได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ คือ อำเภอนครไทย ,ชาติตระการ ,วังทอง , เนินมะปราง ,บางกระทุ่ม , บางระกำ , วัดโบสถ์ และอำเภอเมือง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินจากน้ำท่วมแล้ว

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำชี จ.ร้อยเอ็ด ได้เอ่อล้นและหลากเข้าท่วมนาข้าวนับพันไร่ และถนนสายร้อยเอ็ด-อาจสามารถ ซึ่งเป็นเส้นทางต่อเชื่อมไปยังอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด และอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เจ้าหน้าที่แขวงการทาง ต้องทำแนวเขต พร้อมตั้งป้ายเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง ขณะที่จังหวัดประกาศเตือนให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำชี เฝ้าระวังสถานการณ์ เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ หากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง - สำนักข่าวไทย