ปานเทพชี้ปชช.ต้องการนักการเมืองสุจริต

ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ ชี้ ประชาชนต้องการนักการเมือง ที่สุจริตเที่ยงธรรม ยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยสำนักป้องกันการทุจริตภาคการเมืองได้จัดงานส่งเสริมจริยธรรมนักการเมืองไทยขึ้น เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินกิจกรรมนักการเมืองที่คนไทยต้องการ ผ่านกิจกรรมค้นหาคุณสมบัติผู้แทนที่ดี ให้องค์กรภาคการเมืองและนักการเมือง ภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปทราบ เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมือง ให้ตระหนักในการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต เที่ยงธรรม เป็นอิสระ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ  โดยภายใน
งานมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบ ด้านการป้องกันการทุจริต และมอบเกียรติบัตรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 28 องค์กร การปาฐกถา เรื่อง "จริยธรรมของนักการเมืองไทย"

โดย นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และการแสดงจำอวดหน้าม่าน สะท้อนนักการเมืองที่คนไทยต้องการ โดยมีสื่อมวลชน สมาชิกเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ กว่า 250 คน เข้าร่วมงาน ทั้งนี้จากกิจกรรมดังกล่าว ทำให้ทราบว่า ประชาชนต้องการนักการเมืองที่ทำปฏิบัติหน้าที่และแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตเที่ยงธรรม และมีความอิสระ เพื่อรักษาไว้ ซึ่งประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ และประชาชน ไม่ต้องการนักการเมืองที่พูดไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีเหตุผล

นอกจากนี้ นายปานเทพ ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาเรื่อง "จริยธรรมของนักการเมืองไทย" ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยเรามีความหวัง เพราะประชาชนอยากได้นักการเมืองที่มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก โดยที่ไม่ตกอยู่ภายใต้อามิสสินจ้างใด ๆ มุมมองของตนคำว่าจริยธรรม หมายถึงสิ่งที่ปฏิบัติเรื่องการทำความดี คำว่า "จริย" มาจากคำว่าทางเดิน เพราะฉะนั้น จริยธรรมคือทางเดินที่ดี เป็นสัจธรรม ซึ่งการจะมีทางเดินที่ดีได้ นักการเมืองต้องมีคุณธรรม ต้องประพฤติตามหลักศาสนา และทางเดินที่ถูกต้องมากที่สุด ต้องเป็นทางเดินสายกลาง เพราะเป็นทางที่ปลอดภัยที่สุด หากนักการเมืองยึดทางเดินนี้ ก็จะมั่นใจว่าเป็นนักการเมืองที่ดี โดยยึดหลักมรรค 8 และประมวลจริยธรรมไว้ปฏิบัติ เพื่อเป็นกรอบในการปฏิบัติงานด้วย

ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้อง เหมือนกับที่ให้คำปฏิญาณตนต่อพระบรมฉายาลักษณ์ ว่า นักการเมือง
จะต้องซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใส