เลี่ยง! ถ.วิภาวดีขาออก หน้าปตท.ม็อบค้านขึ้น LPG บุก สนง.ใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงาน ที่บริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 23 สิงหาคม ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางเข้ามารวมตัวมากขึ้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 500 คน พร้อมขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลบนรถเครื่องขยายเสียง รวมทั้ง ขึ้นป้ายข้อความโจมตีรัฐบาล พร้อมทั้งมีการเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมการชุมนุมมากขึ้น

ส่วนบรรยกาศที่ บริเวณด้านหน้า สำนักงานใหญ่ ปตท.เต็มไปด้วยกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยปราบปรามจลาจล ที่มีอุปกรณ์พร้อมทั้งโล่และกระบอง จากสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวทำให้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เรียกผู้บริการ ปตท.เข้าหารือด่วน เมื่อเวลา 14.00 น.

ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น. นายพงษ์ศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปทำเนียบฯ ว่า เรื่องการชุมนุมเป็นสิทธิ์ที่จะกระทำได้ภายใต้กฎหมาย และหากดูจะพบว่าแกนนำของผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งเป็นคณะกรรมาธิการที่เคยเรียกผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และ ปตท.เข้าชี้แจงหลายต่อหลายครั้ง เอกสารส่งไปให้เต็มตู้ อธิบดีกรมเชื้อเพลิง เคยเล่าให้ตนฟังว่าเวลาเรียกเข้าไปให้ข้อมูลก็ถูกตำหนิ แต่พอจะชี้แจงกลับเดินหนี

รมว.พลังงาน กล่าวว่า อยากให้ประชาชนคิดวิเคราะห์ถึงการปรับโครงสร้างราคาครั้งนี้ว่าหน่วยราชการไม่ได้ทำตามอำเภอใจ โครสร้างราคามีการตรวจสอบ เพื่อแก้ปัญหาความคดโกรง ความไม่เป็นธรรมที่กองทุนน้ำมันจะต้องเข้าไปชดเชยให้ผู้ใช้แอลพีจี เป็นเงินกว่า 8 ล้านบาทแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะแอลพีจีมีผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นคนรวย มีฐานะ และโครงสร้างที่ผ่านมารัฐบาลจะเก็บเงินจากผู้ใช้ น้ำมันเพื่อมาอุดหนุนราคาแอลพีจี แต่กลุ่มผู้ใช้น้ำมันกลับเป็นคนจนเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น คนขับรถมอเตอร์ไซค์ คนขับรถตู้ เป็นต้น

"ทั้งนี้ การปรับราคาแอลพีจีของรัฐบาลนั้น จะแยกกลุ่มผู้ได้รับสิทธิซื้อก๊าซแอลพีจีราคาเดิม ออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าฟรี ซึ่งรัฐบาลจะช่วยเหลือ 7.6 ล้านครัวเรือน จากทั้งหมด 18 ล้านครัวเรือน 2.เป็นกลุ่มที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่เกิน 2 แสนครัวเรือน และ 3.กลุ่มร้านค้า หาบเร่แผงลอย เบื้องต้นมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 1.8 แสนราย ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ ไม่ได้รับผลกระทบ จึงไม่มีการปรับขึ้นราคาอาหาร ตามที่ผู้ชุมนุมกังวล

เมื่อถามว่าหากการชุมนุมยืดเยื้อและรุนแรง กระทรวงพลังงานจะมีวิธีรับมืออย่าไร นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากจะมีการขอเจรจาก็คงต้องดูเหตุผลก่อน ถ้าไม่มีเหตุผลก็จะไม่รับเจรจาเพราะยืนยันจะต้องขึ้นราคาแน่นอน เนื่องจากเป็นมติ ครม.ที่กำหนดไว้ และได้ศึกษาถึงความจำเป็นมาหลายรัฐบาลแล้วเพียงแค่ตนทำให้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น

บรรยากาศการชุมนุม เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ปรากฏว่า มีฝนตกลงมาโปรยปราย แต่ไม่มากหนัก ผู้ชุมนุมจึงหลบตามพื้นที่ร่มมุมต่างๆ ในส่วนของการจราจรนั้น ขณะนี้ถ.วิภาวดีฯ ขาออกบริเวณหน้า ปตท. รถไม่สามารถวิ่งได้แล้ว โดยหลีกหนีไปวิ่งในช่องด้านในแทน เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวกันอย่างหนาแน่นกินถนนไปกว่า 3 เลนส์ด้วยกัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เริ่มตรึงกำลังหนาแน่นมากขึ้นเช่นกัน

ด้านแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนี้ ได้ขึ้นประกาศบนรถหาเสียง แจ้งว่า การชุมนุมวันนี้เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี ของรัฐบาล โดยเป็นการรวมกลุ่มกัน ทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ในการยื่นเสนอให้มีการยกเลิกการปรับราคาก๊าซแอลพีจี พร้อมกันนี้ จะให้เวลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐบาลทบทวน ถึงวันที่ 28 สิงหาคมนี้ หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทางผู้ชุมนุมจะเดินทางกลับมาชุมนุม ที่ หน้าสำนักงานใหญ่ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อีกครั้งในวันที่ 1 กันยายน และจะชุมนุมต่อเนื่องไปถึงวันที่ 2 กันยายน โดยมีเป้าหมายปิดสำนักงานใหญ่ของปตท.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัย ของแกนนำ ได้สร้างความชอบใจ ให้กับผู้ร่วมชุมนุม โดยส่งเสียงโห่ร้องเป็นระยะ และตอบรับจะมาร่วมชุมนุมอีกครั้ง

ขณะที่รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของบริษัทปตท. แจ้งว่า ขณะนี้ ยังคงตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 400 นาย ภายในบริษัท ซึ่งจากการคำนวนเบื้องต้น ยังถือว่า เพียงพอ และยังไม่เรียกกำลังเสริม สำหรับระดับการเตือนภัยของบริษัทขณะนี้ อยู่ที่ ระดับ 3 คือ สีส้ม พร้อมกันนี้ ได้มีการเจ้งผู้เกี่ยวข้อง กับบริษัทปตท.ให้ทราบ หากผู้ชุมนุม มีการเข้ามาในบริษัท และมีการเข้ามาทำลายข้าวของเช่น ทุบกระจก จะให้คนในบริษัทออกจากพื้นที่ และห้ามคนนนอกเข้ามา โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่เท่านั้น รวมถึงอาจจะปรับระดับการเตือนเป็นระดับ 4 สีแดง หากเกิดเหตุรุนแรง

ขอบคุณภาพจากทวิตเตอร์ @Pat_ThaiPBS