ทบ.ไม่เชื่อโจรหยุดป่วนรอมฎอน-คนสะเดาค้านพท.ไฟใต้

ทบ.ไม่เชื่อโจรหยุดป่วนรอมฎอน-คนสะเดาค้านพท.ไฟใต้

ทบ.ไม่เชื่อโจรหยุดป่วนรอมฎอน-คนสะเดาค้านพท.ไฟใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองโฆษกกองทัพบก ระบุ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ยังคงก่อเหตุ ชี้ยังไม่สามารถเชื่อใจได้ ขณะสั่งเจ้าหน้าที่เข้มช่วงเดือนรอมฎอน ขณะที่ ชาว อ.สะเดา ค้าน บีอาร์เอ็น รวมเป็นพื้นที่ความรุนแรง

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนรอมฎอน ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ยังคงมีการก่อเหตุ โดยการดำเนินการของฝ่ายตรงข้ามในขณะนี้ ยังไม่สามารถไว้ใจได้ โดยเฉพาะยังมีกระแสข่าวว่ามีบางกลุ่มพยายามใส่ร้ายบิดเบือนความผิดให้เจ้าหน้าที่ด้วยการสร้างกระแสข่าวว่าเหตุความรุนแรงเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนมีความอดทน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ทหาร ตำรวจ และภาครัฐจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และยืนยันว่าจะไม่ประมาท เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าปฏิกิริยาการก่อเหตุจะมีขึ้นหรือลดลงอย่างไร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงต้องเตรียมความพร้อมไปอีกกว่า 30 วัน ช่วงเดือนรอมฎอน ขอให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณ ใช้หลักเหตุผลและการบริโภคข่าวสารที่มีความละเอียดอ่อน เพราะฝ่ายตรงข้ามพยายามจะใช้รูปแปบการดำเนินการมวลชนเพื่อให้เกิดผลในด้านจิตวิทยาสื่อสารแฝงผ่านกลุ่มมวลชนหรือ องค์กรที่ยังมีทัศนคติเชิงลบต่อเจ้าหน้าที่รัฐ

 

ชาวสะเดา ค้าน ไม่ใช้พื้นที่ความรุนแรง

หลังจากที่กลุ่มบีอาร์เอ็น ประกาศให้ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมเป็นพื้นที่ในการก่อเหตุรุนแรง ล่าสุดมีเสียงสะท้อนตรงกันจากทุกฝ่ายใน อ.สะเดา ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกลุ่มบีอาร์เอ็น โดย นายจรัส  หมัดเสี๊ยะ กำนัน ต.สำนักขาม อ.สะเดา เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับทุกฝ่ายใน อ.สะเดา ทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ภาคธุรกิจ และชาวบ้าน ไม่เห็นด้วยกับการประกาศของกลุ่มบีอาร์เอ็น เนื่องจาก อ.สะเดา ไม่ใช่พื้นที่ ที่เชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และไม่เคยเกิดเหตุด้านความมั่นคง เป็นเมืองเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย และจะเป็นประตูสู่ประชาคมอาเซียน ที่มูลค่าการนำเข้าส่งออกมากที่สุดในประเทศไทย กว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี รวมทั้ง ประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิมใน อ.สะเดา ก็อยู่กันอย่างสงบ ไม่เคยมีความขัดแย้ง แม้แต่ ชาวไทยมุสลิม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มาทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ อ.สะเดา เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญความสัมพันธ์ในระดับชายแดน ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ก็อยู่กันแบบเมืองพี่เมืองน้อง ซึ่งจากการพูดคุยกับ ดาโต๊ะรัฐเคดาห์ ก็ไม่เห็นด้วยกับในเรื่องนี้ แนวทางการเจรจาจึงน่าจะเรียกร้องให้ กลุ่มบีอาร์เอ็น ยกเลิกแนวทางดังกล่าว เพราะชาวสะเดา ไม่เห็นด้วยและขออยู่กันอย่างสงบ

 

ยิงถล่มมัสยิดปัตตานีไร้เจ็บ

เจ้าหน้าที่ EOD จ.ปัตตานี นำกำลังเข้าตรวจสอบ เหตุคนร้ายก่อกวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่มัสยิดบ้านเกาะตา หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 10 ปลอก ตกบริเวณหน้ามัสยิด จากการสอบสวนที่เกิดเหตุ ทราบว่า เมื่อตอนดึกที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้รถยนต์กระบะ อีซูซุ สีบรอนซ์ เป็นยานพาหนะเข้ามาจอดบริเวณมัสยิด และใช้อาวุธปืนยิงใส่มัสยิด แต่ระยะห่างจากมัสยิดอยู่ จนทำให้กระสุนตกบริเวณลานมัสยิด ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 

หน่วยข่าวความมั่นคง เชื่อบึ้มทหารยะลาเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่

จากกรณีที่ เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ทหารพรานชุดลาดตระเวนเส้นทาง ร้อย ทพ.3306 ซึ่งเดินเท้าลาดตระเวนเส้นทางเข้าเขื่อนบางลาง ที่ หมู่ 1 บ้านสนามบิน ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนทำให้มี อส.ทพ. ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย เหตุเกิดเมื่อวานนี้นั้น ความคืบหน้าล่าสุด มีรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ ว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นกับชุดทหารลาดตระเวน ที่ อ.บันนังสตา เป็นการตอบโต้ของกลุ่มแนวร่วม ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา

โดยก่อนหน้านี้ ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบยิง นายมะยาหะรี อาลี เสียชีวิต ซึ่งผู้ตายเป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่ อ.บันนังสตา มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนตาดีกา บ้านบันนังกูแว หมู่ 4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หามูลเหตุของการลอบสังหารผู้นำศาสนาในครั้งนี้ อย่างเร่งด่วนแล้ว

ศปร.เร่งหาข้อมูลป่วนใต้ก่อนถามบีอาร์เอ็น

นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักภาคประชาสังคม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงาน ศูนย์ประสานงานและส่งเสริมสันติภาพในช่วงเดือนรอมฎอนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปร.) เปิดเผยว่า คณะทำงานดังกล่าว ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นตามความประสงค์และคำแนะนำของ สำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในห้วงเดือนรอมฎอน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการสอดรับกับกระบวนการพูดคุยสันติภาพที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้เกิดสันติภาพในพื้นที่ ซึ่งก็ได้เห็นด้วยกับการแต่งตั้งคณะทำงานนี้ขึ้นมา

ทั้งนี้ คณะทำงาน กำลังเร่งหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะสอบถามไปยัง กลุ่มบีอาร์เอ็น ว่า เป็นการกระทำของฝ่ายใด


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook