อภิสิทธิ์ ชวนคนไทยร่วมน้อมเกล้าฯถวายพระพร ในหลวง-พระราชินี ลั่น 3 ปีขอทุ่มเทแก้ปัญหาชาติ-ศก.

อภิสิทธิ์ ชวนคนไทยร่วมน้อมเกล้าฯถวายพระพร ในหลวง-พระราชินี ลั่น 3 ปีขอทุ่มเทแก้ปัญหาชาติ-ศก.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกฯชวนคนไทยตั้งจิตอธิษฐาน น้อมเกล้าฯถวายพระพรชัยมงคลในหลวง-พระราชินี ให้คนทั้งประเทศมีความสุขในปีใหม่ ลั่น3ปีต่อจากนี้ จะทุ่มเทแก้ปัญหาชาติ ลดความขัดแย้ง ฟื้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่น พัฒนาให้เจริญก้าวหน้า ชวนขำชาวบ้านอวยพรให้เป็นนายกฯอีกครั้ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2552 เมื่อค่ำวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า เนื่องในโอกาสมงคลดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2552 ในนามของรัฐบาล ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า พร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐาน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้โปรดอภิบาลประทานจตุรพิธพรชัย ให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ พระบารมีแผ่ไพศาล ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปกกระหม่อมปวงชนชาวไทยตราบกาลนิรันดร์ ปี 2551 เป็นปีที่ได้นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจอย่างใหญ่หลวง ของประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ จากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งทรงมีพระเมตตาและพระกรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ และได้มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพอย่างสมพระเกียรติ ด้วยความอาลัยรักยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปี 2551 ประเทศไทยได้เกิดปัญหาในหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่ได้ขยายวงกว้างและกลายเป็นวิกฤตของประเทศ และได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของประเทศอย่างรุนแรง รวมทั้งเป็นภาวะที่สร้างความทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากเกรงว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าว จะไม่สามารถหาทางออกได้ และอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงที่ทำให้ประเทศไทยเสียหายมากยิ่งขึ้น

ผมในนามของผู้นำรัฐบาล ที่ได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศ ซึ่งจะเป็นเวลา 3 ปี นับจากนี้ต่อไป ขอให้ความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลจะมุ่งมั่น ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และกำลังสติปัญญาอย่างเต็มความสามารถ ในการแก้ไขปัญหาทัะเร่งพัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามความมุ่งหวังของพี่น้องประชาชนนายกรัฐมนตรีกล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ในปี 2552 ซึ่งเป็นปีแรกของการบริหารประเทศ รัฐบาลจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และนำความเชื่อมั่นของประเทศให้กลับคืนมาโดยเร็ว ทั้งนี้การสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ ถือเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาล รวมทั้งการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งรัฐบาลจะร่วมมือกับภาคเอกชนและผู้ประกอบการ หามาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในภาคแรงงานโดยเร็ว รวมถึงปัญหาของพี่น้องเกษตรกรและประชาชนทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องในท้องถิ่นทุกภูมิภาคของประเทศ

ปี 2552 จะเป็นปีแห่งความหวังของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ที่ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน และในโอกาสขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2552 นี้ ผมและคณะรัฐมนตรีขอส่งความปรารถนาดีมายังพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน ขออัญเชิญอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อีกทั้งพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้โปรดบันดาลประทานพรให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง สมบูรณ์ มีจิตใจที่เข้มแข็ง ประสพความสุขและความสำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการนายกฯกล่าว

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดพักเลขที่ 183 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ให้ข้าราชการ นักการเมือง และประชาชนเข้าอวยพรเนื่องในวันปีใหม่ พร้อมกันนี้นายชวน ได้จัดขนมจีนน้ำยา น้ำชา กาแฟ ซาลาเปา ข้าวเหนียว และโรตี มาเลี้ยงผู้ที่เข้าอวยพร

ทั้งนี้ นางแต๋ว เจริญศักดิ์ อายุ 58 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าในเขตเทศบาลนครตรัง ได้อวยพรให้นายชวน มีสุขภาพกายแข็งแรง หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองและขอให้ครอบครัวมีความสุข หากเป็นไปได้อยากให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งนายชวนได้หัวเราะและกล่าวว่า แม้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยังทำงานรับใช้ประชาชนเหมือนเดิม จากนั้นนางแต๋ว ได้มอบคาถาป้องกันโจรผู้ร้ายทำร้ายใส่เศษกระดาษ ซึ่งมีข้อความว่า เอเต ยันโต สุโขขะโร สัพพะขะโต วิระสะจิ จีทีวิสัง อะคะโร ปุปะ พุพะ พะทะ นะโมพุทธายะ ส่งให้กับนายชวน ซึ่งนางต๋วอ้างว่า เป็นคาถาที่ใช้ในครอบครัวมาตั้งแต่บรรพบุรุษและได้ผลทุกครั้ง จึงอยากให้นายชวนใช้ท่องสำหรับป้องกันภัยจากกลุ่ม นปช.หรือคนเสื้อแดง และนายชวนได้กล่าวขอบคุณพร้อมรับปากว่าจะนำคาถาไปท่อง

ที่ จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและพร้อมนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำข้าราชการ พ่อค้าประชาชน กว่า 1,000 คน ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 250 รูป และปล่อยพันธุ์ปลา 100,000 ตัว ลงสู่แม่น้ำตาปี

ด้านนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้ยกเลิกการเปิดบ้านพักย่านเมืองทองธานี เพื่อรับอวยพรปีใหม่ โดยได้รับการเปิดเผยจากบุคคลภายในบ้านว่า นายเสนาะ และครอบครัว ได้เดินทางไปยัง จ.สระแก้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 31 ธันวาคม เพื่อเลี้ยงฉลองในเทศกาลวันปีใหม่ และจะใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวนี้อยู่ที่ จ.สระแก้ว

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมพิธีทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ที่ จ.นครพนมว่า เป็นห่วงในรอบปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นเยอะ ทำให้พี่น้องไม่ค่อยสบายใจ แต่คิดว่าความอดทนทุกอย่าง ทำให้เหตุการณ์บ้านเมืองอยู่กันมานานแล้ว ผ่านความเจริญก้าวหน้ามาทุกวันนี้ เป็นการทดสอบสังคมพอสมควร จิตใจคนไทยประเสริฐจริง ๆ จึงไม่ค่อยห่วงอะไร ขอให้มีความหวังดีต่อส่วนรวม หวังดีต่อสังคม คิดว่าบ้านเมืองอยู่รอดแน่

เรื่องส่วนตัวก็ไม่มีอะไรมาก มีแต่คนมาตื๊อให้ทำงานการเมือง บอกว่าแก่แล้ว 76 ปีแล้ว เขาว่า 76 ปีอะไรกัน พอดีเป็นหนุ่ม ไม่ใช่อะไร ไปตัดผมทรงสกินเฮดเข้า ก็เลยดูหนุ่ม จะอยู่ที่ไหนตำแหน่งอะไรรับใช้พี่น้องให้พี่น้องทุกคน พล.อ.ชวลิตกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook