เจ้าคณะจังหวัดชี้เณรคำพ้นจากความเป็นพระ

เจ้าคณะจังหวัดชี้เณรคำพ้นจากความเป็นพระ

เจ้าคณะจังหวัดชี้เณรคำพ้นจากความเป็นพระ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พระครูวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เผย พระเณรคำ พ้นจากความเป็นพระแล้ว นับตั้งแต่มีการเสพเมถุน ขณะที่ ดีเอสไอ ยัน มีหลักฐานมัด 'เณรคำ' พรากผู้เยาว์ ส่งเจ้าคณะจังหวัดพิจารณาสึกแล้ว รับ พยานชี้เอี่ยวยาเสพติด ส่ง ป.ป.ส. ตรวจ

ที่วัดป่าบ้านซำตาโตง ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระครูวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต เปิดเผยว่า จากการที่ได้รับเอกสารสรุปผลการสอบสวนของ ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แล้ว อาตมาภาพ กับคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ พระวิรพล ฉัตติโก หรือ พระเณรคำ ได้หารือร่วมกันแล้วเห็นว่า หากเป็นความจริงตามที่มีการสอบสวนของ DSI ว่า พระวิรพล มีการเสพเมถุนและมีลูก 1 คน ก็ถือว่า พระวิรพล ขาดจากความเป็นพระนับตั้งแต่มีการเสพเมถุนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ พระวิรพล ต้องรู้แก่ใจตนเอง ควรที่จะออกมาพบกรรมการสอบสวน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีที่คณะสงฆ์จังหวัดอุบลราชธานี จะมีการขับไล่ พระวิรพล โดยอ้างว่า พระวิรพล ได้ย้ายออกจากสังกัด
ตั้งแต่ปี 2549 เพื่อไปสำนักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เรื่องนี้อาตมาภาพได้สั่ง
การให้ พระครูวัชรสิทธิคุณ พระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และคณะ ประสานกับเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นจะได้นำมาประชุมร่วมกันกับคณะกรรมการสอบสวนทั้งหมด เพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนต่อไป

 

'พงศพัศ'จ่อถกกองปราบปมพระเณรคำพัวพันยาเสพติด

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในวันอังคารที่ 9 ก.ค.นี้ ตนได้รับการประสานจากกองบังคับการปราบปราม กรณีที่จะนำข้อมูลเกี่ยวกับ พระวิรพล ฉัตติโก หรือ พระเณรคำ ซึ่งมีข้อมูลที่เชื่อได้ว่า ตัว "พระเณรคำ" หรือ ลูกน้องคนสนิท น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาให้ตรวจสอบ โดยระบุว่า ในส่วนของ ป.ป.ส.เอง ในทางปฏิบัติ ก็จะดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่หากทางกองปราบฯ มีหลักฐานมาให้เพิ่มเติมก็จะขยายผลและทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป โดยในวันอังคารนี้ ตนจะหารือด้วยตนเอง

ทั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า หากสืบสวนสอบสวนพบว่า "พระเณรคำ" หรือลูกน้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ป.ป.ส.มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ที่สามารถเอาผิดได้อยู่แล้ว ส่วนมาตรการอื่นๆ อาทิ การยึดทรัพย์ ในอนาคตก็ต้องดูเป็นชั้นๆ ไป

 

DSIยันมีหลักฐานมัดพระเณรคำพรากผู้เยาว์

พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าคดีตรวจสอบ พระเณรคำ ฉัตติโก แห่งสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ว่า ขณะนี้มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเกี่ยวกับการที่ พระเณรคำ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกาคนหนึ่งที่อายุไม่ถึง 15 ปี พอที่จะนำเข้าพิจารณาเป็นคดีพิเศษได้ โดยมีหลักฐานจากการสอบปากคำตัวผู้หญิงคนดังกล่าว รวมถึงบุตรที่เกิดด้วยกัน และพยานแวดล้อมให้การสอดคล้อง ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา กระทำชำเราเด็กไม่ถึง 15 ปี และพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร

ส่วนการรับเป็นคดีพิเศษนั้น จะมีการพิจารณาสิ้นเดือนนี้ โดยวันที่ 9 ก.ค.นี้ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. สำนักพุทธศาสนา หรือ พศ. กองปราบปราม นำข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมด เพื่อแบ่งการทำงานกัน โดยได้สรุปข้อมูลการเสพเมถุนให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีฝ่ายธรรมยุต เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาวสึก พระเณรคำ ส่วนการเกี่ยวพันยาเสพติดนั้น มีพยานหลายปากให้การว่ายุ่งเกี่ยวจริง โดย ป.ป.ส. จะร่วมตรวจสอบและดำเนินการด้วย ส่วนการค้าเงินและทองคำแท่ง ก็ตรวจสอบอยู่อย่างเข้มงวด ทั้งนี้ มีประเด็นน่าสนใจเพิ่มเติมที่พบว่า พระเณรคำ ดูแลเงินด้วยตนเอง และรถหรูที่นำมาใช้ ก็จะให้คณะตรวจสอบรถหรูเข้ามาดูด้วย

 

ป.สอบพยาน'พระเณรคำ'เอี่ยวยาเสพติด ชง ป.ป.ส.ตรวจ

พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ พระเณรคำ ฉัตติโก หรือ พระวิรพล สุขผล อายุ 34 ปี ประธานสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ว่า ในวันนี้ นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะเข้ามาให้ข้อมูลกับกองปราบรามเพิ่มเติม พร้อมกับจะหารือร่วมกัน เกี่ยวกับประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เนื่องจากทรัพย์สินที่ พระเณรคำ ครอบครองไว้นั้น มีจำนวนมาก และยังไม่สามารถหาที่มาที่ไปได้

โดยในวันพรุ่งนี้เวลา 11.00 น. กองปราบปราม พร้อมด้วย ปปง. และ นายสงกานต์ จะเข้าให้ข้อมูล กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อให้ ป.ป.ส. ทำการตรวจสอบ ว่า พระเณรคำ มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประสพโชค ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กองปราบปราม เตรียมประสานติดตามตัวนักบินที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อ้างว่าเป็นผู้จัดหาเครื่องบินส่วนตัวให้ พระเณรคำ มาให้ข้อมูลในฐานะพยาน พร้อมกับฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องที่รู้เห็นพฤติการณ์ของ พระเณรคำ เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

 

 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook