เข้าสู่′โค้งที่สอง′ กระชากใจคนกรุง เลือกใคร′จูดี้-ชายหมู′

เข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ของการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

แม้ โพลล์เอแบคโค้งแรกของการเลือกตั้ง ชี้ว่า คะแนนนิยมของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ แห่งพรรคเพื่อไทย แซงนำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

แต่เวลาในการหาเสียง ที่มีทั้งหมด 6 สัปดาห์ นับจากจันทร์ที่ 21 ม.ค.ถึง 3 มี.ค. อันเป็นวันลงคะแนนเลือกตั้ง

ทำให้ยังไม่มีใครกล้ากระโดดเข้ายืนยันหรือปฏิเสธผลสำรวจดังกล่าว

แต่ผลสำรวจดังกล่าว ส่งผลต่อสภาพการหาเสียงไม่น้อย

ทั้ง 2 พรรคระดมสรรพกำลัง หวังเก็บกวาดคะแนนทุกเม็ด

เพื่อประกันชัยชนะให้ผู้สมัครของตนเอง



ฟังจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

สถานการณ์คะแนนเสียงถึงต้นสัปดาห์ที่สอง นายภูมิธรรมชี้ว่า พล.ต.อ.พงศพัศมีต้นทุนอย่างน้อยกว่า 5 แสนคะแนน

และชี้เปรี้ยงว่า วันนี้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกผู้สมัครแล้ว

คนกรุงเทพฯร้อยละ 50 ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร อีกร้อยละ 50 ยังไม่ตัดสินใจ

หากจำนวนนี้ออกมาใช้สิทธิมาก โอกาสที่จะสะวิงก็มีมากขึ้น

ใน 2 สัปดาห์สุดท้ายจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น



ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ แชมป์เก่า นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เผยว่า

ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. ปชป.จะมียุทธศาสตร์หลัก 3 ข้อ เสนอต่อคนกรุงเทพฯ

1.นำเสนอนโยบายบนพื้นฐานความจริง ปฏิบัติได้จริง ทำแผ่นพับ 10 นโยบาย 16 งานเร่งด่วน พร้อมผลงานสำคัญ 4 ปีที่ผ่านมา

2.การนำเสนอ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่เป็นคนจริงทำงานได้จริงสัมผัสได้ ไม่ได้เพ้อฝันไปวันๆ เป็นคนสร้างงานมากกว่าสร้างภาพ

และ 3.การนำเสนอความตั้งใจจริงที่อุทิศตัวทำงานเพื่อกรุงเทพฯอย่างจริงจัง

การ ปราศรัยใหญ่ของ ปชป. เมื่อ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จ ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนที่ลานคนเมือง รวมทั้งสะท้อนเข้ามาทางโซเชียลมีเดียจำนวนมาก อยากให้พรรคไปจัดปราศรัยในจุดต่างๆ

ปชป.จะปราศรัยใหญ่ดาวกระจาย 4 มุมเมือง ทุกวันศุกร์

พร้อม กับระดม ส.ส. ทั้ง ส.ส.ใต้ นำโดยนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และ ส.ส.เหนือ นำโดยนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ

เน้น 9 พื้นที่รอบนอก ได้แก่ 1.ดอนเมือง 2.บางกะปิ 3.สะพานสูง 4.บึงกุ่ม 5.คันนายาว 6.มีนบุรี 7.หนองจอก 8.คลองสามวา และ 9.ลาดกระบัง

เริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.นี้



การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ตัวเลขผู้มีสิทธิออกเสียงล่าสุด อยู่ที่ 4,333,157 คน

กกต.กรุงเทพฯตั้งเป้าให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 3 ล้านคน จากเมื่อปี 2552 ที่ออกมา 50 เปอร์เซ็นต์

ปัญหา ประการหนึ่งของการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. คือ ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ทำให้ผู้ใช้สิทธิไม่มีทางเลือกมากนัก และส่งผลต่อตัวเลขรวมมาตลอด

ฐานเสียงของ ปชป.อยู่ที่เขตกรุงเทพฯชั้นใน ส่วนเพื่อไทย เป็นกลุ่มประชาชนเขตรอบนอก

หากการเลือกตั้งมีกระแสสูง คนออกจากบ้านมาใช้สิทธิมากๆ

ผู้สมัครคนไหนจะได้ประโยชน์จากการ "สะวิง"

"คำตอบ" นี้สัมพันธ์กับ "อนาคต" ของกรุงเทพฯอย่างแนบแน่น