เผยโฉมดาวรุ่งพ่งแรง 2008

เผยโฉมดาวรุ่งพ่งแรง 2008

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หากเปรียบปี 2550 เป็นปีของ ไมลีย์ ไซรัส ปี 2551 คงถือว่าเป็นปีทองของหนุ่ม นิค โจ และ เควิน หรือที่รู้จักกันดีในนาม โจนาส บราเธอร์สโดย โจนาส บราเธอร์ส

โจนาส บราเธอร์ส หากเปรียบปี 2550 เป็นปีของ ไมลีย์ ไซรัส ปี 2551 คงถือว่าเป็นปีทองของหนุ่ม นิค โจ และ เควิน หรือที่รู้จักกันดีในนาม โจนาส บราเธอร์ส ที่กลายเป็นดาวฉายแสงส่องสว่างที่สุดในวงการ หลังได้แสดงหนังของช่องดิสนีย์ Camp Rock ความโด่งดังของ 3 หนุ่มหล่อพี่น้องก็พุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ คอนเสิร์ตแต่ละแห่งที่ไปบัตรขายหมดเกลี้ยง ขณะที่อัลบั้ม A Little Bit Longer ก็ทำสถิติอัลบั้มขายดีเป็นประวัติการณ์

 

ความโด่งดังของทั้ง 3 หนุ่มยังทำให้สาวๆ ที่แสดงร่วมพลอยโด่งดังไปด้วย หนึ่งในนั้นคือ เดมี โลวาโต สาวน้อยวัย 16 ปี ที่แสดงคู่กับหนุ่ม โจ ใน Camp Rock โดยเธอได้ออกตระเวนทัวร์คอนเสิร์ตกับสามหนุ่มพี่น้องโจนาส ก่อนจะออกอัลบั้มเดี่ยวเปิดตัวของเธอ Don''t Fotget ซึ่งก็ไปได้สวยเลยทีเดียว

 

นอกจากบทบาทวัยรุ่นสดใสของดิสนีย์แล้ว บทบาทวัยรุ่นสุดแสบก็สร้างชื่อเสียงให้แก่กลุ่มนักแสดงจากซีรีส์เรื่องดังอย่าง Gossip Girls ที่ออกฉายเพียงแค่ซีซั่นเดียว ก็โด่งดังกลายเป็นขวัญใจคอซีรีส์จากเนื้อเรื่องความวุ่นวายของสังคมชีวิตวัยรุ่นลูกคนรวยในมหานครนิวยอร์กที่เต็มไปด้วยการแก้เผ็ดแก่งแย่งชิงดีไม่แพ้สงครามชีวิตผู้ใหญ่เลยทีเดียว แถมภาค 2 นี้เนื้อหายังเข้มข้นหวือหวาจนทำเอาผู้ใหญ่ไม่สบายใจที่จะให้ลูกๆ ดูเลยทีเดียว

 

//

//

 

บรรดาหนุ่มสาวที่แสดงในเรื่องนี้ที่กลายเป็นคนดังไปในชั่วปีเดียวได้แก่ เบลก ไลฟ์ลี ที่รับบทเป็น ซีรีนา แวน เดอร์ วูดเซน โดยในเรื่องเธอแสดงเป็นเพื่อนรักกับ แบลร์ วอลดอร์ฟ ที่แสดงโดย เลห์ตัน มีสเตอร์ สาวน้อยผมเข้มตาคม เทย์เลอร์ มอมเซน สาวน้อยวัย 15 ปีที่ติดทำเนียบก็อสซิปเกิร์ล เพียบพร้อมข้างกายด้วยนักแสดงหนุ่มสุดหล่ออย่าง เพนน์ แบดจ์ลีย์, เอ็ด เวสต์วิค และ แชส ครอว์ฟอร์ด ซึ่งรายหลังนี่ได้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของสาวๆ ทั่วประเทศและทั่วโลกไปเรียบร้อย

 

มาถึงคู่หนุ่มสาวที่มาแรงอย่างไม่คาดฝัน นับแต่ได้รับการวางตัวให้แสดงนำในภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายขายดีอย่าง Twilight ชีวิตของ โรเบิร์ต แพททินสัน ก็เปลี่ยนไปจากที่เป็นเพียงแค่ดาราหนุ่มซึ่งมีเครดิตเพียงเคยแสดงเป็น เซดริก ดิกกอรี ใน แฮร์รี พอตเตอร์ มาเป็นดาราระดับแม่เหล็กของวงการ เช่นเดียวกับ คริสเตน สจ๊วต นางเอกของเรื่องที่แม้จะเคยแสดงหนังมาหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้ถือเป็นการก้าวกระโดดจากดาราเด็กวัยรุ่นมาเป็นดาราหญิงระดับแถวหน้าของวงการ กระแสความคลั่งไคล้ในตัวละครสร้างปรากฏการณ์ทั้งในและนอกโรงภาพยนตร์ นับแต่สัปดาห์แรกที่ภาพยนตร์ออกฉาย สาวก Twilight แห่แหนกันเข้าไปชมภาพยนตร์จนทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

สูงกว่าทุนสร้างหนังเรื่องนี้เกือบ 2 เท่า

 

จนถึงวันนี้ ภาพยนตร์ทำรายได้มหาศาลทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่นับรวมกระแสความคลั่งไคล้ในตัวละครที่นักวิจารณ์หลายคนถึงกับเปรียบว่า ไม่เคยเห็นความคลั่งไคล้เช่นนี้มานานนับแต่วงเดอะ บีทเทิลข้ามเกาะอังกฤษมาโด่งดังที่ฝั่งอเมริกา แถมแฟนๆ ยังมีโอกาสได้ชื่นชมทีมนักแสดงในภาคต่ออีกอย่างน้อย 2 ภาค ซึ่งมีกำหนดถ่ายทำพร้อมกันทีเดียวตั้งแต่เดือนมีนาคมปีหน้า

 

นอกจากวงแสดงแล้ว ดาวรุ่งพุ่งแรงในวงการเพลงก็สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย เช่น เคธี เพอร์รี ร็อกเกอร์สาวที่เปิดตัวซิงเกิลโดนใจอย่าง I Kiss The Girl พร้อมกับภาพลักษณ์สาวเซ็กซี่ที่แฝงความหวานอมเปรี้ยวเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสาวพลังเสียงแรงสูงอย่าง ลีโอนา ลิวอิส ที่รายนี้หลายคนคงคุ้นหน้ากันดีจากการเป็นผู้ชนะในรายการประกวดร้องเพลงอย่าง The X Factor ปี 2549 ก่อนจะได้ออกอัลบั้มแรก Spirit พร้อมซิงเกิลติดหูอย่าง Bleeding Love จนทำให้เธอกลายเป็นศิลปินเดี่ยวของอังกฤษคนแรกที่เปิดตัวอัลบั้มเป็นอันดับ 1 บนบิลบอร์ดชาร์ตในฝั่งอเมริกา

 

นอกจาก ลีโอนา แล้ว สาวอังกฤษอีกคนที่บุกฝั่งอเมริกันเป็นผลสำเร็จได้แก่ ดัฟฟี่ นักร้องสาวเสียงเอกลักษณ์กับดนตรีแนวเรโทร โซล แฝงกลิ่นอายของดนตรียุค 60 ซึ่งทำให้อัลบั้มของเธอติดอันดับ 5 อัลบั้มขายดีในสหรัฐ และติดชาร์ตอยู่นานถึง 30 สัปดาห์ ทั้งยังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักร้องหน้าใหม่ยอดเยี่ยมบนเวทีแกรมมี่ อวอร์ดส์ปีนี้ด้วย

 

...จากนี้ไปคงต้องคอยติดตามว่าคลื่นลูกใหม่เหล่านี้จะโลดแล่นบนเส้นทางบันเทิงได้น่าตื่นตาแค่ไหน

 

 

 

ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน

 

แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook