เฉลิม ปัดจัดฉากโรงสี ท้าปชป.ส่งหลักฐาน

เฉลิม ปัดจัดฉากโรงสี ท้าปชป.ส่งหลักฐาน

เฉลิม ปัดจัดฉากโรงสี ท้าปชป.ส่งหลักฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงหลัง นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายพาดพิง ว่ามีการจัดฉากในการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีในการทุจริตการรับจำนำข้าว ว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีด้วยตัวเอง จึงมั่นใจว่าไม่มีการจัดฉาก อย่างไรก็ตามยอมรับว่า อาจมีความบกพร่องบ้างในบางจุด ซึ่งถ้าฝ่ายค้านมีหลักฐานการบกพร่อง หรือ การทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ก็ขอให้ส่งหลักฐานมา เพื่อที่จะได้ดำเนินการแก้ไข และจับกุมผู้กระทำความผิด นอกจากนี้ ถ้าหากมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัย ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้จัดตำรวจไปประจำจุดรับจำนำข้าวทั้งหมด 699 จุด ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการทุจริต นายกฯแจงซักฟอกปัดละเลยปัญหาย้ำเป็นธรรมไม่แบ่งสี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลภายหลังมีการรัฐประหาร มีความยาก เนื่องจากประเทศมีสภาวะความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ จึงมีการเร่งรื้อฟื้นความรัก ความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยไม่แบ่งสีแบ่งฝ่ายเกิดขึ้นในประเทศ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เคารพในระบบสภาผู้แทนราษฎร โดยอยากเห็นความเป็นธรรม การดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ได้เดินทางไปต่างประเทศกว่า 23 ประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ รวมถึง มีการมาเยือนไทย และร่วมประชุมผู้นำประเทศ แสดงถึงการยอมรับจากนานาชาติแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลได้ทำงานเป็นทีม มีการมอบหมายหน้าที่ให้คณะรัฐมนตรีในด้านต่างๆ ทั้ง การบริหารจัดการน้ำ โครงการรับจำนำข้าว ที่ได้กำชับ นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ปฏิบัติอย่างโปร่งใส ทุกขั้นตอน ตรวจสอบได้ และให้ได้จำนวนที่มากกว่าโครงการประกันราคาข้าว แม้ว่าประเทศไทยจะมีการส่งออกข้าวเป็นลำดับที่ 3 รองจากเวียดนาม อินเดีย ก็ตาม แต่รัฐบาลให้ความสำคัญที่จำนวนเงินที่ขายข้าว มากกว่ามองจำนวนตัน ซึ่งไทยมีรายได้จากการขายข้าวที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด 'ณัฐวุฒิ' ติงควรให้รมต.ที่เกี่ยวข้องแจงด้วยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ ภายหลังจบการชี้แจงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แล้ว ได้มีการประท้วงกันไปมาของ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ้ายค้าน ต่อเนื่องเป็นระยะ โดยล่าสุด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลุกขึ้นกล่าวต่อที่ประชุม ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี จะยังอยู่ตอบคำถามในที่ประชุมต่อไป แต่ฝ่ายค้าน ควรจะมีคำถามที่ชัดเจน และรัฐมนตรีคนอื่นที่เกี่ยวข้อง ก็ควรมีสิทธิ์ได้ชี้แจงด้วย โดยไม่ใช่เรื่องน่าวิตกกังวลแต่อย่างใด จากนั้น นายเจริญ จรรย์โกมล ประธานในที่ประชุม จึงระบุว่า มีข้อบังคับเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ในรัฐธรรมมนูญ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องถกเถียงกัน 'สุนัย' ซัด ฝ่ายค้านซักฟอกนอกกรอบนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวานนี้ ที่ยังพบว่าการอภิปรายส่วนใหญ่ของฝ่ายค้าน อยู่นอกกรอบประเด็นที่ได้ยื่นหนังสือถอดถอนรัฐมนตรี และ นายกรัฐมนตรี อาทิ เรื่องการจัดการน้ำ ข้าวของราคาแพง และเรื่องรถไฟที่มีการทุจริต การอภิปรายดังกล่าว จึงต้องถือเป็นโมฆะ และในการอภิปรายวันนี้ ได้มีการอภิปรายถึงโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่ไม่มีประเด็นนี้อยู่ในหนังสือถอดถอนนายกรัฐมนตรี จึงต้องการให้ทางฝ่ายค้านทำตามระเบียบกฎหมายรัฐธรรมนูญตามมาตรา 110 และมาตรา 152 วรรค 2 และเรียกร้องให้ประธานสภา และทางฝ่ายค้าน ควบคุมให้การอภิปรายอยู่ในประเด็นด้วย สภาวุ่น!หลัง'ยุพราช'แฉคลิปทุจริตจำนำข้าว บรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ล่าสุดขณะนี้ ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย ระหว่างที่ นายยุพราช บัวอินทร์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี โดยมีการเปิดคลิปวิดีโอ ที่มีการทุจริตการรับจำนำข้าว ใน จ.เพชรบูรณ์ จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ใช้สิทธิ์พาดพิง ในฐานะที่ดูแลเรื่องทุจริตการรับจำนำข้าว โดยขอหลักฐานทั้งหมด เพื่อจะนำไปให้ตำรวจดำเนินการสอบสวน ทำให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นประท้วง นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุม ไม่ควบคุมการประชุม ผิดข้อบังคับที่ปล่อยให้ผู้ที่ไม่ถูกอภิปรายลุกขึ้นชี้แจง 'เกียรติ' ซักฟอกโจมตี 'นายกฯ'ปมจำนำข้าว เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ลุกขึ้นพูดอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว โดย นายเกียรติ กล่าวว่า ข้อมูลที่ รัฐบาลใช้ตีพิมพ์หนังสือผลงานครบรอบ 1 ปีนั้น แตกต่างจากข้อมูลการค้าข้าวรายเดือนของเกษตรกรและตัวเลขการส่งออก ที่ทางกระทรวงพาณิชย์ นำมาแสดงนั้น ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กับตัวเลขส่งออกของกรมศุลกากร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เพราะตามจริงแล้ว ตัวเลขของทุกกระทรวง มักจะต้องคล้อยตามตัวเลขของกรมศุลกากรทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยถึงการทำสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ว่า เหตุใด สัญญาที่รัฐบาลเจรจากับประเทศอื่นๆ นั้น จึงยอมให้มีการขายข้าวได้ในราคาต่ำกว่าทุนหลาย 100 เหรียญ ทั้งๆ ที่ตอนที่จะใช้สัญญานี้เคยบอกว่าจะทำให้สามารถขายข้าวได้ในราคาที่ดีกว่าเดิม ซึ่งได้คำตอบมาจากข้าราชการภายในกระทรวงว่า ราคาดังกล่าวเป็นราคามิตรภาพ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันที่ 2 ในขณะนี้ ก็ผ่านไปแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งตลอดระยะเวลาในการอภิปรายวันนี้ ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยดี ฝ่ายค้าน สลับซักฟอก นายกฯ ปมจำนำข้าวบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ล่าสุดขณะนี้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ยังคงสลับกันลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุว่าการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี จำนวน 7.32 ล้านตัน เป็นการปกปิดข้อมูล ไม่เปิดเผยความจริง เนื่องจากทางบริษัทที่ได้เข้าไปประมูล เป็นบริษัทในประเทศไทย ไม่ใช่บริษัทในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล ซึ่งก็อาจเข้าข่ายการทุจริต อย่างไรก็ตาม ตลอดการอภิปราย ได้มีการประท้วงสลับกันไปมาของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน แต่ ประธานในที่ประชุม ยังสามารถควบคุมไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้ ปธ.วิปรัฐ คาด ซักฟอก วันนี้เกิน 23.00 น. นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้ พรรคฝ่ายค้าน ได้ใช้เวลาอภิปรายไปแล้ว 12 ชั่วโมง 30 นาที รัฐบาล ใช้เวลาชี้แจงไปแล้ว 3 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งนี้ การอภิปรายในวันนี้ คาดว่าจะเลยเวลา 23.00 น. เนื่องจากต้องทดเวลาเพิ่มอีก 5 - 6 ชั่วโมง เพื่อให้การอภิปรายในวันพรุ่งนี้ จะทันก่อนเวลา 24.00 น. ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เพื่อให้สามารถลงมติได้ในวันที่ 28 พ.ย. 55 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะตัดเวลาในการอภิปรายและชี้แจงลง เพื่อให้กระชับมากขึ้น 'น.พ.วรงค์'ย้ำมีโกงจำนำข้าว'ทักษิณ'เอี่ยว น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี จำนวน7.32 ล้านตันนั้น เป็นการโกหก เพราะบริษัทที่ชนะการประมูล ที่ส่งเงินให้กรมการค้าต่างประเทศคือ บริษัทที่มาจากประเทศจีน มีชื่อว่า GSSG, IMP, ANDEXP.CORP แต่จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของเป็นคนคนเดียวกับทางบริษัท สยามอินดิก้า ซึ่งเป็นคนไทย โดยเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดรัฐบาล โดยมีการมอบอำนาจของ นายรัฐนิธ โสจิระกุลให้ นายนิมล รักดี เป็นผู้รับมอบอำนาจ ในการไปรับข้าวจากโกดังรัฐบาลนอกจากนี้ จากการตรวจสอบ ยังพบว่า ป.ป.ช. เคยชี้มูล เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2552 ว่า นายนิมล เคยเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวในปี 2546 - 2547 ในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ในนามบริษัท เพรซิเดนท์อะกริ เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นการโกงโดยการเอาข้าวเก่ามาเวียนเทียน ซึ่งคดีดังกล่าวยังคงค้างอยู่ใน ป.ป.ช. แต่บริษัทดังกล่าว ก็ล้มในปี 2550 หลังจากการปฏิวัติ ปชป. ซักฟอกราคายาง ชี้นายกฯพลาด นายสุกิจ อัถโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกรณีราคายางพาราตกต่ำ โดยกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกษตรกรรับไม่ได้ เพราะต้นทุนแพง โดยเฉพาะราคาปุ๋ย ถือว่าเป็นปัญหาของประเทศ ทั้งนี้ ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามา ราคายางก็ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเกิดหายนะกับราคายางพารา โดยที่มีราคาต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว ถือว่ารัฐบาลตัดสินใจผิดพลาด หลังจากม็อบชาวสวนยางออกมาเรียกร้อง กรณีมีการซื้อขายยางพารากับจีน ในราคากิโลกรัมละ 105 บาท แต่รัฐบาลก็ไม่สนใจ เท่ากับว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับราคายาง น้อยกว่าราคาข้าว อย่างไรก็ตาม ที่รัฐบาล กล่าวไว้ว่า จะทำให้ราคายางพาราสูงกว่า 120 บาทนั้น จนถึงขณะนี้ ราคายางในปี 2555 กลับตกต่ำต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าทีจะถึง 120 บาทต่อกิโลกรัม กล่าวได้ว่า รัฐบาลไร้ฝีมือในการบริหารงาน  ข่าวที่เกี่ยวข้อง http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=418792
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook