''ธงทอง''ย่องลงพื้นที่เก็บข้อมูลปฏิรูป

''ธงทอง''ย่องลงพื้นที่เก็บข้อมูลปฏิรูป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
รศ.ธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปการศึกษารอบสองว่า จากการที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเวทีสัมมนาเพื่อหาประเด็นที่จะดำเนินการในการปฏิรูปการศึกษารอบสอง เมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่า เรื่องคุณภาพการศึกษาเป็นเรื่องหลักที่ทุกฝ่ายต้องการให้เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาแนวทางการปฏิรูปการศึกษายังคงเป็นเพียงหัวข้อกว้าง ๆ ที่ต้องมีการหารือ เพื่อลงในรายละเอียดว่า จะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทั้งการพัฒนาครู นักเรียน และวิธีการเรียนการสอน ซึ่งในปี 2552 จะต้องเร่งดำเนินการเรื่องเหล่านี้ให้เกิดผลอย่างจริงจัง โดย สกศ.จะเปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่มีความรู้ความสามารถในแวดวงการศึกษาในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อระบุประเด็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวต่อไปว่า ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2552 ตนจะลงพื้นที่ไปในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลวิธีการเรียนการสอนในโรงเรียนทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เพื่อให้ได้ข้อมูลจากผู้ปฏิบัติงานซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการศึกษารอบสอง และเป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่เลขาธิการสภาการศึกษา เนื่องจากตนมาจากกระทรวงยุติธรรม ยังขาดความเข้าใจจากผู้ปฏิบัติจึงจำเป็นต้องไปเรียนรู้งานในพื้นที่ โดยการไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนของตนนั้น จะไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพราะต้องการเห็นสภาพการเรียนการสอนและปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ไม่ต้องการให้เกิดผักชีโรยหน้า เพราะจะทำให้ไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการศึกษา

หลายคนอาจจะกังวลว่า หากมีการเปลี่ยนรัฐบาลอีก การปฏิรูปการศึกษาจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ผมมองว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่เราต้องทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตัว เห็นว่าการปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคตของประเทศให้ได้ ดังนั้นเชื่อว่าไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องเดินหน้าเรื่องนี้ และแม้เลขาธิการสภาการศึกษาจะไม่ใช่ผมก็ตาม แต่ตอนนี้ผมก็ยังสนุกกับการทำงานด้านการศึกษา และเห็นว่าเป็นเรื่องท้าทาย รศ.ธงทองกล่าวและว่า ที่ผ่านมา สกศ.มีแหล่งเรียนรู้และงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างมาก แต่พบว่าหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงศึกษา ธิการ (ศธ.) ไม่ค่อยนำไปใช้ประโยชน์ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหน่วยงานทางการศึกษาไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานวิจัยหรือค้นหาแหล่งเรียนรู้ร่วมกัน ดังนั้น ในอนาคต สกศ.จะต้องดึงหน่วยงานทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องมาร่วมทำงานวิจัยหรือเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ มากขึ้น ส่วนงานวิจัยที่ทำไว้แต่ไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ก็ต้องนำมาปัดฝุ่นใหม่ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษาให้มากขึ้น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook