รมว.กต.ไม่รู้ USAออกวีซ่าทักษิณปัดบินถกแลกอู่ตะเภา

รมว.กต.ไม่รู้ USAออกวีซ่าทักษิณปัดบินถกแลกอู่ตะเภา

รมว.กต.ไม่รู้ USAออกวีซ่าทักษิณปัดบินถกแลกอู่ตะเภา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงปฏิเสธ กรณีบินไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาแลกเปลี่ยนออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อแลกผลประโยชน์ให้ นาซา ใช้สนามบินอู่ตะเภา แต่เป็นการนำคณะไปประชุมหารือในด้านยุทธศาสตร์ไทย-อเมริกัน ร่วมกัน นอกจากนี้ ระบุว่า กระแสข่าวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วนั้น ตนไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ กล่าวอีกว่า ตนในฐานะคนไทย ไม่คิดจะชักศึกเข้าบ้านอย่างที่หลายฝ่ายกังวล แต่เป็นผลประโยชน์ที่ไทยควรจะได้รับและยืนยันว่าจะไม่กระทบความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อบ้าน รวมถึง ประเทศจีน ซึ่งมีความสำคัญที่แน่นแฟ้น และมีมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในเรื่องที่ นาซา จะขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อศึกษาสภาพภูมิอากาศและเตรียมเสนอแก่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันอังคารที่ 26 มิถุนายน นี้ อีกด้วย 'สุกำพล'ยันนาซาไม่เกี่ยวคืนวีซ่า'ทักษิณ' พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การที่ไทยจะอนุญาตให้องค์การนาซ่าของสหรัฐเข้าใช้สนามบินอู่ตะเภา ไม่เกี่ยวข้องกับการเอื้อให้สหรัฐคืนวีซ่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประเด็นที่ตนไม่อยากจะตอบโต้ หากมีการโยงไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ขณะที่ไม่มีความเป็นไปได้ที่ อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมรัฐบาลผ่าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เนื่องจากมีแนวทางการเมืองที่ต่างกัน ซึ่งในเรื่องดังกล่าว อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีการสื่อสารใดๆ กลับมาขณะเดียวกันยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องกับทางการทหาร ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ขณะที่ทางการจีนก็ไม่ได้สอบถามหรือแสดงความเป็นห่วง ในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด มีเพียงคนไทยเท่านั้นที่เป็นห่วงแทนจีน และอย่ามองว่าไทยเสียอธิปไตยให้กับสหรัฐ ซึ่งไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ มีหลายประเทศ อาทิ กัมพูชา สิงคโปร์ และฮ่องกง ที่ให้ความร่วมมือในการวิจัย เป็นความร่วมมือในหลายชาติ ไม่เพียงแค่ไทยชาติเดียว จึงมองว่าเป็นประโยชน์ของทั้งโลก โดยจะนำเรื่องดังกล่าวบรรจุในวาระประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้านี้ สุกำพลยันบิ๊กทหารจีนพบผบ.ทบ.ไร้ปมUSใช้อู่ตะเภาพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การที่ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารปืนใหญ่ที่ 2 ของจีน จะเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในวันพรุ่งนี้ ยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐฯ จะขอตั้งฐานนาซา ที่อู่ตะเภาแน่นอน เพราะประเด็นนี้เป็นเรื่องทางวิชาการล้วนๆ ส่วนตัว ในฐานะฝ่ายความมั่นคง ก็ยืนยันได้ว่า ไม่มีเรื่องการเสียอธิปไตย แต่นักการเมืองบางคนนำมาผูกกับเรื่องอื่น เช่น เรื่องวีซ่า ซึ่งทำให้เกิดความหวาดระแวงขึ้น ขณะเดียวกัน นาซาก็พร้อมเปิดเผยข้อมูลทุกอย่าง ส่วนทูตทหารจีนเอง ก็ยังไม่เคยสอบถามเรื่องนี้ เพราะฮ่องกงก็เป็นส่วนหนึ่งของจีน ที่นาซาเคยไปตั้งฐานมาแล้ว จึงไม่น่ากังวลใจกันมากเกินไป "ก็เขาก็มาวิจัย แล้วก็แบให้ทุกอย่าง อยากดูก็ดูได้ แต่มีการเอาไปผูกตรงนั้น ตรงนี้ มาผูกกับวีซ่า นักการเมืองห่วยๆ ทั้งหลาย มันก็ทำประเทศชาติอยู่อย่างนี้ ระแวงกันหมดเลย" พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวนอกจากนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ยังกล่าวด้วยว่า การที่เรื่องนี้ไม่ต้องผ่านรัฐสภานั้น ก็ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะกฤษฎีกาพิจารณาแล้ว ยืนยันว่า ไม่ต้องผ่านได้ และคณะรัฐมนตรีก็จะดำเนินการอย่างถูกต้อง 'สมชาย'ชี้นาซาสำรวจเมฆได้ด้านวิชาการนายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เรื่องนาซา จะเข้ามาใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสำรวจเมฆ มีประโยชน์ทางวิชาการเป็นอย่างมาก แต่ต้องมีความชัดเจนก่อน ว่าทางสหรัฐเข้ามาศึกษาเรื่องอะไร  รวมถึงนำไปใช้และวิเคราะห์ใช้กับแบบจำลองทางพยากรณ์อากาศอย่างไร พร้อมทั้งมองว่า เรื่องที่ นาซา เข้ามาศึกษา อาจไม่ถึงกับเป็นเรื่องของการเตือนภัยทางธรรมชาติ แต่อาจเป็นการเก็บข้อมูลเรื่องฝนและการเกิดเมฆมากกว่า แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องทราบจุดประสงค์ของทางสหรัฐว่ามีความต้องการทางวิชาการเรื่องใดก่อน  ทั้งนี้ ระบุว่า หน่วยงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ไม่กังวลเกี่ยวกับความมั่นคง แต่กังวลเรื่องวิชาการมากกว่า และไม่มองว่าทางรัฐบาลจะนำหน่วยงานมาอ้าง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง "คือผมเข้าใจว่าประเด็นนี้ต้องชัดเจนก่อน เพราะว่า นาซา เป็นหน่วยงานใหญ่ และเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในด้านนี้มาก"  นายสมชาย กล่าว นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องนาซา เข้าใช้สนามบินอู่ตะเภา ถือเป็นโอกาสดีที่ของทางหน่วยงาน กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานอื่น ที่จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ยากและเป็นเรื่องที่ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook