ผบ.ทบ.หนักใจม็อบเผชิญหน้ายันไม่มีใครจุดปฏิวัติได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หน้าอาคารรัฐสภาว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงนั้น ไม่เคยเกิดผลดี ซึ่งทุกฝ่ายควรถอยกลับมา เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา และอยากให้ทบทวนตัวเองว่าต้องไม่ทำความรุนแรงให้เกิดขึ้น ส่วนความพยายามดึงศาลเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น เป็นสิ่งที่อำนาจอธิปไตย ทั้ง 3 ต้องกลับไปแก้ไข เพราะอำนาจทั้งหมด ประชาชนควรจะมีส่วนร่วมทั้งนี้ ยอมรับว่า หนักใจหากกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม มีการเผชิญหน้ากัน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตราบใดที่ทหารยังยึดคำสั่งจากรัฐบาล จะทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างชัดเจนและถูกต้องนอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำว่า ไม่มีใครสามารถจุดกระแสปฏิวัติให้ติดได้ และขอให้ทุกคนช่วยกันลดกระแสดังกล่าวลง และให้มีสติรู้ตัว ตำรวจ10กองร้อย เตรียมรับมือม็อบสภา-ค้นเขาดินไร้อาวุธ พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา หลังได้ปักหลักชุมนุม เพื่อร่วมสนับสนุนรัฐบาลในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ และล่ารายชื่อถอนถอดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในวันนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังตำรวจ สำหรับดูแลความเรียบร้อย จำนวน 10 กองร้อย โดยในช่วงเช้า จะวางกำลัง 5 กองร้อย และจะเสริมกำลังในช่วงบ่าย อีก 5 กองร้อย ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักตั้งแต่เมื่อคืน จำนวนกว่า 1 พันราย และในวันนี้ คาดว่า จะเดินทางมาอีก 4-5 พันราย พร้อมระบุ แม้การชุมนุมช่วงนี้จะมีหลายกลุ่ม แต่ยังไม่พบการกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ผบก.น.1 ยังกล่าวด้วยว่า จากการบุกเข้าตรวจค้นสวนสัตว์ดุสิต หรือ เขาดิน เนื่องจากมีรายงาน พบกลุ่มชายฉกรรจ์ เข้ามาพักอาศัยเป็นจำนวนมาก และหลายฝ่ายเกรงว่า จะมีการซ่องสุมอาวุธนั้น จากการตรวจค้นไม่พบอาวุธ หรือ สิ่งผิดกฎหมาย  แดง ยังชุมนุมรอรับ ส.ส.พท. ที่สภา คึกคักสำหรับบรรยากาศล่าสุด บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ยังคงปักหลักชุมนุม เพื่อร่วมสนับสนุนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติรัฐธรรมนูญ และล่ารายชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  โดยในช่วงเช้าวันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุม ทยอยเดินทางออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วนได้กระจายกันอยู่บริเวณด้านหน้าเวทีปราศรัย และบางส่วนได้ออกมาตั้งแถวรอรับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเข้าร่วประชุมสภา ในเวลา 09.30 น. บริเวณทางเข้าฝั่งประตู 3 ของอาคารรัฐสภา ซึ่งสามารถใช้เป็นเส้นทางเข้าออกได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น ขณะที่ บนเวทีปราศรัย ได้มีบรรดาแนวร่วมสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย โดยระบุว่า วันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุม จะไม่มีการปิดกั้น หรือ ขัดขวางการทำหน้าที่ ส.ส. ของทุกพรรคการเมืองในการเข้าประชุมสภา แต่จะเป็นการชุมนุมด้วยความสงบส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้มีการตรึงกำลังอยู่บริเวณโดยรอบอย่างเข้มงวด สำหรับ การจราจรนั้น มีการปิดถนนบริเวณโดยรอบรัฐสภา ในถนนราชวิถีตั้งแต่แยกการเรือน - แยกราชวิถี ถนนอู่ทองในทั้งขาเข้าและขาออก รวมไปถึง ถนนพิชัยตั้งแต่แยกขัตติยานี - แยกตัดถนนราชวิถี  ผบก.น.1 ตรวจกำลังตร.ดูแลม็อบหน้าสภา พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวขณะลงพื้นที่ตรวจกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณแยกการเรือน ว่า การประชุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ยังคงมีการปราศรัยของแนวร่วมอยู่บนเวทีอย่างต่อเนื่อง โดยได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 10 กองร้อย หรือ 1,500 นาย ในการดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และในช่วงบ่ายจะมีการเสริมกำลังเข้ามาร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ อีกจำนวน 7 กองร้อย พร้อมกับได้มีการเตรียมกำลังสนับสนุนอยู่ในที่ตั้ง อีก 30 กองร้อย ส่วนการจัดการจราจรโดยรอบรัฐสภานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดถนนอู่ทองในตลอดเส้นทาง และถนนราชวิถี ตรงเข้ามายังแยกการเรือน ด้านประตูปราสาทเทวฤทธิ์ อนุญาตให้ผ่านได้เฉพาะสมาชิกสภาและเจ้าหน้าที่ที่ต้องเข้าไปปฏิบัติงานในรัฐสภาเท่านั้น ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจเข้มอาวุธของกลุ่มผู้ชุมนุม และหากไม่มีความจำเป็น ก็ไม่สมควรปิดการจราจร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ในขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 ได้ปฏิเสธกระแสข่าวกลุ่มผู้ชุมนุมซ่องสุมอาวุธและกำลังพลในสวนสัตว์ดุสิต โดยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลดุสิตและฝ่ายสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ไม่พบอาวุธและสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นที่พักของกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย