เจ้าของมินิคูเปอร์ส่งทนายขอเลื่อนให้ปากคำ

เจ้าของมินิคูเปอร์ ชนพลเมืองดี บนสะพานพระราม 9 ส่งทนายความขอเลื่อนให้ปากคำตำรวจ อ้างไม่พร้อมเข้าพบ

นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจจาก นางหงษ์ แซ่ลี่ อายุ 81 ปี เจ้าของรถมินิคูเปอร์ที่ นายหนึ่ง (นามสมมติ) หลานชายนำไปขับพุ่งชนพลเมืองดีที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนสะพานพระราม 9 ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 4 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผู้กำกับการ งานศูนย์ควบคุมการจราจรด่วน 1 เจ้าของคดี โดยนำหลักฐานใบรับมอบอำนาจจาก นางหงส์ มาแสดงเพื่อแต่งตั้งทนายความและเลื่อนการเข้าให้ปากคำของ นายชลวิทย์ และนางหงส์

เบื้องต้น นายเกิดผล ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุ นายหนึ่ง (นามสมมติ)  ไม่ได้แจ้งให้ทางบ้านทราบว่าขับรถชนคนจนกระทั่งเป็นข่าวครึกโครม จึงได้สารภาพกับนางหงส์ ว่าเป็นผู้ขับรถมินิคูเปอร์ในวันเกิดเหตุจริง ซึ่งในวันเกิดเหตุนายหนึ่งได้ขับรถคันดังกล่าวไปบ้านเพื่อน ขากลับขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าวด้วยความเร็ว เมื่อเห็นรถทั้งสองคันจอดอยู่ทางซ้ายด้วยความตกใจจึงหักหลบไปทางขวาก็เจอกลุ่มผู้บาดเจ็บที่กำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนสะพานพระราม 9 อยู่ แต่ไม่สามารถเบรกทันเนื่องจากขับมาด้วยความเร็วทำให้พุ่งชนกลุ่มผู้บาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุนายหนึ่งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้ลงไปช่วยเหลือ เมื่อกลับไปถึงบ้านนายหนึ่งไม่ได้เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทางบ้านฟังว่าขับรถชนคน จนกระทั่งเป็นข่าวครึกโครมจึงได้สารภาพกับนางหงส์ว่าเป็นผู้ขับรถมินิคูเปอร์ในวันเกิดเหตุ

ส่วนการเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ นางหงส์ รู้สึกเสียใจและยืนยันจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะที่นางหงส์และนายหนึ่งขณะนี้ยังอยู่ต่างจังหวัด ยืนยันจะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอย่างแน่นอน พร้อมยอมรับว่า นายหนึ่ง มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

พ.ต.ท.ณัฐพล กล่าวคาดว่าจะออกหมายเรียกอีกครั้ง โดยเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งคู่ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบดูว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง

เบื้องต้น แจ้งข้อหาขับรถชนโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหลบหนี โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พัน หรือ ทั้งจำทั้ง