ช้างบุรีรัมย์ถูกต่อหัวเสือรุมต่อยอาการสาหัส

 ที่บริเวณป่าละเมาะ ในซอยเจริญศิริ ถนนศรีธนามิตร ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ สัตวแพทย์จากสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากควาญช้าง คือ นายสมศักดิ์ สำเภาเพชร อายุ 45 ปี ชาวบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่า ช้างพลายจัมโบ้ อายุ 5 ปี ถูกต่อหัวเสือต่อย ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ทำให้ช้างล้มนอนป่วย ด้วยอาการเจ็บปวดอย่างทรมาน ทางทีมสัตวแพทย์ รุดไปที่เกิดเหตุ พบว่าช้างมีอาการอ่อนล้า ไม่มีแรง เซื่องซึม แต่มีการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น สามารถขยับเท้าได้ทั้งสี่เท้า งวงไม่สามารถใช้การได้ แม้พลายจัมโบ้ จะพยายามหยิบอาหารเข้าปาก หลังถูกตัวต่อนับร้อยรุมต่อยบริเวณงวงและปากก็ตาม ในเบื้องต้นสัตวแพทย์ ได้ให้น้ำเกลือ ฉีดยาแก้ปวด ให้ยาปฎิชีวนะและยาแก้อักเสบ และให้ยาแก้พิษ ซึ่งพอฉีดยาและให้น้ำเกลือ ได้สัก 30 นาที ช้างพลายจัมโบ้ เริ่มมีการการขยับขา ยกขาหลังได้มากขึ้น และยังพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ยังไม่มีแรงลุกขึ้นได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่เกิดความแห้งแล้งในพื้นที่อำเภอสตึก อาหารและน้ำสำหรับช้างขาดแคลน จึงตัดสินใจนำพลายจัมโบ้ มาเร่ขายอ้อยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่เดินทางมา จ.สุรินทร์ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถูกต่อหัวเสือรุมต่อยช้างจนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว พลายจัมโบ้ ที่ถูกต่อรุมต่อย ในป่าละเมาะ พื้นที่ จ.สุรินทร์ ล้มเสียชีวิตแล้วล่าสุด ช้างพลายจัมโบ้ ที่ถูกต่อหัวเสือนับร้อยตัวรุมต่อย ล้มเสียชีวิตลงแล้ว ด้วยอาการหายใจหอบและรวยรินลงตามลำดับ ขณะทีมสัตวแพทย์และควาญช้างต่างพยายามช่วยกันปั๊มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ท่ามกลางความโศกเศร้า ของควาญช้างก่อนที่ควาญช้าง จะได้นำรถ 6 ล้อเครน มาพยุงร่างอันไร้วิญญาณของพลายจัมโบ้ ขึ้นรถกระบะของควาญช้างกลับบ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ ขณะที่ทีมสัตวแพทย์ ได้เดินทางติดตามไปเพื่อผ่าเอาเนื้อเยื่อช้างมาตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุการล้มลงของช้างในครั้งนี้ ก่อนที่จะได้มีการทำพิธีบังสุกุลศพช้าง และทำพิธีฝังตามประเพณีความเชื่อ ของชาวบ้านต่อไป นายโสภณสร้อยแสง อายุ 56 ปี เพื่อนควาญช้าง กล่าวว่า พลายจัมโบ้ ถูกซื้อมาเลี้ยงมากว่า 1 ปีแล้ว ในราคา 5.5 แสนบาท ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับชาวช้าง ที่จะต้องระมัดระวังมากขึ้นหลังจากนี้ เวลาปล่อยให้ช้างหากินในป่าตามลำพังต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด