มติครม.ขยายเวลาประชุมสภาออกไปอย่างไม่มีกำหนด

มติครม.ขยายเวลาประชุมสภาออกไปอย่างไม่มีกำหนด

มติครม.ขยายเวลาประชุมสภาออกไปอย่างไม่มีกำหนด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี วันนี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ขยายเวลาการประชุมรัฐสภา สมัยสามัญนิติบัญญัติ พ.ศ. 2555 ที่จะครบกำหนดตามกฎหมาย 120 วัน ในวันที่ 18 เมษายน นี้ แต่เนื่องจาก พระราชบัญญัติต่างๆ ยังอยู่ในการพิจารณาของสภา ดังนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จึงเห็นชอบให้ขยายกรอบเวลาการประชุมออกไปไม่มีกำหนด ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 127, 128 และ 187  นายกฯห่วงปชช.ใต้กำชับทุกหน่วยเร่งลงพื้นที่แก้ปัญหานายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ และเป็นห่วงพี่น้องชาวภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ จ.ยะลา พร้อมได้กำชับอีกครั้งว่า ให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้กระทรวงคมนาคม ดูแลในเรื่องการขนส่ง และการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยในการรับ - ส่งประชาชน รวมถึงการฟื้นฟู และเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้จังหวัดที่ประสบเหตุ กลับคืนสู่สภาพปกติ โดยเร็ว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับในมาตรการการเตรียมการรองรับสถานการณ์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยให้กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันประชุมเพื่อวางมาตรการอย่างเด็ดขาด เพื่อลดอุบัติเหตุ และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ มติครม.รับซื้อสับปะรด2แสนตันก.ก.ละ4บาทนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาสับปะรด ปี 2555 โดยให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเกษตรกร อันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด เป็นผู้ดำเนินการในภาคปฏิบัติ รับซื้อสับปะรดส่วนเกินออกนอกระบบจำนวน 2 แสนตัน ในราคากิโลกรัมละ 4 บาท โดยนำไปทำอาหารสัตว์ และปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ และจ้างโรงงานแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง โดยใช้งบสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น หรืองบกลางวงเงิน 1,442 ล้านบาท รวมทั้งเห็นชอบ ขยายระยะเวลาโครงการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการโรงงานแปรรูป เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสับปะรด ครม. เห็นชอบให้ ร.ฟ.ท. กู้เงิน 4.7 หมื่นลบ.นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบและอนุมัติให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กู้เงินรวมทั้งสิ้น 47,679 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม พร้อมทั้งขอยกเว้นการคิดค่าค้ำประกันเงินกู้ให้แก่ ร.ฟ.ท. ทั้งในส่วนที่ ร.ฟ.ท. รับภาระ และรัฐบาลรับภาระ โดยมีรายละเอียดดังนี้ แผนเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่ ร.ฟ.ท. รับภาระ จำนวน 11 รายการ เป็นเงิน 13,206 ล้านบาท แผนเงินกู้เพื่อการลงทุน หรือหนี้ในประเทศ จำนวน 6 โครงการ เป็นเงิน 26,477 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 และระยะที่ 6 โครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการจัดหารถจักรพร้อมอะไหล่ โครงการซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลไฟฟ้า อัลสตอม (Alsthom) และโครงการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ จำนวน 115 คัน นายกฯยิ่งลักษณ์สั่งเร่งแก้หมอกควันเหนือนายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งที่ จ.เชียงราย ในวันนี้ ค่าอยู่ที่ 181 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ายังอยู่ในจุดที่ปลอดภัย สำหรับ จ.แพร่ ค่าขยับขึ้นมาจาก 136 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็น 146 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน ค่าขยับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ประมาณ 390 กว่าไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุด โดยจากการตรวจสอบ พบว่า ค่าความร้อนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกองทัพ โดยผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้รีบเข้าไปเจรจาโดยด่วน ทั้งนี้ ยังมีข่าวดีเรื่องการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ซึ่งพายุโซนร้อนจะเข้ามา อาจจะช่วยเบาบางปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook