เขมรเผยไทยลงนามJBC3ฉ.2ฝ่ายเห็นชอบ

สำนักข่าว CEN สื่อของกัมพูชา รายงานการให้สัมภาษณ์ของ นาย วา กิมฮง รัฐมนตรีอาวุโส ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (JBC) ฝ่ายกัมพูชา ภายหลังเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานกรุงพนมเปญ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า บันทึกการประชุมเจบีซี ทั้ง 3 ฉบับ ก่อนหน้าที่ ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้เห็นชอบร่วมกัน ครั้งนี้ ฝ่ายไทย กล้าลงนามโดยไม่จำเป็นต้องผ่านรัฐสภาอย่างก่อนหน้า นี่เป็นประเด็นที่เป็นเชิงบวกนายวา กิมฮง กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ ดำเนินไปโดยไม่มีอุปสรรค เพราะฝ่ายไทยมีสิทธิ์ตัดสินใจในทุกข้อตกลง และลงนามในข้อตกลงร่วมกันโดยไม่จำเป็นต้องผ่านรัฐสภาไทย ข้อตกลงร่วมนี้สามารถนำไปปฏิบัติต่อเพื่อดำเนินกิจการชายแดนได้ทันที ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาและบรรลุผลใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1. การสำรวจหลักเขตที่ด่านช่องจอม อ.อันลงแวง จ.อุดรมีชัย จากหลักเขตที่ 1-23 ใกล้ปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ สองฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมลงไปดำเนินการ หลังจากที่สองฝ่ายดำเนินการเกี่ยวกับด่านสตึงบตเรียบร้อยแล้ว ต่อข้อเสนอของกัมพูชาในการเปิดด่านสตึงบต 2. การทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ สำหรับทำแผนที่ขนาดใหญ่ คือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 25,000 สองฝ่ายเห็นชอบและอนุญาตให้ทีมเทคนิคร่วมไปทำการคัดเลือกบริษัทจาก 3 ประเทศ เพื่อจัดทำแผนที่ โดยไม่อนุญาตให้ไทยเป็นผู้จัดทำแผนที่นี้อีก หลังจากได้บริษัทจากประเทศที่สามแล้ว 3. สองฝ่ายเห็นชอบนำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจหลักเขตจำนวน 48 หลัก ที่พบแล้ว จากทั้งหมด 73 หลัก ขึ้นมาพิจารณา แล้วทั้งสองฝ่ายให้ความเห็นชอบร่วมกันจำนวน 33 หลัก ไม่เห็นชอบ 15 หลัก และอีก 19 หลัก ค้นพบแล้วแต่ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบอย่างเป็นทางการ หลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา มีทั้งสิ้น 73 หลัก นายวา กิมฮง กล่าวว่า เอกสารเขตแดนทางบกทุกอย่างระหว่างกัมพูชากับไทย จัดทำเป็น 3 ภาษา คือ เขมร ไทย อังกฤษ เพื่อให้เป็นมรดกไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในภายหลัง โดยกล่าวอีกว่า การประชุมเจบีซีครั้งที่ 6 จะจัดขึ้นที่กัมพูชา ส่วนวันเวลายังไม่กำหนดเวลาที่แน่ชัด