โอบาม่าไม่หนุนอัยการผิวสีที่ผู้ว่าฯอิลลินอยส์ตั้งเป็นวุฒิฯ
นายบลาโกเจวิชประกาศแต่งตั้งนายเบอร์ริส พร้อมร้องขอไม่ให้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับตัวเขา สร้างความเสื่อมเสียให้กับการแต่งตั้งนายเบอร์ริสผู้เป็นคนดีและซื่อสัตย์ แต่ผู้นำเดโมแครตในวุฒิสภาประกาศยืนยันไม่ยอมรับคนที่นายบลาโกเจวิชแต่งตั้ง ซึ่งแถลงการณ์ของนายโอบาม่าระบุว่า นายเบอร์ริสเป็นคนดี แต่เขาเห็นพ้องกับทางวุฒิสภาว่าไม่สามารถยอมรับผู้ที่นายบลาโกเจวิชแต่งตั้ง พร้อมย้ำข้อเรียก
// //
ร้องของเขาที่ให้นายบลาโกเจวิชลาออก และเปิดให้มีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวด้วยวิธีการอื่น
ก่อนหน้านี้ บรรดาผู้นำในวุฒิสภาได้ออกมาเตือนว่าจะไม่ยอมรับผู้ที่นายบลาโกเจวิชแต่งตั้ง ขณะที่บรรดาสมาชิกสภาของรัฐกำลังเคลื่อนไหวแย่งชิงเก้าอี้นี้อยู่ โดยรีพับลิกันกล่าวหาเดโมแครตว่ากลัวจะเสียตำแหน่งนี้ ถึงได้ขัดขวางความเคลื่อนไหวของรีพับลิกันที่จะให้มีการจัดการเลือกตั้งพิเศษเพื่อหาผู้ที่จะมาแทนนายโอบาม่า ผู้ซึ่งไม่ได้ถูกกล่าวหาพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดของนายบลาโกเจวิช ชื่อของนายเบอร์ริสไม่ได้รวมอยู่ใน 6 ชื่อที่นายบลาโกเจวิชพาดพิงถึงในการดักฟัง จึงมีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การแต่งตั้งเขาน่าจะเป็นที่พอใจของฝ่ายต่างๆ นายบลาโกเจวิชยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่ได้ทำความผิด แต่กำลังมีการสอบสวนเพื่อหาข้อยุติว่าสมควรจะอิมพีชและถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งหรือไม่อยู่
ก่อนหน้านี้ นายเบอร์ริสกล่าวตอบรับการแต่งตั้งว่าภาคภูมิใจในผลงานสมัยเป็นข้าราชการ และขอให้ชาวรัฐอิลลินอยส์มีศรัทธาและไว้วางใจเขาเหมือนในอดีตที่เคยเลือกเขาให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ นายเบอร์ริสเป็นปลัดบัญชีของรัฐอิลลินอยส์จนถึงปี 2544 ซึ่งเขาได้เป็นคนผิวสีคนที่สองในสหรัฐฯที่ได้รับเลือกเป็นอัยการรัฐ เขาเคยล้มเหลวในการสมัครเป็นตัวแทนเดโมแครตไปชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกตำแหน่งนี้เมื่อปี 2527 กับในความพยายามเป็นตัวแทนพรรคไปชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครชิคาโกในปี 2538 และในการชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ 3 ครั้ง
เบอร์ริสเคยเป็นรองประธานทีมถ่ายโอนอำนาจของบลาโกเจวิชเมื่อปี 2545 และปัจจุบันเขามีบริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองอยู่ในนครชิคาโด รวมทั้งเป็นทนายความอาวุโสของบริษัททนายความแห่งหนึ่งในรัฐวิสคอนซิน เขายังติดอันดับชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน 100 คนผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของนิตยสารอีโบนี่ มา 16 ครั้งแล้วด้วย
ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน
แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก