กทม.เพิ่มระดับปตร.พระยาสุเรนทร์1.5ม.

กทม.เพิ่มระดับปตร.พระยาสุเรนทร์1.5ม.

กทม.เพิ่มระดับปตร.พระยาสุเรนทร์1.5ม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพหมานคร แถลงถึง สถานการณ์น้ำขณะนี้พบว่า ระดับน้ำลดลงและมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านเหนือและฝั่งตะวันออกของ กทม. ดังนั้น จึงพิจารณาเพิ่มการเปิดประตูระบายน้ำแบบขั้นบันไดเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ จากระดับ 1.40 เมตร เป็นที่ระดับ 1.50 เมตร ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบมีนบุรี จากที่ 1.30 เมตร เป็น 1.50 เมตร และประตูระบายน้ำคลองลำบึงขวาง 1.20 เมตร เป็น 1.30 เมตร ซึ่งจะช่วยระบายน้ำในพื้นที่ อ.ลำลูกกา และ คลองหกวา สายล่างได้ ส่วนในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ยังไม่มีการปรับเพิ่มประตูระบายน้ำ เนื่องจากขณะนี้ ระดับน้ำในคลองทวีวัฒนาลดลงเล็กน้อย ขณะที่บางพื้นที่ ก็ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่

สำหรับกรณีที่ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งให้ ศปภ. และ กทม. ร่วมพิจารณาเปิดประตูระบายน้ำแนวคลองมหาสวัสดิ์นั้น โดยขณะนี้ กทม. จะทำหนังสือถึง ศปภ. เพื่อขอหารือร่วมกันเกี่ยวกับการปรับประตูระบายน้ำดังกล่าว ทั้งนี้ ในส่วนของคลองทวีวัฒนา ให้คงที่ไว้ที่ 50 เซนติเมตร ขณะที่ คลองขุนศรีบุรีรักษ์ คลองซอย และคลองควาย ให้คงไว้ที่ 1 เมตร



ประชาโยนกทม.รับผิดชอบช่วยปชช.ในพื้นที่
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ว่า เบื้องต้นให้เป็นหน้าที่ของ กทม. เพราะ กทม. เป็นเจ้าของพื้นที่ และมีสิทธิ์ในการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีประชาชนอาศัยอยู่บริเวณถนนสาย 340 มาเรียกร้องให้ช่วยเหลือ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการกู้ถนนดังกล่าวนั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการร้องเรียนแต่อย่างใด ส่วนกรณีการเปิดประตูระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ ได้มีการพูดคุยกับทาง กทม. แล้ว และได้ข้อยุติแล้วบางส่วน หากมีข้อขัดข้องจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะมีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แต่ละจังหวัด โดยประเด็นหลักในการประชุมคือ การพิจารณาว่าควรจะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ใดก่อน
หลัง เนื่องจากแต่ละจังหวัดมีสภาพพื้นที่ ที่แตกต่างกันไป



ศปภ.เผยน้ำถนนวิภาฯปกติภายใน1-2วัน
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวถึงกรณีการยกเว้นค่าทางด่วนโทลล์เวย์ ตามคำเรียกร้องของประชาชน ว่า จะไม่มีการยกเลิก เก็บค่าทางด่วนโทลล์เวย์แต่อย่างใด เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มดีขึ้น คาดว่า อีก 2 - 3 วัน ถนนด้านล่าง ก็จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ ส่วนถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งหมด น่าจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติใน 1 - 2 วันนี้ ส่วนกรณีการรื้อแนวบิ๊กแบ็กนั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้รื้อไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว โดยเริ่มรื้อตั้งแต่หลักหก ไปถึงถนนวิภาวดีรังสิต แต่ยังคงต้องมีการรอเครื่องมือหนัก ส่วนพื้นที่เขตสายไหม และด้านบนของหลักหก คาดว่า อีก 2 วัน น่าจะทำการรื้อได้ โดยทราบที่ได้มาจากการรื้อบิ๊กแบ็กนั้น จะได้มีการนำไปคืนกับหน่วยงานต่างๆ ที่นำมาช่วยเหลือ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังกล่าวถึงกรณีการปิดศูนย์ ศปภ. ว่า ต้องรอการประเมินสถานการณ์ในสัปดาห์หน้าก่อน โดยหน้าที่ของ ศปภ. ขณะนี้ จะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ในส่วนของการฟื้นฟู จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการฟื้นฟู ในการรับผิดชอบ และในส่วนของพื้นที่ ที่ต้องมีการเยียวยา จะต้องเป็นหน้าที่รับผิดชอบของคณะกรรมการเยียวยา ซึ่งเรื่องที่เป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ คือ ประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขัง โดยน้ำเริ่มเน่าเสียแล้ว โดยทาง ศปภ. จะเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook