ยงยุทธ-เฉลิมขึ้นเวที โวชนะปชป.3เท่า

ยงยุทธ-เฉลิมขึ้นเวที โวชนะปชป.3เท่า

ยงยุทธ-เฉลิมขึ้นเวที โวชนะปชป.3เท่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยกล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ สำคัญกับพรรคเพื่อไทย เพราะต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจ ทุน แต่พรรคเพื่อไทยไม่หวั่นไหว เพราะมีกำลังใจจากประชาชนที่ให้การสนับสนุน ซึ่งหากพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็จะชนะตลอดไป และประชาชนจะได้ประชาธิปไตย เสรีภาพ รวมถึงชีวิตที่ดีขึ้น

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เชื่อว่า พรรคเพื่อไทย จะชนะพรรคประชาธิปัตย์ ถึง 3 เท่าตัว ส่วนพรรคภูมิใจไทย ก็จะเหลือคะแนนเพียงจังหวัดเดียว คือ จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะแก้ปัญหาปากท้อง ยาเสพติด สินค้าราคาแพง การทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ใช่แก้ปัญหาให้กับคนๆ เดียว อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา รวมถึงจะนำผู้ที่สั่งฆ่าประชาชนมาดำเนินการตามกฎหมาย


ขณะที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง พรรคเพื่อไทยขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางฝนที่ตกอย่างหนักโดยไม่กางร่ม พร้อมกล่าวว่า ขณะที่พรรคเพื่อไทย ถูกโจมตีก็จะไม่โต้เถียงทางการเมืองเพื่อหาคะแนนเสียง แต่จะใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา ซึ่งขอสัญญาว่าจะไม่ทำให้เสียสถิติความรวดเร็วในการเดินหน้านโยบายของพรรคไทยรักไทยในอดีต ย้ำว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าเลือกพรรคการเมืองใดมาบริหารประเทศ

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน โดยลดภาษีน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 7.5 บาทต่อลิตร น้ำมันเบนซิน 91 อยู่ที่ 6.7 บาทต่อลิตรและดีเซล 2.2 บาทต่อลิตร และในวันที่ 1 ต.ค.ปีนี้ จะจัดกองทุนตั้งตัว และกองทุนสตรี ขณะเดียวกัน วันที่ 1 ม.ค. ปี 2555 จะเป็นกำหนดวันที่เริ่มแจกแท๊ปเลตให้กับเยาวชน วัยประถมศึกษาปีที่หนึ่ง และปรับภาษีนิติบุคคล รวมทั้งปรับค่าแรงและเงินเดือนขั้นต่ำ

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.โดยมีนายคณิต ณ นคร เป็นประธานยังคงดำเนินการต่อไป ยืนยันว่าฝ่ายการเมืองจะไม่เข้าไปแทรกแซงอย่างแน่นอน



ทางด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยพรรคเพื่อไทย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ท่ามกลางฝนที่ตกอย่างหนัก โดยกล่าวกับประชาชน ว่า ตนเองตั้งใจจะตากฝนในขณะกล่าวปราศรัยไปพร้อมๆ กับประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเวที อ้างว่า ไมรโครโฟนขยายเสียงจะเปียกน้ำไม่ได้ จึงต้องกางร่มในขณะที่ปราศรัย เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ยังพูดถึงการถอนตัวจากภาคีมรดกโลกของ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ย้ำถึงนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า การส่งเสริมวัฒนธรรม
และให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบินของเอเชีย พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขยายอาคารต่างๆ รองรับ
นักท่องเที่ยวทั่วโลก และภายใน 10 ปี จะเป็นศูนย์กลางของการรักษาพยาบาลในส่วนภูมิภาคด้วย

ขณะที่บรรยากาศ ประชาชนบางส่วนก็ได้เดินทางกลับบ้าน เนื่องจากฝนตกอย่างหนัก แต่บางส่วนยังคงยืนหยัด กางร่มนั่งและยืนฟังการปราศรัยของ นายณัฐวุฒิ พร้อมส่งเสียงให้กำลังใจเป็นระยะ โดย นายณัฐวุฒิ ก็ขอให้ประชาชนนั่งลงฟังการปราศรัย เพราะเมื่อเปียกฝนร่วมกันแล้ว ก็ขอให้นั่งฟังกันอย่างสบาย ประชาชนด้านหลังจะได้มองเห็นเวทีได้มากขึ้น ซึ่งได้จัดแจงให้ประชาชนนั่งฟังกันอย่างเป็นระเบียบ ก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย จะขึ้นปราศรัย


ภายหลังที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยนำเสนอนโยบายของพรรคเสร็จสิ้น ประกอบกับฝนได้ตกเบาบาง ประชาชนที่รับฟังการปราศรัยได้เริ่มทยอยเดินทางออกจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน อย่างต่อเนื่อง บางส่วนโดยสารรถประจำทาง ขณะที่บางส่วนโดยสารรถยนต์ส่วนตัว ทำให้การจราจรบริเวณถนนรามคำแหง ค่อนข้างติดขัด แต่รถยังสามารถเคลื่อนตัวได้ ทั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ตลอดการปราศรัยของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จราจรได้ระบายรถได้ดีไม่มีขัดข้องแต่ประการใด ขณะเดียวกันตลอดการปราศรัยไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่อย่างใด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook