นายกฯยันมีข้อมูลใหม่พร้อมแจงศาลโลก

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ประธานอาเซียน เสนอให้มีการส่งผู้สังเกตการณ์เข้าไปในพื้นที่พิพาท บริเวณปราสาทพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า จะต้องมีการปฏิบัติตามแนวทาง ขั้นตอนที่รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย ไปพูดคุยที่ประเทศอินโดนีเซีย ก่อนหน้านี้ คือ ทางอินโดนีเซีย จะส่งคณะผู้สำรวจ ที่ไม่ใช่ผู้สังเกตการณ์ แต่มาในนามของเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย ลงสำรวจพื้นที่พิพาทฝ่ายไทย ที่ จ.ศรีสะเกษ เป็นเวลา 2 วัน ก่อนจะกลับไปประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี ซึ่งหากผลเป็นที่น่าพอใจ ก็จะเดินหน้าปฏิบัติตามข้อกำหนด ที่ต้องให้กัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรจึงจะมีการเดินหน้าทีโออาร์ ส่งผู้สังเกตการณ์ลงไปในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

ส่วนกรณีที่กัมพูชายื่นฟ้องต่อศาลโลก เรื่องปราสาทพระวิหารนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากประเทศไทย มีข้อมูลใหม่ ที่จะต้องยื่นชี้แจงต่อศาลโลก ในวันที่ 30-31 พ.ค. โดยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเกรงว่า จะกระทบต่อสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การดำเนินการใดๆ ต่อกรณีปราสาทเขาพระวิหารนั้น จะไม่ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน


นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น คะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ค่อนข้างที่จะสูสีกัน แม้ว่าผลสำรวจของหลายสำนัก ที่สอบถามความคิดเห็นประชาชน จะระบุว่า พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนิยมดีกว่า โดย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าจะชนะเพียง 3-4 คะแนน ก็สามารถเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้ โดยในเขตพื้นที่ กทม.ถือว่า เป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันสูง แต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเดินหน้ารณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสาน ที่มั่นใจว่าจะได้ ส.ส.เพิ่มมากขึ้น โดยวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ตนเองจะลงพื้นที่หาเสียงในภาคอีสาน ซึ่งคาดหวังว่าจะไม่มีกลุ่มคนที่ออกมาสร้างความวุ่นวาย ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ชูนโยบายไม่คิดแก้แค้น แต่จะแก้ไขนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครพูดถึงเรื่องการแก้แค้น และยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะไม่ให้มีการโกงเลือกตั้งอย่างแน่นอน