1ใน7หมื่น! ต้นสนแห่งความหวัง ยืนเดียวดาย
สุดทึ่ง จากต้นสนกว่า7หมื่นต้น เหลือต้นเดียว หลังถูกสึนามิถล่มญี่ปุ่น กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของชาวญี่ปุ่น
สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ข่าว ต้นสนยืนต้นตระหง่านอยู่เพียงลำพังบนชายฝั่งเมืองริคุเซนทากาตะ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกคลื่นสึนามิซัดทำลาย ต้นไม้ร้อยปีที่เหลือเพียงต้นเดียวนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง และการต่อสู้ของชาวญี่ปุ่นผู้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่พรากชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 11,000 ราย
สนต้นนี้เป็นหนึ่งประชากรของป่าสนที่มีกว่า 70,000 ต้น ซึ่งทำหน้าที่รักษาเมืองริคุเซนทากาตะ จากคลื่นลมทะเลมานานกว่า 300 ปี พื้นที่ในวงกว้างของเมืองกลายสภาพเป็นซากปรักหักพัง เหลือเพียงอาคารคอนกรีตอยู่ไม่กี่หลัง มิหนำซ้ำชาวเมืองกว่า 10 เปอร์เซนต์ได้ตายจาก หรือไม่ก็หายสาบสูญไปพร้อมกับคลื่นยักษ์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม
ป่าสนทั่วบริเวณดังกล่าวล้วนถูกคลื่นสึนามิถอนรากถอนโคน เหลือเพียงต้นไม้แห่งความหวังยืนอยู่เพียงลำพัง จนกระทั่งชาวเมืองผู้รอดชีวิตทั้งหลายเห็นตรงกันว่า สนต้นนี้คือปาฏิหาริย์ ขณะที่บ้านเรือนของพวกเขาก็ถูกกระแสน้ำพลังมหาศาลทำลายไม่เหลือซาก
เอริ คามาอิชิ วัย 23 ปี กล่าวขณะยืนอยู่ใต้“ต้นสนแห่งความหวัง”ว่า เพราะมันเป็นเพียงสนต้นเดียวที่ไม่ได้รับความเสียหาย มันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการฟื้นฟู
ป่าสนแห่งนี้ มีประวัติย้อนกลับไปถึงช่วงศตวรรษที่ 17 เมื่อวาณิชผู้ร่ำรวยรายหนึ่งริเริ่มการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อใช้กำบังคลื่นลมพายุให้กับชาวบ้าน ทั้งนี้ ชายหาดของเมืองริคุเซนทากาตะ ซึ่งทอดยาวไปตามปากอ่าวของเมือง มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียนปีละไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และไดัรับการบรรจุให้เป็นหนึ่งใน 100 สถานที่น่าท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่