ใต้จมบาดาล นครศรีฯยังหนัก งดทุกเที่ยวบิน

ใต้จมบาดาล นครศรีฯยังหนัก งดทุกเที่ยวบิน

ใต้จมบาดาล นครศรีฯยังหนัก งดทุกเที่ยวบิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฝนยังถล่มอย่างหนักพื้นที่ภาคใต้ ท่วมรันเวย์สนามบินนครศรีฯ ต้องประกาศงดเที่ยวบิน ขณะที่อีกหลายจังหวัดน้ำขยายวงกว้าง สุราษฎร์ฯ น้ำสูงกว่าเมตรเร่งอพยพชาวบ้าน หวั่นมีน้ำป่าจากนครศรีฯ หลากมาสมทบ

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชยังน่าเป็นห่วง โดยวันนี้ (27 มี.ค.) ปริมาณน้ำสูงกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา หลายเส้นทางถูกตัดขาด โดยเฉพาะเส้นทางเข้า-ออกท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางท่าอากาศยานฯ ประกาศงดทุกเที่ยวบินแล้ว เนื่องจากมีน้ำท่วมรันเวย์ประมาณ 30-50 เซนติเมตร ขณะที่จังหวัดเปิดศูนย์เฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้ว รวม 20 อำเภอ จาก 23 อำเภอ ยกเว้นอำเภอทุ่งสง บางขัน และอำเภอทุ่งใหญ่ สภาพน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ถือว่าหนักกว่าจังหวัดอื่นๆ มีพื้นที่เสียหายแล้ว 20 อำเภอ 105 ตำบล 630 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 27,635 ครัวเรือน 62,538 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 3 หลัง พื้นที่การเกษตรกว่า 16,600 ไร่  ถนนกว่า 300 สาย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย พร้อมกันนี้ ยังแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำฝั่งตะวันออก คือ อำเภอหัวไทร สิชล ท่าศาลา พระพรหม ปากพนัง เชียรใหญ่ ชะอวด ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ พระพรหม ลานสกา เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอเมือง  เนื่องจากน้ำยังสูงต่อไปอีก 1-2 วัน หากฝนไม่หยุดตก ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง เพราะอ่าวไทยมีสูงคลื่นสูง 2-3 เมตร

ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ล่าสุด (27 มี.ค.) น้ำขยายวงกว้างท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้ว 10 อำเภอ ในระดับ 1-3 เมตร คือ อำเภอเมือง ท่าชนะ ไชยา บ้านนาสาร บ้านนาเดิม เวียงสระ ดอนสัก กาญจนดิษฐ์ คีรีรัฐนิคม และวิภาวดี ซึ่งจังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 10 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ส่วนถนนสายเอเชีย 41 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร เช่นเดียวกับ อ.กาญจนดิษฐ์ น้ำท่วมถนนสายสุราษฎร์-นครศรีธรรมราช ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 38–48 บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคนิค 2 รถเล็กผ่านไม่ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางฝนตกหนัก และวันนี้คาดว่าจะมีน้ำป่าอีกระลอกจากจังหวัดนครศรีธรรมราชไหลมาสมทบในพื้นที่

นายโส เหมกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง รายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่า ได้ขยายวงกว้างขึ้นเป็น 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.รัษฎา อ.นาโยง อ.ห้วยยอด อ.ย่านตาขาวและ อ.ปะเหลียน รวม 25 ตำบล กว่า 200 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 3,000 คน ถนนเข้าหมู่บ้านหลายสายรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ สวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันจมน้ำ 8,000 ไร่ และเนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้หลายตำบลของ อ.เมือง น้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตำบลนาบินหลา ต.ทับเที่ยง ต.นาพละ ต.น้ำผุด และ ต.บ้านโพธิ์  น้ำสูงกว่า 1 เมตร นอกจากนี้ ยังมีดินไหลตัวลงมาจากเขาไม่ต่ำกว่า 5 จุด ในพื้นที่หมู่ 3 ต.น้ำผุด อ.เมือง  ซึ่งเป็นบริเวณไม่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ ส่วน อ.รัษฎา น้ำท่วม 3 ตำบล ประมาณ 20-50 เซนติเมตร ถนนเข้าหมู่บ้านหลายสายถูกตัดขาด ขณะที่แม่น้ำตรังมีปริมาณน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านต้องอพยพสิ่งของไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เพราะเกรงว่าพนังกั้นน้ำจะพังลงมาเหมือนครั้งก่อนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่พนังกั้นแม่น้ำตรังในหมู่ 6 ต.บางรัก อ.เมือง พังลงมาถึง 2 จุด

ขณะที่ชาวบ้าน จ.พัทลุง ประสบภัยน้ำท่วมมาเป็นวันที่ 4 และเดือดร้อนเพิ่มขึ้นรวมแล้ว 9 อำเภอ จำนวน 20,000 ครัวเรือน 58,000  คน หนักสุดคือ อำเภอเมือง และอำเภอควนขนุน ชาวบ้านถูกน้ำท่วมฉับพลันหลายครัวเรือนไม่สามารถขนสิ่งของได้ทัน เนื่องจากป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากลงสู่พื้นที่อำเภอเมืองอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตำบลปรางหมู่ ตำบลเขาเจียก ตำบลพญาขัน ตำบลโคกชะงาย และตำบลชัยบุรี น้ำสูงอีกเกือบ 2 เมตร และเริ่มท่วมถนนสายพัทลุง-ควนขนุน ขณะที่ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงเร่งนำกระสอบทรายวางกั้นหน้าร้านและบ้านเรือน พร้อมอพยพสิ่งไว้ที่สูงเพราะเกรงว่าน้ำจากรอบนอกจะไหลเข้ามาถึงในไม่ช้านี้ ขณะที่ พ.อ.อนุวัฒน์ ธรรมจักร  ผบ.ช.402 ค่ายอภัยบริรักษ์ ระดมกำลังทหารกองพันทหารช่าง นำข้าวสารอาหารแห้งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านและพระสงฆ์วัดศรีธรรมาราม หมู่ 3 ต.พนมวัง อ.ควนขนุน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook