กัดดาฟีระดมมวลชน จัดการกลุ่มผู้ชุมนุม
พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ออกมาแถลงที่อดีตบ้านพักของตนเองในกรุงทริโปลี เมืองหลวงของประเทศลิเบีย ยืนยันว่า จะไม่มีการก้าวลงจากอำนาจอย่างเด็ดขาด และพร้อมที่จะโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุม ถ้าหากว่าหมดความอดทน รวมทั้ง เรียกร้องให้ประชาชนที่ให้การสนับสนุนตนเอง ออกมาโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุม
ขณะเดียวกัน ผู้นำลิเบีย ได้กล่าวโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ตนเองจะไม่ยอมออกจากลิเบีย และจะขอพลีชีพเพื่อศาสนา และจะสู้จนตัวตาย จะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อกลุ่มคนที่มีความเห็นตรงข้ามกับตนเอง และขอเรียกร้องให้กลุ่มคนที่สนับสนุน
ตนเอง ออกมาจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งเปรียบได้กับหนูที่ทำความรำคาญให้กับที่พักอาศัย และไม่ควรปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมมอมเมาลูกหลานเพื่อทำลายลิเบีย รวมทั้งสั่งให้ทหารและตำรวจ บดขยี้กลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
ในภาพการแถลงดังกล่าว พ.อ.มูอัมมาร์ ได้ชูกำปั้นหลายครั้ง พร้อมทั้งพูดว่า กลุ่มผู้ประท้วงต้องการทำให้ลิเบีย เป็นรัฐอิสลาม และจะโจมตีผู้ประท้วงเหมือนครั้งที่รัฐบาลจีน โจมตีกลุ่มผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน และในตอนนี้ ตนเองยังไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด เพราะถ้าหากว่าตนเองใช้ความรุนแรง ทุกๆ อย่างจะต้องพังพินาศ และเกิดความสูญเสียมากกว่าตอนนี้
ด้านสื่อมวลชนที่ได้เห็นการถ่ายทอดในครั้งนี้ ต่างพากันวิจารณ์ ว่า ภาพดังกล่าวมีการบันทึกเทปไว้ก่อนแล้ว ซึ่งถ่ายทำที่บ้านพักในกรุงทริโปลี ซึ่งในอดีตถูกสหรัฐฯ โจมตีในทศวรรษที่ 80 และทางการลิเบีย ได้เก็บรักษาไว้ในสภาพที่
ไม่มีการซ่อมแซม
ขณะเดียวกัน ผู้นำลิเบีย ได้กล่าวโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ตนเองจะไม่ยอมออกจากลิเบีย และจะขอพลีชีพเพื่อศาสนา และจะสู้จนตัวตาย จะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อกลุ่มคนที่มีความเห็นตรงข้ามกับตนเอง และขอเรียกร้องให้กลุ่มคนที่สนับสนุน
ตนเอง ออกมาจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งเปรียบได้กับหนูที่ทำความรำคาญให้กับที่พักอาศัย และไม่ควรปล่อยให้กลุ่มผู้ชุมนุมมอมเมาลูกหลานเพื่อทำลายลิเบีย รวมทั้งสั่งให้ทหารและตำรวจ บดขยี้กลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
ในภาพการแถลงดังกล่าว พ.อ.มูอัมมาร์ ได้ชูกำปั้นหลายครั้ง พร้อมทั้งพูดว่า กลุ่มผู้ประท้วงต้องการทำให้ลิเบีย เป็นรัฐอิสลาม และจะโจมตีผู้ประท้วงเหมือนครั้งที่รัฐบาลจีน โจมตีกลุ่มผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน และในตอนนี้ ตนเองยังไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด เพราะถ้าหากว่าตนเองใช้ความรุนแรง ทุกๆ อย่างจะต้องพังพินาศ และเกิดความสูญเสียมากกว่าตอนนี้
ด้านสื่อมวลชนที่ได้เห็นการถ่ายทอดในครั้งนี้ ต่างพากันวิจารณ์ ว่า ภาพดังกล่าวมีการบันทึกเทปไว้ก่อนแล้ว ซึ่งถ่ายทำที่บ้านพักในกรุงทริโปลี ซึ่งในอดีตถูกสหรัฐฯ โจมตีในทศวรรษที่ 80 และทางการลิเบีย ได้เก็บรักษาไว้ในสภาพที่
ไม่มีการซ่อมแซม