ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คิด : แพ็ท สุธาสินี | Sanook Music

ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คิด : แพ็ท สุธาสินี

ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คิด : แพ็ท สุธาสินี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หากเอ่ยชื่อ แพ็ท- สุธาสินี พุทธินันทน์ หลายคนคงคุ้นหู รู้สึกคุ้นเคย และจดจำได้ดี ว่าเธอคือลูกสาวคนโตของ เต๋อ เรวัต นักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ และผู้ก่อตั้งบริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และดูเหมือนเส้นทางชีวิตของเธอ จะเดินตามรอยผู้เป็นพ่อ ด้วยการทำงานในแวดวงบันเทิงหลากหลาย วันนี้ คม ชัด ลึก ขออาสาพาไปรู้จักเธอให้มากกว่าที่เคยรู้จัก



ผลงานละครเวทีที่เพิ่งจบไปเป็นอย่างไรบ้าง
สำหรับละครเวทีเรื่อง ข้างหลังภาพ ก็เล่นไปทั้งหมด 41 รอบ ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก คนดูเขาบอกว่าอิ่มความสุข เพราะมีครบทุกรสชาติ ทำให้เปิดการแสดงขึ้นอีกครั้ง ทำให้แพ็ทรู้สึกดีใจมาก ที่คนดูชอบ เพราะแค่ได้ยินว่าคนดูมีความสุขชอบกับสิ่งที่เราทำแค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว และแต่ละรอบการแสดงจะไม่เหมือนกัน คืออารมณ์ที่แสดงนั้นจะคนละอย่าง แต่ก็เต็มที่ทุกรอบการแสดงนะ และขอรับรอง ว่าจะไม่ผลิตออกมาเป็นแผ่นซีดี เนื่องจากคนดูที่มุมกล้องจะไม่ได้รับอรรถรสในการชมเท่าดูสดจากเวทีเลย และนี่แหละคือเสน่ห์ของละครเวที

ทำไมถึงชอบการแสดงละครเวที
ละครเวทีคือสิ่งที่แพ็ทรักและชอบ ทำแล้วมีความสุข เพราะมันท้าทายความสามารถ มีเสน่ห์พอได้แสดงแล้วเหมือนแพ็ทได้ก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง ที่ได้สวมบทบาทของตัวละครตัวนั้น ทำให้เวลาแสดงแพ็ทเลยสามารถเล่นอย่างมีชีวิตชีวา ไม่ใช่ทำไปตามหน้าที่ เพราะละครเวทีไม่ใช่แค่มีความรับผิดชอบอย่างเดียว แต่เราต้องรักมันด้วย เนื่องจากต้องแสดงบทบาทนั้นๆ ซ้ำกันหลายรอบ ส่วนการร้องเพลงก็ชอบนะ ซึ่งก็คิดว่าจะทำอัลบั้มเต็มของตัวเองเหมือนกัน แต่คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เพราะแพ็ทค่อนข้างเป็นคนเรื่องมากในการทำงานนิดหนึ่ง อยากจะมีเวลากับมันเต็มที่จริงๆ

ละครเวทีเรื่องไหนที่แสดงแล้วชอบที่สุด
เรื่อง ข้างหลังภาพ นี่แหละ ที่รู้สึกภูมิใจและคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จที่สุด มากกว่าเรื่อง บัลลังก์เมฆ และ ทวิภพ เนื่องจากข้างหลังภาพมันเป็นบทที่ยาก ต้องใช้พลังเยอะ งานนี้เป็นงานที่หนัก ท้าทายความสามารถ แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องอื่นไม่ยากนะ มันก็ยากเหมือนกัน เพียงแต่เรื่องนี้มันต้องแสดงอารมณ์เก็บกด

แสดงละครเวทีเคยพลาดบ้างหรือไม่
ถ้าเป็นเรื่องการลืมบทน่ะยัง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องพลาดเล็กๆ น้อยๆ อย่างบางทีกำลังแสดงอยู่ ก็เกิดมีเสมหะอะไรประมาณนี้ หรือตอนเช้าก่อนทำการแสดงเสียงยังดี พอจะแสดงเสียงแหบ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม แต่เราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ คือพยายามมีสติ ไม่ตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้แก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าให้ได้

ถือว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงแห่งละครเวทีไหม
อุ้ย!...ไม่หรอกไม่เอาดีกว่า แพ็ทเป็นคนรักการแสดงละครเวทีมากกว่า คนอาจจะเห็นแพ็ททำละครเวทีชัดเจน มากกว่า ซึ่งตรงนี้เป็นทางที่ชัดที่สุดของแพ็ท แพ็ทหาทางเจอแล้ว จึงขอทำตรงนี้ไปจนกว่าจะทำไม่ได้

รู้สึกอย่างไรเป็นลูก เต๋อ เรวัต แล้วถูกจับตามอง
ตอนแรกๆ ที่เรียนจบแล้วแสดงละครเวทีเรื่องบัลลังก์เมฆเป็นครั้งแรก ก็ค่อนข้างกังวล ว่าตัวเองจะทำออกมาไม่ดี เพราะด้วยความที่เป็นลูกคุณพ่อ ทุกคนย่อมคิด ว่าแพ็ทต้องทำอะไรออกมาดี เลยรู้สึกเกร็งๆ แต่หลังๆ ก็เริ่มคิดได้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าทำได้ดีก็ดี แต่อันไหนถ้ามันผิดพลาดก็คือผิดพลาด ก็ยอมรับกับมัน และแพ็ทก็ไม่กดดันถ้าคนจะจำภาพแพ็ทเป็นลูกของคุณพ่อหรือภาพการแสดงมากกว่ากัน ก็แล้วแต่คนจะมองแล้วกัน จะเป็นอะไรแพ็ทก็พอใจหมด

เป็นคนชีวิตสมบูรณ์แบบหรือเปล่า
เคยมีคนบอกเหมือนกัน ว่าชีวิตแพ็ทเพอร์เฟกท์เลย แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกนะ แพ็ทก็เป็นผู้หญิงธรรมดานี่แหละ มีอุปสรรคเข้ามาในชีวิตบ้าง งานที่เข้ามาบ้างครั้งก็ชอบและไม่ชอบบ้าง แต่อาจจะโชคดีหน่อยที่ชีวิตมีความสุขมากกว่าความทุกข์ เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น

เรื่องไหนในชีวิตที่คิดว่าร้ายแรงที่สุด
คุณพ่อเสียตอนที่แพ็ทอายุ 21 ปี นั่นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตแพ็ทแล้ว เพราะก่อนหน้านั้นแพ็ทไม่เคยรู้จักความทุกข์มาก่อนเลย ทำให้รู้ว่าชีวิตมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด และตั้งแต่นั้นมา แพ็ทจึงศึกษาธรรมะมาตลอด เลยทำให้รู้ว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน ทำให้เป็นคนไม่เคยมีอารมณ์เหงาเลย เพราะแพ็ทจะติดนิสัยอยู่กับตัวเอง มีความสุขกับสิ่งที่เป็น ใช้เวลาในการไตร่ตรองชีวิตตัวเอง

ชีวิตแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง
ปกติดี มีความสุขเหมือนคู่แต่งงานทั่วไป เราต่างคนต่างยอมรับความไม่ดีของอีกฝ่ายได้ ถึงพี่มาร์ค (แกรี่ โรดริเกส สามี) จะเป็นฝรั่ง ก็สามารถเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัวของแพ็ท และเข้ากับทุกคนในบ้านของแพ็ทได้ดี กลายเป็นลูกชายอีกคนของบ้านเราไปแล้ว ซึ่งตอนนี้พี่มาร์คก็กำลังเรียนภาษาไทยอยู่

จะมีลูกเมื่อไร
หลังจากจบละครเวทีเรื่องข้างหลังภาพนี่แหละ แพ็ทก็เตรียมตัวมีน้องแล้ว เพราะแต่งงานมา 2 ปีครึ่ง ก็คิดว่าถึงเวลาแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะมีลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน แค่นี้ก็พอ ซึ่งแพ็ทวางแผนจะให้ลูกโตที่เมืองไทยเรียนรู้ความเป็นคนไทยก่อน แล้วค่อยส่งไปต่างประเทศ

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook