"กบ แท็กซี่-อี๊ดฟลาย" เพื่อนร็อคเพื่อนรัก ไม่มีกั๊กไม่มีเหลี่ยม

"กบ แท็กซี่" นักร้องระดับตำนานสายร็อค เปิดใจกับทีมข่าว Sanook.com มีเพื่อนที่รักกันจริงจริงๆ มีความปราถนาดีต่อกัน สรรหาสิ่งดีๆ ให้กันโดยไม่หวังผลตอบแทน ไว้วางใจพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง มีเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือ "อี๊ด ฟลาย"

ในวัย 55 ปี กบ เล่าเส้นทางชีวิตก่อนมาพบกับอี๊ดว่า ในอดีตเขาเป็นนักแต่งเพลง แต่งเพลงอย่างน้อย 2-3 เพลงต่อวัน ควบคู่กับการร้องเพลงกลางคืน และได้นำเสนอไปยังค่ายเพลงแต่ส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธ

กรทั่งวันหนึ่ง "สิ่งที่เขาไม่ต้องการ" นำพาความสำเร็จมาให้ สร้างวงแท็กซี่ (TAXI) ประดับในโลกดนตรี สร้างชื่อ กบ แท็กซี่ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ได้รู้จักกับ "อี๊ด ฟลาย" จนกลายมาเป็นเพื่อนรักจวบจนปัจจุบันนี้

"ใช้เวลาต่อสู้นานเหมือนกันนะ ก่อนจะเป็นแท็กซี่ ผมเป็นนักแต่งเพลงมาก่อน แต่งเพลงทิ้งๆ แต่งเพลงทิ้ง บางทีลายมือที่เราแต่ง ไม่ตรงกับความต้องการ ของโปรดิวเซอร์ที่เขาต้องการ มันก็เลยถูกทิ้งๆ"

"เพลงที่ไม่ผ่านเหล่านั้นผมจะเก็บไว้ จนวันหนึ่ง มันมีโอกาสได้เข้ามาส่งเพลงที่แกรมมี่ แล้วมันผ่าน พี่เขาบอกว่า จะทำให้เป็นวงร็อควงหนึ่งให้ หลายเพลงผมเอากลับมาทำใหม่ แล้วมันได้รับความนิยมจากคนทั่วไป"

"เราดีใจที่มันไม่ถูกทิ้งไปเฉยๆ เราไม่ด้อยค่าผลงานของตัวเอง จากการตัดสินของคนอื่น แล้วเราหยิบมันเก็บไว้ๆ แล้วมีคนเห็นว่าแบบ เฮ้ยกบมึงอย่าทิ้งเพลงนี้นะกูชอบ อย่างน่านี่น่าว ก็เป็นเพลงที่ผมเก็บมาใช้ เป็นเพลงเปิดตัวแท็กซี่"

เขาเล่าต่อว่า วงแท็กซี่ แจ้งเกิดเต็มตัวในปี พ.ศ. 2544 หรือปี ค.ศ. 2001 ผลงานหลายผลงานได้รับความนิยมในห้วงเวลาหนึ่ง หลังเดินสายมอบความสุขให้กับแฟนเพลงเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน ยอมรับว่า เกิดความรู้สึกอิ่มตัว เบนเข็มไปทำร้านกาแฟที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก และที่กรุงเทพฯ

ความสุขก้อนใหญ่ที่ได้รับจากการทำร้านกาแฟ ทำให้หมดไฟ ไร้แรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงานเพลง ถึงขั้นกับปล่อยห้องอัดในบ้านให้กลายเป็นห้องเก็บของ จึงเริ่มถอยห่างจากวงการ ก่อนที่ อี๊ด ฟลาย ช่วยกระตุ้นขึ้นมาใหม่ ช่วยจุดไฟศิลปินให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง

"มันมีช่วงนั้นจริงๆ ที่เรารู้สึกว่ามันดาวน์ลงไป ด้วยร่างกายด้วยร่างกายด้วย บางทีมันถึงช่วงไม่ค่อยแข็งแรง ไม่มีแรงบันดาลใจบ้าง เลยไม่มีไฟที่จะไปแต่งเพลงใหม่ ผมอาจจะเป็นเพราะไปเจอสิ่งใหม่ ที่ผมทำแล้วมีความสุขสบายใจดี"

"ผมไปทำร้านกาแฟที่พิษณุโลกครับ เปิดมาได้จะ 6 ปีแล้ว ชื่อ โดเมสติค คอฟฟี่ แอนด์ มอร์ นะครับ และก็ที่กรุงเทพฯ ก็มี ออบิท เอสเปรสโซ่ 2 สาขา มันไม่ได้ตังค์เยอะก็จริง แต่ทำแล้วมีความสุข ไปยืนหน้าบาร์ชงกาแฟ ทำนู่นทำนี่ ทำให้เราแบบบางทีก็เบื่อๆ เล่นคอนเสิร์ต"

"พี่อี๊ดเป็นคนที่ พยายามดึง อย่าไปมองว่าเราหมดแรงแล้ว พี่อี๊ดบอกว่า ทำได้แค่ไหนแค่นั้นแหละกบ เอาให้มันมีความสุขกับตัวเองด้วย แล้วก็ให้แฟนเพลงได้รับความสุขด้วย ให้มันบาลานซ์กัน"

วันนี้ กบ แท็กซี่ กลับมาสร้างสรรค์งานร็อคอีกครั้ง ร่วมโปรเจ็กต์ ร็อคบราเธอร์ส (ROCK BROTHETRS) พี่น้องศิลปินร็อคระดับตำนานมารวมตัวก้น ประกอบด้วย อี๊ด ฟลาย, เต็น สไมล์ บัฟฟาโล, เอก แบล็กเฮด, บอย ไมโคร และ นอ พอส ส่งเพลง "นักท่องเวลา" (Time Travel) ออกมาเป็นเพลงแรกของโปรเจ็กต์

"ใจมันฟูมากเลย ใจมันฟููที่ได้มาร่วมงานกับพี่น้องศิลปินชาวร็อคหลายๆ คนที่ฝีไม้ลายมือแบบว่า ผมด้อยกว่าเพื่อนเลย ทั้งร้องทั้งเล่น มันทำให้ผมเหมือนได้เกียรติ ได้รับเกียรติตรงนี้มากๆ ที่ได้มาร่วมงานกับพี่ๆ ร็อคบราเธอร์ส"

ให้พูดถึงความเป็นเพื่อนร็อคเพื่อนรัก กับเจ้าของเสียงร้องเพลงชาวนากับงู่เห่า กบ บอกว่า สำหรับเขา อี๊ด ฟลาย เป็นคนน่ารัก ไม่มีเหลี่ยม สรรหาสิ่งดีๆ ให้กับเพื่อนแบบไม่มีกั๊ก

"ผมเรียกพี่อี๊ดว่าป๊า ป๊าจะเรียกผมว่าลุง พี่อี๊ดเนี่ยจะเป็นคนที่แบบว่า เฮ้ยมากินข้าวที่บ้าน พาไปรู้จักสิ่งใหม่ๆ ได้รู้จักผู้ใหญ่ใหม่ๆ ที่เราไม่มีคอนเนคชั่นตรงนั้นเลย หลายๆ อย่าง แกก็จะพยายามสรรหามาให้ แนะนำทุกๆ อย่าง เป็นคนที่ยอมให้ผมบอกอะไรก็ได้ และเป็นคนที่น่ารักฟังทุกคำท้วงติง ฟังแบบเฮ้ย เออๆ เออ"

"บางทีแกไปอเมริกา แล้วแกไปยาวเลย เราก็รับอาสาเข้าไปดูแลบ้านให้ รดน้ำต้นไม้ กวาดใบไม้ ไปดูเอกสารค่าไฟค่าน้ำ ถ่ายรูปส่งให้กันบ้างว่า เนี่ยๆ มารอแล้วนะ ป๊ามาได้แล้ว คิดถึงแล้วเนี่ย มันเหมือนแบบว่ามันขาดอะไรไปเนอะ คนซี้กันแล้วมันแบบไม่ได้เจอกัน"

"ผมนี่เป็นคนที่ค่อนข้าง เพื่อนสนิทน้อย เพื่อนที่จะแบบว่าให้รู้ความลับ อะไรบางอย่างต่อกันได้เนี่ย ไลฟ์สไตล์บางอย่างต่อกันได้ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างหายากนะ บางที เพื่อนไม่จำเป็นต้องมีเยอะ เป็นคนที่เราไว้ใจ และจริงใจได้ อันนั้นนั่นแหละคือที่สุดแล้ว"