คุยกับ เต๋า ทัศนัย ถึงความท้าทายจากเพลงใหม่ "กอดด้วยสายตา" และการไม่คาดหวังกับ "The Voice"

เป็นอีกหนึ่งตัวแทนความสนุกของรายการ The Voice 2018 และ The Voice All Stars ที่หลายคนจดจำ สำหรับ เต๋า-ทัศนัย กิตติรุ่งสุวรรณ ที่หลังจากทำให้คนรู้จักผ่านเสียงและลีลาบนเวที ล่าสุดตัวเต๋ามากับเพลง "กอดด้วยสายตา" ซึ่งเป็นการก้าวไปอีกขั้นในฐานะศิลปินของเต๋า 

และในโอกาสพิเศษนี้ ทาง Sanook ได้มีโอกาสพูดคุยกับเต๋าถึงเส้นทางการเป็นศิลปินจากความชอบ สู่เวที และการมีเพลงเป็นของตัวเอง ที่การคอบคำของเต๋านั้นก็เต็มไปด้วยสีสัน ไม่ต่างจากตัวตนบนเวทีที่ทำให้ผู้ชม The Voice Thailand ประทับใจ

จุดเริ่มต้นในการรักดนตรีของเต๋าตอนเด็กคืออะไร

เต๋า : ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่ชอบฟังเพลงร้องเพลง เราเลยจะได้ยินคุณพ่อคุณแม่เปิดให้ฟังตั้งแต่เด็กๆ พ่อกับแม่เล่าว่าเปิดให้ฟังตั้งแต่อยู่ในท้อง มันเลยอยู่กับเสียงดนตรีมาตลอด แล้วตอน 5 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ก็ฝึกให้ร้องเพลงเลย แล้วเราก็ชอบมันเหมือนกัน เลยทำมาเรื่อยๆ จนเสียงดนตรีทันคือส่วนนึงในชีวิตเราไปแล้ว

เพลง “กอดด้วยสายตา” มีที่มาอย่างไร ทำไมเรามองว่านี่คือเวลาเหมาะสมในการทำเพลงแล้ว 

เต๋า : จากประสบการณ์การทำงาน การร้องเพลงของเราทั้งหมดและมีทีมที่คอยซัพพอร์ต เวลานี้จังหวะมันพอดี เลยเกิดเป็นโปรเจกต์เพลง กอดด้วยสายตาขึ้นมา แล้วเพลงนี้ก็กรั่นกรองออกมาจากประสบการณ์ชีวิตของเราจริงๆ จากมุมมองของ PD และทีมที่ร่วมกันสร้างขึ้นมา เล่าถึงประสบการณ์ความรัก ความสัมพันธ์รูปแบบนึง ที่ตอนนี้ไม่สามารถอยู่ด้วยกัน หรือไม่สามารถส่งผ่านความรักกันได้แบบปกติ เพราะมีเงื่อนไขบางอย่าง ที่ไม่ว่ารักแค่ไหนก็ทำได้แค่กอดเขาได้แค่ด้วยสายตา

เรานิยามเพลงนี้เป็นดนตรีแบบไหน เพราะเต๋าเป็นคนที่มีการผสมผสานหลายแนว

เต๋า : เป็นเพลงป็อปที่ฟังง่าย เน้นฟังได้เรื่อยๆ แต่ความหมายลึกซึ้งและทัชใจทุกๆคน เป็นเพราะเราอยากบาลานซ์ และผสมผสานความเป็นตัวตนของเราที่ชอบเพลงเก่ากับแนวเพลงป็อปสมัยใหม่ให้มันลงตัว  ให้กลายเป็นเพลงรักของทุกๆ คนได้ค่ะ

การทำงานกับเอ้ BOTCASH ในฐานะ PD เป็นอย่างไรบ้าง เราได้เรียนรู้อะไร 

เต๋า : PD ของเราก็คือเข้มข้นค่ะ คั้นทุกหยดให้มันดีที่สุด ตั้งแต่ที่มาที่ไปของเพลง ตลอดจนรายละเอียดต่างๆ ในเพลง เพลงนี้คือเพลงที่ใช้เวลาอัดนานที่สุดตั้งแต่ได้เคยทำงานมาของเต๋าเลยค่ะ แต่สนุกมาก เหมือนได้ลองอะไรใหม่ๆ ซาวด์ที่ไม่เคยร้อง ไม่เคยได้ยิน ก็ได้ลองทำเพราะคำแนะนำของพี่เอ้ บวกกับเราก็ชอบอะไรที่ท้าทายความสามารถเราเหมือนกัน เลยเอนจอยมากค่ะ รู้สึกดีใจและขอบคุณพี่เอ้ PD ของเรามากๆ ค่ะ ที่ทำให้เพลงนี้ออกมาสมบูรณ์มนแบบที่เราต้องการจริงๆ

ฝากบอกคนที่เจอเหตุการณ์แบบในเพลงหน่อย 

เต๋า : เวลาจะเยียวยาทุกสิ่งค่ะ รู้สึกเศร้าได้ เสียใจได้ อะไรก็ได้ทั้งหมด แต่ขอแค่เราเดินหน้าต่อไปค่ะ เรียนรู้และยอมรับมัน อยู่กับมันให้ได้ ใช้ชีวิตของเราที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันให้ดีที่สุด ก็พอแล้วค่ะ

ส่วนตัวเรามีมุมมองเกี่ยวกับความรักอย่างไรในปัจจุบัน 

เต๋า : เราก็ยังคงมองว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงามค่ะ ไม่ว่าจะความสวยงามของความสุขหรือความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากความรัก เพราะมันทำให้เรารู้ว่า เรายังเป็นมนุษย์ ยังมีความรู้สึกอยู่ แต่ตอนนี้ขอโฟกัสงานกับเงินก่อนค่ะ อยากทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ที่สุดก่อนค่ะ 

การที่เรามีภาพจำอีกแบบในตอนแรกที่มาแข่ง The Voice ปีแรก แล้วเปลี่ยนไปในซีซั่น All Stars มันสร้างความกังวลให้เราไหม 

เต๋า : ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไรเลยค่ะ เพราะตัวเราก็คือตัวเรา เราก็แค่นำเสนอตัวตนในมิติใหม่ๆ และท้าทายความสามารถตัวเองค่ะ แนวเพลงไม่มีทางเปลี่ยนตัวตนของเราไปได้ค่ะ ในฐานะนักร้องคนนึง เราก็แค่เลือกใช้เครื่องมือที่มีมานำเสนอความเป็นตัวเราลงในเพลงต่างๆค่ะ ให้ผู้ชมได้รับชมและฟังในสิ่งที่ดีที่สุดจากเราค่ะ

ด้วยความที่เส้นทางของเรามันไม่ได้ไกลเหมือนซีซั่นแรก เรารับมืออย่างไร 

เต๋า : ไม่ได้รู้สึกว่าต้องรับมืออะไรมากค่ะ เพราะเราแค่มาเอนจอย กับโชว์ความสามารถ โชว์พัฒนาการให้ทุกๆ คนได้เห็น และเมื่อมีโอกาสให้เราได้นำเสนอ เราก็นำเสนอมันออกมาให้ดีที่สุด เท่านั้นเลยค่ะ ปล่อยใจฟีลๆ ค่ะ

การกลับมา The Voice All Stars ให้อะไรกับเต๋าบ้าง

เต๋า : เป็นการกลับมาแสดงให้คนได้เห็นความสามารถของเรามากขึ้นค่ะ และเราก็ได้ท้าทายความสามารถตัวเองไปในตัวด้วย การทำงานกับพี่ๆ หลายๆ คนที่มีประสบการณ์ ก็ทำให้เราได้เห็นวิธีการ มุมมองของการทำงาน การร้องเพลงได้กว้างขึ้น เราได้เก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ และนำมาพัฒนาตัวเองให้เป็นนักร้องที่ดีมากขึ้นด้วยค่ะ

นอกจากเรื่องเพลงแล้ว การดูแลตัวเองของเต๋าก็เป็นที่พูดถึง อะไรคือแรงบันดาลใจในการดูแลตัวเอง

เต๋า :  ก็เพราะอยากสวยค่ะ (หัวเราะ) ใครๆ ก็อยากดูดีแหละค่ะ ก็แค่ดูแลตัวเองมากขึ้น นอกจากความสวยแล้ว จริงๆ ก็เรื่องเสียงค่ะ เราเป็นนักร้องเลยค่อนข้างตัองดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพราะต้องใช้เสียงในการร้องเพลง และเสียงเราจะค่อนข้างเซนซิทีฟกว่าคนปกติด้วยค่ะ โดนอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็เอฟเฟคกับเสียงแล้ว เลยต้องรักษาร่างให้แข็งแรงตลอดค่ะ

ปีนี้เราจะได้เห็นอะไรจากเต๋าบ้างในฐานะศิลปิน

เต๋า : แน่ๆ เลยก็ซิงเกิลของเต๋า ที่ชื่อเพลงว่า กอดด้วยสายตา ยังไงก็ฝากทุกๆ คนติดตามด้วยนะคะ แน่นอนว่ามี ซิงเกิลแรก ซิงเกิลถัดๆ ไปก็จะตามมาแน่นอนค่ะ ฝากด้วยนะคะ