"คนิ้ง-มามิ้งค์-แชมพู" กับจุดสตาร์ทชีวิต "ศิลปิน-นักแสดง" ที่มากับบทเรียนอันล้ำค่า | Sanook Music

"คนิ้ง-มามิ้งค์-แชมพู" กับจุดสตาร์ทชีวิต "ศิลปิน-นักแสดง" ที่มากับบทเรียนอันล้ำค่า

"คนิ้ง-มามิ้งค์-แชมพู" กับจุดสตาร์ทชีวิต "ศิลปิน-นักแสดง" ที่มากับบทเรียนอันล้ำค่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่ได้ทำงานในฐานะไอดอลที่มีผลงานหลายซิงเกิล และเพลงพิเศษ ล่าสุด แชมพู-กชพร ลีละทีป สมาชิก CGM48 ได้รับโอกาส ค่ายเพลง Independent Records ( อินดิเพนเด้นท์ เรคคอร์ด) หรือ IR ร้องเพลง "ลา ลา รัก" OST. ประกอบภาพยนตร์ The Cheese Sisters ตอน Baker ซึ่งเป็นผลงานที่ คนิ้ง-วิทิตา สระศรีสม และ มามิ้งค์-มาณิฌา เอี่ยมดิลกวงศ์ เพื่อนร่วมวง CGM48 นำแสดง

ด้วยความที่การแสดงเป็นเรื่องใหม่ของคนิ้ง รวมถึงตัวมามิ้งค์ที่เพิ่งทำงานในโปรเจกต์ท้าทายอย่างเพลง "พร่ำเพ้อ (Bubbles in the sky)" ในโปรเจกต์ INDY CAMP ส่วนเพลง "ลา ลา รัก" ก็เป็นเพลงแรกที่แชมพูถ่ายทอดด้วยตัวเอง หลังจากที่เคยร้องเพลงกับเพื่อนร่วมวง ทำให้ Sanook Music ถือโอกาสพูดคุยกับทั้ง 3 ถึงจุดสตาร์ทการเป็นนักแสดง-ศิลปิน 

แชมพูรู้สึกอย่างไร กับการได้รับโอกาสร้องเพลง “ลา ลา รัก” ?

แชมพู : เพลงนี้มีชื่อเพลง “ลา ลา รัก” เป็น Original Soundtrack ของภาพยนตร์ The Cheese Sisters พี่คนิ้งและมามิ้งค์ แชมได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ครั้งแรกและเป็นเพลงเดี่ยวครั้งแรกด้วยก็ตื่นเต้นและดีใจมาก ดีใจที่เขาให้โอกาสเราและเราอยากจะทำเต็มที่ในทุกๆ โอกาสของการทำงานนี้เลยค่ะ กับเพลงนี้ก็ทำการบ้านเยอะมาก เพราะเป็นเพลงแรกก็อยากทำให้ดีที่สุดทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การเรียนและการอัดก็มีครูเอ๊ะเป็นผู้ดูแลให้เราค่ะ ช่วงกลางของเพลงก็มีพี่คนิ้งมามิ้งค์ มาร่วมร้องด้วย 

มามิ้งค์กับคนิ้ง มีความประทับใจกับเพลง “ลา ลา รัก” อย่างไรบ้าง? 

มามิ้งค์ : เป็นเพลงที่น่ารักสดใสอยู่แล้ว พอได้เนื้อเสียงน้องที่น่ารักสดใส ก็เนื้อเพลงก็ยิ่งน่ารักไปใหญ่ รู้สึกทำนองติดหูฟังง่าย ฟังแล้วชอบเลยค่ะ 

คนิ้ง : คิดว่าน้องทำออกมาได้ดีทั้งเนื้อเพลง เพราะด้วยความเป็นบทจากหนัง เป็นเพลงที่มาจากหนัง มันต้องเข้าใจมู้ดและสื่อสารออกมา น้องทำได้ดีจริงๆ ขอชมเลย 

คนิ้ง และ มามิ้งค์ รู้สึกอย่างไรกับการได้แสดงในภาพยนตร์ The Cheese Sisters? 

มามิ้งค์ : ตอนแรกก็ตื่นเต้นมาก และเป็นเรื่องแรกที่แสดงคู่กัน ก็ตื่นเต้นมากและกดดันหน่อยเพราะเราอยากทำให้ดีมากๆ เพราะมันไม่ใช่โอกาสที่มาง่ายทั่วไป ก็ทำเต็มที่ 

คนิ้ง :  ก็ถือว่าสนุกมากเลย อย่างตอนแรกที่รู้บทก็ตกใจ และมาเครียดต่อ เราไม่รู้ว่าเราจะทำได้ดีไหม ตรงตามคาแร็คเตอร์หรือเปล่า แต่มันมีพี่ๆ ในกองคอยช่วย เขาใจดีมากเลย อย่างเราไม่รู้ว่าตัวละครมีความสุขเพื่ออะไร เขาจะบอกแบบให้เราเปรียบเทียบว่าเหมือนได้กินอะไรอร่อยๆ ก็เอามาปรับใช้ได้ค่ะ เลยรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น 

ในการแสดงภาพยนตร์ The Cheese Sisters เราได้ปรึกษาเพื่อนร่วมวงเรื่องการแสดงไหม? 

คนิ้ง : หนูได้คุยพี่ฟอร์จูน ตอน ทริอาช The series จบไปแล้ว ก็แบบ “พี่ฟอร์ทำไงดี จะไปถ่ายแล้วทำไงดี ยังจำบทไม่ได้เลย ไม่เข้าใจว่าตัวละครทำไมคิดแบบนี้” พี่ฟอร์จูนก็แบบให้อ่านบทหลายๆ รอบ ซึมซับตัวละคร และหาอะไรมาปรับใช้กับบท ก็ช่วยต่อบทตอนซ้อม 

การเป็นศิลปินและนักแสดง มีความแตกต่างจากที่เราคิดอย่างไร? 

มามิ้งค์ : มีความยากกว่าที่คิดนะคะ พอไปอยู่หน้าเช็ต ความเกร็งมันเกิดขึ้นเอง ต้องวอร์มหน้า บางทีหน้าเกร็ง ตาเกร็ง มันมีความยากหลายๆ มิติที่เราไม่รู้ แต่อย่างแสดงเอ็มวีมันก็อีกอย่าง มันเครียดน้อยกว่า พอเป็นนักแสดงมันต้องจำบทและสื่อทุกอย่างเลย ไม่ว่าสีหน้าแววตาคำพูด มีความยากกว่าค่ะ  

คนิ้ง :  ความรู้สึกในการแสดงที่เป็นธรรมชาติมันยากมากๆ คือปกติเราทำตัวธรรมชาติ แต่พออยู่หน้ากล้องมันเกร็งขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ เพราะอย่างตอนถ่ายเอ็มวี CGM48 มันออกแนวน่ารักสดใสๆ เพราะได้อยู่กับเพื่อน แต่อันนี้ต้องจำบท จำอะไรด้วย มันยากค่ะ 

แชมพู : ที่จริงก็ปกติเราก็ร้องเพลงเป็นปกติอยู่แล้ว แต่พอมาทำงานเดี่ยว ก็เป็นการเติบโตอีกแบบ อย่างตอนอยู่กับเพื่อนเราจะมีความสามัคคีเป็นทีม แต่งานเดี่ยวเราต้องทำให้ทุกอย่างไปได้ดีในคนเดียว ให้คนรอบข้างมองว่าเราเอาอยู่นะ พอเอาเข้าจริงเราก็สนุกมาก ความเครียดที่มีก็หายไป เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราเติบโตไปอีกขั้นค่ะ 

การแสดงสอนและให้อะไรกับ มามิ้งค์ และ คนิ้ง ? 

คนิ้ง : การเป็นนักแสดงทำให้หนูเรียนรู้บทบาทการแสดง อย่างเราดูอยู่หน้าจอก็จะแบบ “เขาแสดงเก่งจัง อินเนอร์ดี” พอเราเข้ามาก็ได้เรียนรู้มากขึ้น มันสนุกดี เป็นสายงานที่สนุกค่ะ

มามิ้งค์ : “ได้ลองเป็นเจ้าของคาเฟ่ค่ะ (หัวเราะ) มันก็จะได้ลองบทบาทที่ไม่เคยลอง การตกหลุมรัก การมีความรัก หนูว่ามันสนุกที่เราได้สัมผัสอะไรที่ชีวิตเราไม่เคยสัมผัสค่ะ

หลังจากงานแรก มีผลงานเพลงและซีรีส์รูปแบบไหนที่เราอยากทำในอนาคตไหม? 

คนิ้ง : บทที่อยากแสดงคือหนังสืบสวนสอบสวนค่ะ ชอบแนวลึกลับอยู่แล้ว ก็อยากลองทำ ส่วนเพลงที่อยากร้องเป็นเพลงแนวบัลเล่ต์ พลิ้วๆ สวยๆ แบบแจ๊ส

แชมพู : อยากแสดงบทซึ้งๆ ดราม่านิดนึง เพราะชอบอะไรเข้าถึงอารมณ์ เลยอยากลองบทบาทเศร้า แต่ก็มีความสุข ที่จริงการแสดงเป็นสิ่งที่อยากลองก่อนมากกว่าเพราะยังไม่เคยแสดงเลย ก็อยากขอบคุณทุกโอกาสที่รับไม่ว่าอะไรมันจะมา ส่วนเพลงอยากทำอะไรที่ซึ้งๆ เหมือนกัน เราเป็นคนที่เวลาอินกับอะไรก็จะเข้าไปจนรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร ก็อยากร้องเพลงช้าๆ ซึ้งๆ 

มามิ้งค์ : อยากลองบทบาทแนวดูมีความลึกลับพิศวงและแฟนตาซี ก็อยากลอง หรือแนวภาพยนตร์อินดี้ ส่วนเพลงเคยทำแล้ว แต่อยากทำเพลงภาษาอังกฤษล้วนเป็นแนวอินดี้อัลเทอร์เนทีฟดูค่ะ 

ในวันนี้ที่เราได้มีผลงานเพลง และงานแสดง เราอยากบอกอะไรกับตัวเองบ้าง?

คนิ้ง : อยากขอบคุณที่มีอะไรมาดลใจคนที่ให้โอกาสเรา จนเรามาอยู่ตรงนี้มีประสบการณ์มากขึ้น ต้องอยากขอบคุณตัวเอง เพราะเราได้โอกาสมาก็อยากพัฒนาต่อไป 

แชมพู : ขอบคุณตัวเองที่เข้ามาในจุดๆ นี้ ก้าวข้ามความกลัว ความขี้อายมาอยู่ตรงนี้ อยากขอบคุณตัวเองทุกๆ อย่างเลย ที่ทำให้เราได้มาอยู่ตรงนี้เป็นนักร้อง เป็นไอดอลค่ะ อยากพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ และไม่หยุดอยู่กับตัวเอง

มามิ้งค์ : ขอบคุณที่เราได้โอกาส และพัฒนาตัวเองเต็มที่ ภูมิใจมากที่ได้รับโอกาสและทำเต็มที่ พัฒนาตัวเอง ขอบคุณที่เชื่อมั่นและเคารพในตัวเอง สุดท้ายขอบคุณคนรอบข้างและแฟนคลับที่สนับสนุน 

Photo by Ditsapong K. / Panusbodee P.

อัลบั้มภาพ 33 ภาพ

อัลบั้มภาพ 33 ภาพ ของ "คนิ้ง-มามิ้งค์-แชมพู" กับจุดสตาร์ทชีวิต "ศิลปิน-นักแสดง" ที่มากับบทเรียนอันล้ำค่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook