"ชฎา-รำไทย" เคยอยู่ในเอ็มวี "Black or White" ของ Michael Jackson | Sanook Music

"ชฎา-รำไทย" เคยอยู่ในเอ็มวี "Black or White" ของ Michael Jackson

"ชฎา-รำไทย" เคยอยู่ในเอ็มวี "Black or White" ของ Michael Jackson
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
  • มิวสิควิดีโอเพลง  "Black or White" เป็นเพลงโปรโมทจากอัลบั้ม Dangerous เปิดตัวปี ค.ศ. 1991 ถือเป็นอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 8 ของ Michael Jackson

  • วัฒนธรรมไทยทั้ง ชฎา รำไทย เปิดตัวสู่วัฒนธรรมป็อปอย่างเป็นทางการพร้อมความฮิตของซิงเกิลเพลง "Black or White" ของ ป็อปสตาร์ระดับโลก Michael Jackson

วัฒนธรรมไทยเปิดตัวสู่วัฒนธรรมป็อปอย่างเป็นทางการพร้อมความฮิตของซิงเกิลเพลง "Black or White" ของ ป็อปสตาร์ระดับโลก Michael Jackson (ไมเคิล แจ็คสัน) ซึ่งทำยอดขายอันดับ 1 ใน Billboard Chart ตั้งแต่เริ่มวางแผงในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1990  และยืนหนึ่งต่อเนื่องนานถึง 7 สัปดาห์ใน 20 ประเทศ ครองอันดับเพลงขายดีที่สุดในปี ค.ศ.1992 จากการรวมยอดขายจากทั่วโลก

black-or-white8

นอกจากความสำเร็จของเพลงแล้ว มิวสิควิดีโอในรูปแบบหนังสั้นก็ยังได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังการเปิดตัวรอบพรีเมียร์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1991 ฉายทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ทั้ง MTV, BET, VH1 และ Fox พร้อมกับอีก 25 ประเทศทั่วโลก ทำสถิติเรตติ้งด้วยจำนวนผู้ชมสูงสุดเท่าที่เคยมีมาโดยสามารถเข้าถึงผู้ชมได้กว่า 500 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งในมิวสิควิดีโอเพลงนี้มีการนำความหลากหลายวัฒนธรรมและเชื้อชาติจากทั่วโลกเข้ามาเป็นคีย์ และในนั้นก็มีซีนนางรำไทยใส่ชฎาทัดมาลัยดอกไม้เข้ามาสร้างความฮือฮาด้วยเช่นกัน

black-or-white7

เบื้องหลังความสำเร็จ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของ "Black or White" คือผู้กำกับ John Landis (จอห์น แลนดิส) ผู้กำกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด เจ้าของผลงานภาพยนตร์แนวแฟนตาซีระทึกขวัญที่เป็นขวัญใจวัยรุ่นยุค '80s อย่าง An American Werewolf in London ที่ซ่อนนัยแห่งความเป็นคนประหลาดอยู่ผิดที่ผิดทางและต้องการการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม และในครั้งนี้ John Landis ได้ร่วมกับ Michael Jackson สร้างตำนานมิวสิควิดีโอเพลงมารองรับการเกิดของสถานีโทรทัศน์แห่งใหม่ MTV (Music Television) ที่ออกแบบรายการมาเพื่อเผยแพร่ภาพและเสียงที่เรียกว่ามิวสิควิดีโอโดยเฉพาะ ถือว่าเป็นความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่ฮิตมากในต้นยุค 80

John Landis ได้ร่วมกับ Michael Jackson พลิกประวัติศาสตร์วงการเพลงไปตลอดกาลด้วยการทำมิวสิควิดีโอเพลงที่เรียกว่า "Thriller" เป็นเพลงเปิดตัวของ Michael Jackson ในฐานะศิลปินเดี่ยวหลังจากที่เขาแยกตัวมาจาก The Jackson 5 วงป็อปโซลร้องประสานเสียง 5 พี่น้องของตระกูลแจ็คสัน ซึ่งไมเคิลเป็นนักร้องนำเสียงใสมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยทริลเลอร์เป็นรูปแบบของมิวสิควิดีโอที่เล่าเรื่องชนิดเป็นเรื่องเป็นราวในรูปแบบหนังสั้น ประสานกับช่วงลิปซิงค์และเต้นรำ เหมือนละครเพลงหรือมิวสิคัลขนาดสั้นก็ว่าได้

black-or-white5

สำหรับมิวสิควิดีโอเพลงนี้เป็นเพลงโปรโมทจากอัลบั้ม Dangerous เปิดตัวปี ค.ศ. 1991 ถือเป็นอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 8 ของ Michael Jackson โดยในปี ค.ศ. 1991 ตรงกับยุคที่ Michael Jackson ก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินป็อปที่ดังที่สุดในโลกก็ว่าได้ วัดจากสถิติยอดขายทั้งงานเพลงในยุคที่ยังเป็นแผ่นซีดีและเทปคาสเซ็ตต์ (ยังไม่มีดาวน์โหลดฟรี) และยอดขายบัตรคอนเสิร์ตทั่วโลก อีกทั้ง Michael Jackson ได้รับฉายาว่าเป็น King of Pop และเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินป็อปที่เน้นการร้องกับการเต้น มาจนถึงยุค K-POP ในปัจจุบัน

ขณะที่ในชีวิตจริง Michael Jackson เชื้อสายแอฟริกันอเมริกันผู้มีผิวสีเข้มได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ ทั้งการศัลยกรรมจมูกและริมฝีปากให้เรียวเล็กลง และเปลี่ยนสีผิวจากดำเป็นขาว จนทำให้เกิดข้อกังขาว่า ไมเคิลอาจไม่พอใจอัตลักษณ์ทางเชื้อชาติและสีผิวในเรือนร่างของเขาหรือเปล่า แม้ไมเคิลจะมีเอกสารทางการแพทย์รองรับว่า ผิวที่เปลี่ยนสีอย่างสิ้นเชิงของเขา เป็นผลลัพธ์ของอาการของโรคด่างขาว ซึ่งเป็นโรคผิดปกติทางผิวหนัง แต่เขากลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ นินทา หรือสมัยนี้ก็คือ บูลลี่ อย่างหนักผ่านสื่อถึงอัตลักษณ์ของเขา และไมเคิลเลือกที่จะตอบโต้ด้วยการเขียนเพลงพร้อมจัดแพคเกจมิวสิควิดีโอ สื่อสารด้วยภาพและเสียงในเพลง "Black or White" ดนตรีที่มีทั้งเบรกบีต ร็อค การร้องทั้งแร็ปและโซล กับท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งวิธีการร้องที่ใส่ฟีลมากกว่าเทคนิค โดยเนื้อเพลงได้โยนคำถามกับคนฟังว่า มันจะยังสำคัญอยู่ไหมที่เราต้องแบ่งแยกกันด้วยความขาวความดำ

black-or-white4

เนื้อหาในมิวสิควิดีโอ ยังถ่ายทอดความหมายของเพลงที่พุ่งเป้าไปที่ความหลากหลายทางเชื้อชาติ สีผิว เผ่าพันธุ์  สื่อสารความคิดความในใจของเขา ช่วงที่ชีวิตของเขาเผชิญกับคำถามเรื่องอัตลักษณ์ที่เกี่ยวกับเชื้อชาติและสีผิวของเขาว่า ตกลงเขาเป็นคนขาวหรือคนดำ เป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เป็นชนเผ่าหรือเป็นชาวเมืองศิวิไลซ์  ทั้งนี้มิวสิควิดีโอเพลง "Black or White" ตอกย้ำสารของการให้ความหมายการเป็น มนุษย์พลเมืองโลก มีหลากหลาย โดยราชาเพลงป็อปคนนี้ได้ตะโกนบอกโลก และทวงถามสังคมในการเป็นพลเมืองโลก ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว อยู่ในส่วนไหน หรือวัฒนธรรมใด หรือเพศใด ทุกคนก็ล้วนเป็นพลเมืองโลกไม่ใช่หรือ ไม่เกี่ยวว่าจะขาวหรือดำ

“And I told about equality and it’s true

Either you’re wrong or you’re right

But, if you’re thinkin’ about my baby

It don’t matter if you’re "Black or White".”

black-or-white6

อัตลักษณ์ที่หลากหลายของพลเมืองโลกที่ Michael Jackson เลือกใส่ในมิวสิควิดีโอของเขา สื่อผ่านศิลปะการเต้นรำและเครื่องแต่งกายแนวประเพณีนิยมของชาติพันธุ์ต่างๆ อีกทั้ง Michael Jackson เจ้าของท่าเต้นเป็นเอกลักษณ์ก็ได้ร่วมเต้นรำกับท่ารำประเพณี เหล่านี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าในแอฟริกา ชนเผ่าอินเดียนแดงพื้นเมืองอเมริกัน นาฏศิลป์อินเดีย และนางรำไทยในชุดผสมผสานระหว่างนางรำฟ้อนเล็บ กินรี และรำฉุยฉายมิกซ์กับความป็อปของดนตรี เป็นการสื่อสารที่บ่งบอกถึงความหลากหลายและการสอดประสานกันระหว่างผู้คนอย่างไม่แบ่งแยก

ในช่วงสุดท้ายของมิวสิคเพลง "Black or White" หลังจบเพลงมีฉากเสือดำกลายร่างเป็น Michael Jackson และไมเคิล สาธิตท่าเต้น โดยไม่มีเสียงเพลง ถ่ายทอดอารมณ์จากภายในด้วยท่วงท่าเคลื่อนไหว พลังที่พุ่งออกมาปะทะทำลายวัตถุในซอยมืดและแคบ ก่อนที่จะคืนร่างไปเป็นเสือดำ เป็นการให้คำตอบเชิงเปรียบเปรยถึงอัตลักษณ์ตัวตนที่เป็นมากกว่าแค่ ผิวหนัง ร่างกายภายนอก

นิตยสาร Rolling Stone สื่อมวลชนสายดนตรีทรงอิทธิพลของอเมริกา ได้ยกให้เพลง  "Black or White" เป็นเพลงยอดเยี่ยมที่สุดของไมเคิล แจ็คสันในยุค '90s ทั้งด้านดนตรีและเนื้อเพลงที่ส่งสารเรียกร้องให้ยอมรับความหลากหลายของเชื้อชาติสีผิว นี่ไม่ใช่เพลงประท้วงแต่เป็นเพลงป็อปที่ฮิตติดหู แฝงพลังแห่งการคิดบวก ส่วนไทยเราเอง "Black or White" คือเพลงป็อปเพลงแรกที่นำอัตลักษณ์ด้านวัฒนธรรมออกไปปรากฏให้คนทั่วโลกได้เห็น

เบื้องหลังการถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง "Black or White" ของ Michael Jackson

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook