เส้นทางสีรุ้งของ “Tiger Killer” | Sanook Music

เส้นทางสีรุ้งของ “Tiger Killer”

เส้นทางสีรุ้งของ “Tiger Killer”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางความซบเซาของวงการเพลงไทย เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ศิลปินหน้าใหม่ในนาม “Tiger Killer” ได้เปิดตัวพร้อมกับเพลง “เข้าฝัน” เพลงแนวอิเล็กทรอนิกป็อปเร้าอารมณ์ และมิวสิกวิดีโอสีสันจัดจ้าน ไม่เพียงเท่านั้น Tiger Killer ยังเปิดตัวในฐานะศิลปิน “non-binary” หรือผู้ที่มีสำนึกทางเพศที่ไม่ใช่ชายและหญิงตามบรรทัดฐานของสังคม ยิ่งส่งให้ตัวตนของเขาโดดเด่นและน่าสนใจยิ่งกว่าเดิม

Tiger KillerTiger Killer

Tiger Killer

Tiger Killer หรือชื่อเล่นว่า “ฟลุ๊ค” เล่าว่า เดิมทีแล้วเขาไม่ได้ชื่อฟลุ๊ค แต่มีชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ว่า “เสือ” ทว่าหลังจากที่ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เด็กชื่อเสือในวันนั้น จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็นฟลุ๊คในที่สุด

“แม่มาเล่าให้ฟังทีหลังว่าก่อนหน้าที่จะชื่อฟลุ๊ค เราชื่อเสือนะ เราก็ชอบชื่อเสือ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งเรามีโอกาสได้เข้ามาเป็นนักร้อง เราก็อยากจะมี stage name ของเราที่เอาชื่อนี้กลับมา ฟลุ๊คก็เลยดึงเอาชื่อเสือกลับมา แต่ปรับให้เป็นภาษาอังกฤษก็คือ Tiger แต่ทีนี้ คำว่า Tiger อย่างเดียวมันไม่พอ อยากมีคำต่อท้ายให้มันดูคูลขึ้น แล้วอยู่ดีๆ คำว่า Killer มันก็ลอยเข้ามาในหัวอัตโนมัติเลย ก็เออ... Tiger Killer มันก็ดูคล้องจอง เข้ากัน แล้วความหมายมันก็สื่อถึงตัวเราด้วย ก็คือนักฆ่าเสือ เหมือนเป็นนายพราน พอมามองเรื่องราวของเรา เสือตัวนั้นมันตายไปแล้ว แต่คนที่ยังอยู่ตอนนี้ ก็คือ Tiger Killer ก็คือฟลุ๊ค” ฟลุ๊คเล่า

นอกจากตัวตนที่เหมือนคืนชีพจากอุบัติเหตุในวัยเด็ก อีกตัวตนหนึ่งของฟลุ๊คคือการนิยามตัวเองว่าเป็น non-binary ซึ่งเขาเล่าว่าเขาพยายามค้นหาตัวตนนี้มาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากรู้สึกว่าระบบทางเพศที่มีเพียงสองขั้ว คือชายและหญิงตามบรรทัดฐานของสังคม หรือแม้แต่การนิยามตัวเองว่าเป็นเกย์ ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ

“ฟลุ๊คก็เลยมาสำรวจตัวเองให้ครบทุกมิติว่าจริงๆ แล้วเราชอบอะไร แล้วเรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วตัวเองแสดงออกเด่นชัดมากคือการแต่งตัว บางทีวันนี้ฉันรู้สึกสวย ฉันก็จะแต่งตัวให้สวยที่สุด ฉันจะใส่เดรส ใส่ส้นสูง ฉันก็ใส่ แต่วันไหนที่ตื่นมาแล้วรู้สึกว่าอยากคูลๆ บอยๆ หน่อย ก็แต่งแบบเท่ๆ หรือบางทีรู้สึกว่าอยากจะผสมผสานทั้งสองแบบ มีความเป็นทั้งชายและทั้งหญิง เราก็แสดงมันออกมา จนไปพบกับคำว่า “Androgyny” ในอินเตอร์เน็ต เราก็รู้สึกว่ามันนิยามตัวเราได้ดีมาก ซึ่งคำนี้ก็เหมือนเป็น subset ของ non-binary เหมือนกัน ฟลุ๊คก็เลยรู้สึกว่าฟลุ๊คสามารถนิยามตัวเองว่าเป็น non-binary คนหนึ่งได้

 

จุดเด่นของฟลุ๊คที่เราไม่อาจละสายตาได้ คือการแต่งกายที่ผสมผสานหลากหลายสไตล์ และยังสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการหยิบจับเสื้อผ้าแบบต่างๆ มามิกซ์แอนด์แมตช์กันได้อย่างลงตัว

“ฟลุ๊คเป็นคนที่ชอบซื้อเสื้อผ้ามือสอง แล้วเวลาไปค้นตามกองเสื้อผ้ามือสอง เรารู้สึกว่า ทำไมมีแต่เสื้อผ้าผู้หญิงวะ แต่ฉันอยากใส่น่ะ อยากใส่สายเดี่ยว อันนี้มีเว้าด้วย อยากใส่กระโปรงแบบสั้น แบบยาว แหวกข้าง แต่ทำไมของผู้ชายมีแค่เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต เสื้อคลุม มันไม่สนุกเลย แต่พอเราลองใส่เสื้อผู้หญิง เราสนุกว่ะ กลายเป็นคนที่มีความสุขกับการแต่งตัวแบบนี้มาก” ฟลุ๊คเล่ายิ้มๆ

อย่างไรก็ตาม ด้วยบุคลิกลักษณะที่ “แหวกขนบ” อยู่ไม่น้อย ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะถามถึงการอธิบายกับคนรอบข้างและสังคมเกี่ยวกับตัวตนของฟลุ๊ค ซึ่งเขาเล่าว่า ที่ผ่านมา เขาไม่เคยต้องอธิบายเรื่องนี้กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนในครอบครัวแต่อย่างใด แต่คนเหล่านี้ได้ซึมซับและเรียนรู้ไปพร้อมกับเขานับตั้งแต่วันที่เขายังไม่รู้จักตัวเองดีพอ และฟลุ๊คก็สัมผัสได้ถึงความภาคภูมิใจที่คนในครอบครัวมีต่อเขา

“มันมีประโยคหนึ่งที่แม่พูดกับเราและเรารู้สึกดีใจมากก็คือ คุณแม่แต่งงานใหม่และมีครอบครัวที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ แล้วแม่คุยกับเราว่า ‘มาอยู่ที่นี่ไหม ที่นี่ ไม่ว่าเพศไหนก็แต่งงานกันได้หมดแล้วนะ’ เรารู้สึกว่านี่มันปลดล็อกเราแล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกว่า ‘แม่ ฟลุ๊คเป็นแบบนั้นแบบนี้’ เขาเข้าใจเราโดยที่ไม่ต้องพูดเลยว่าเราเป็นแบบไหน นี่คือสิ่งที่ฟลุ๊คดีใจมากสำหรับครอบครัว เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่มีแม่ที่ไม่เคยห้ามอะไรเราเลย ถึงเขาจะไม่เคยสนับสนุนว่าเป็นเลยลูก แต่เขาไม่เคยตั้งคำถามหรือทำให้เรารู้สึกแย่กับสิ่งที่เราเป็นเลย”

ศิลปินกับความหลากหลาย

“เราเคยอยู่ในจุดที่ผู้ใหญ่บอกว่ายอมรับในสิ่งที่เราเป็น แต่ไม่ได้ให้โอกาสให้เราเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็นจริงๆ แต่ที่นี่ให้ฟลุ๊คเป็นในสิ่งที่ฟลุ๊คอยากเป็น มันดีน่ะ พอเราได้เป็นตัวของตัวเองจริงๆ งานเลยออกมาดีอย่างที่ฟลุ๊คคิดไว้ ฟลุ๊ครู้สึกว่าโคตรโชคดีเลยที่ได้เป็นตัวของตัวเองและได้ทำในสิ่งที่รักด้วย” ฟลุ๊คเปิดเผยถึงความรู้สึกที่ได้เป็นศิลปินในค่าย Gene Lab ที่เปิดพื้นที่ให้เขาได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ และทำให้ผลงานออกมาดีอย่างที่เขาตั้งใจ และทำให้เขาอยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ กล้าที่จะเป็นตัวเองอย่างที่เขาเป็น

สำหรับผลงานเพลงของฟลุ๊คนั้น แม้จะเปิดตัวด้วยเพลงแนวอิเล็กทรอนิกป็อป ซึ่งเป็นแนวเพลงที่ฟลุ๊คโปรดปราน ด้วยแรงบันดาลใจจากยานแม่ “Lady Gaga” ทว่าในอัลบั้มของเขาเอง กลับอัดแน่นไปด้วยเพลงและกลิ่นอายดนตรีอีกหลากหลายแนว ทั้งแทร็ป, ทร็อตของเกาหลี, ดนตรีพื้นถิ่นของอินโดนีเซีย รวมทั้งกลิ่นเครื่องดนตรีลาติโน และดนตรีแนว Futurism ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าแนวดนตรีเหล่านี้ค่อนข้างใหม่สำหรับสังคมไทย แต่เขาก็อยากจะเป็นผู้ที่สร้างทางเลือกใหม่ให้อุตสาหกรรมเพลงไทย ให้คนไทยได้มีทางเลือกในการฟังเพลงที่มากขึ้น ขณะเดียวกัน แนวดนตรีที่หลากหลายก็ยังสะท้อนตัวตนของเขาอีกด้วย

“ฟลุ๊คไม่ได้หยุดที่แนวดนตรีแค่แนวเดียว ฟลุ๊ครู้สึกว่ามันก็เหมือนเรื่องเพศที่เราต้องหาคำตอบไปเรื่อยๆ เราอาจจะรู้สึกว่าตอนนี้เราเป็น non-binary นะ แต่ในอนาคตเราอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้ หรือว่าเพลง ตอนนี้ฟลุ๊คอาจจะชอบแนวนี้ แต่ในอนาคตก็อาจจะมีแนวอื่นที่ฟลุ๊คสนใจแล้วก็ชื่นชอบ อาจจะเปลี่ยนไปชอบแนวอื่นก็ได้ ฟลุ๊คชอบหยิบอันนั้นอันนี้มาใส่ในเพลง อาจจะเป็นแค่เอกลักษณ์เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้มาเต็มทุกแนว เราอยากให้มีความหลากหลายเหมือนเราที่มีความหลากหลาย เพราะฉะนั้น เพลงก็สะท้อนตัวตนของเรามากเลย

สบายใจที่จะเป็นตัวเอง

ในสังคมอนุรักษ์นิยมอย่างประเทศไทย ที่แม้จะเปิดกว้างกับกลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้นกว่าในอดีต แต่ก็ยังมีกรอบจำกัดบางอย่างหลงเหลืออยู่เช่นกัน ซึ่งฟลุ๊คก็พูดถึงวิธีสร้างความมั่นใจในสังคมเช่นนี้ว่า เขาต้องรู้สึกสบายใจและปลอดภัยมากพอที่จะนิยามตัวเองก่อน แล้วจึงจะรู้สึกกล้าและภูมิใจที่จะทำสิ่งต่างๆ ตามแนวทางของตัวเอง

“ก่อนที่เราจะกล้าใส่กระโปรง เราก็เคยไม่กล้ามาก่อน ตอนที่ฟลุ๊คเรียนมหาวิทยาลัย เราอยากใส่กระโปรง แต่ไม่กล้า อยากใส่ส้นสูงก็ไม่กล้า วิธีคือหักดิบ ลอง อยากทำอะไรก็ทำไปเลย จะได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ ใส่กระโปรงแล้วก็ เออ สบายเหมือนกันเนอะ ถามว่าคนมองไหม ก็มอง เราแคร์ไหม ก็มีแคร์เหมือนกัน แต่ตอนหลัง พอเรารู้ว่าเราชอบ มันกลายเป็นว่าเราไม่แคร์พวกนั้นเลยว่าเขาจะคิดอะไร ก็คือเรื่องของเขา มันคือปัญหาของเขา แต่เรามีความสุขที่เราได้ใส่ โอเคแล้ว ทำให้มีความสุขก็พอ เพราะไม่มีใครที่จะมาบอกเราได้ว่าเราควรเป็นแบบไหน ตัวเราเองเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าเราคือใคร เพราะฉะนั้น แค่ทำตัวเองให้มีความสุขในทุกวันก็พอแล้ว” ฟลุ๊คทิ้งท้าย

อัลบั้มภาพ 33 ภาพ

อัลบั้มภาพ 33 ภาพ ของ เส้นทางสีรุ้งของ “Tiger Killer”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook