10 อัลบั้มที่เราจะไม่ได้ฟัง ถ้าไม่มี Dookie ของ Green Day | Sanook Music

10 อัลบั้มที่เราจะไม่ได้ฟัง ถ้าไม่มี Dookie ของ Green Day

10 อัลบั้มที่เราจะไม่ได้ฟัง ถ้าไม่มี Dookie ของ Green Day
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในปี 1994 สตูดิโออัลบั้มลำดับที่สามของ Green Day ถูกปล่อยออกมา Dookie กลายเป็นอัลบั้มมาสเตอร์พีซ ซึ่งมีหลายซิงเกิ้ลที่แฟนเพลงชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น "Basket Case", "Longview", หรือ "Welcome to Paradise" เป็นต้น นอกจากจะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคอเพลงพังก์ร็อคทั่วโลกแล้ว Dookie ยังคว้ารางวัลแกรมมีรางวัลแรกมาให้ Green Day ไปครองได้สำเร็จด้วย แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ มันถูกขนานนามว่าเป็นอัลบั้มที่ทำให้เพลงแนวพังก์ร็อคกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก!

จากวันนั้นถึงวันนี้ได้ผ่านมาแล้ว 25 ปี Green Day เติบโตขึ้นมาอยู่ในฐานะรุ่นพ่อของวงการเพลงร็อคไปแล้ว ไม่ต่างจากผลงานของพวกเขา ที่ได้กาลเวลาบ่มเพาะจนกลายเป็นหนังสือเรียนให้นักดนตรีรุ่นใหม่ได้ศึกษาและรับแรงบันดาลใจ มาดูกันว่า 10 อัลบั้มที่ได้รับอิทธิพลจาก Dookie มีอะไรบ้าง

 

          Lady Gaga – The Fame

“ฉันจำตอนที่ซื้ออัลบั้ม Dookie ของ Green Day ได้ มันยอดเยี่ยมจนฉันอยากจะเลียหน้าอาร์ทเวิร์คอัลบั้มเลย อัลบั้มนั้นมันยอดเยี่ยมและไม่เหมือนใคร” Lady Gaga ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า Dookie เป็นอัลบั้มแรกที่เธอตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง อิทธิพลของมันที่มีต่อซูเปอร์สตาร์เพลงป๊อปสามารถเห็นได้จากสไตล์และกลิ่นอายความพังก์ที่สอดแทรกอยู่ในอัลบั้มเพลงป๊อปแหวกแนวที่ทำให้ชื่อของ Lady Gaga กลายเป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบัน

          No Doubt – Tragic Kingdom

 นอกจากจะเป็นวงดนตรีจากแคลิฟอร์เนียเหมือนกันแล้ว No Doubt ยังแจ้งเกิดผ่านสไตล์เพลง ป๊อปพังก์ในปี 1995 หนึ่งปีหลังจาก Green Day เปิดประตูให้ดนตรีพังก์ติดตลาด ‘Tragic Kingdom’ มีซิงเกิ้ลนำชื่อว่า ‘Just a Girl’ บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวหัวขบถที่ถูกพ่อแม่ตีกรอบการใช้ชีวิต สไตล์ของเนื้อเพลงที่มีเรื่องราวกับพลังงานความสนุกสนานขี้เล่นในดนตรีของ No Doubt เสมือนเป็นคู่ตรงข้ามที่วิ่งขนานกับ Dookie ก็ว่าได้

          My Chemical Romance – The Black Parade

โปรดิวเซอร์ที่ควรได้รับการสรรเสริญที่สุดในจุดนี้คือ Rob Cavallo เพราะนอกจากเขาจะเป็นคนโปรดิวซ์อัลบั้ม Dookie แล้ว เขายังรับแรงบันดาลใจจากอัลบั้มดังกล่าว และนำมาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ในการทำอัลบั้มปี 2006 ของ My Chemical Romance ที่ใช้คอนเซปต์ของเพลงแนวทดลอง เพื่อเล่าเรื่องราวของชีวิตที่มืดหม่น จนกำเนิดออกมาเป็น The Black Parade

          Sum 41 – All Killer No Filler

 248109

อัลบั้มเดบิวต์ปี 2001 ของวงร็อคจากแคนาดาถูกชื่นชมว่า เป็นอัลบั้มที่สามารถดัดแปลงแนวเพลงสเก็ตพังก์ให้เข้ากับผู้ฟังในยุค ‘00s ได้เป็นอย่างดี Sum 41 ชื่นชม Green Day เป็นอย่างมาก และพูดเสมอว่าเพลงของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากเพลงในอัลบั้มเก่าๆ ของวงร็อคจากแคลิฟอร์เนียเสมอ “ผมอายุประมาณ 14 ปี ตอนที่อัลบั้ม Dookie ถูกปล่อยออกมา” Deryck Whibley นักร้องนำของวงกล่าว “ผมจำตอนที่เห็นมิวสิควิดีโอของ "Basket Case" เป็นครั้งแรกได้ มันเต็มไปด้วยพลังและมันก็แตกต่างจากทุกอย่างที่เคยมีมา ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็เป็นแฟนของพวกเขา”

          Blink 182 – Enema of the State

แม้ว่าแฟนเพลงของ Blink 182 หลายคนมักจะบอกว่าเพลงของ Green Day ไม่ได้มีอิทธิพลกับศิลปินของพวกเขาขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับว่าทั้ง 2 วงใช้องค์ประกอบทางดนตรีที่คล้ายกันหลายจุด มองอีกด้านคืออัลบั้ม ‘Enema of the State’ อาจจะไม่ได้รับการผลักดันจากค่ายเพลงเท่านี้ หากว่า Dookie ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดอย่างถล่มทลาย เพลงอย่าง Adam’s Song ซึ่ง Blink 182 เขียนให้กับแฟนเพลงที่ปลิดชีวิตตัวเอง สามารถจับไปรวมเป็นเพลงของ Dookie ที่เล่าเรื่องของปัญหาทางจิตใจและความวิตกกังวลเหมือนกัน

          Tegan and Sara – So Jealous

“ฉันจำตอนที่ซื้อซีดีของพวกเขาได้ ตอนนั้นฉันฟังมันซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น และก็คิดภาพตัวเองกำลังเล่นเพลงเหล่านั้นไปด้วย ฉันคิดว่านี่เป็นวงดนตรีวงแรกที่ทำให้ฉันอยากเรียนรู้วิธีเล่นกีตาร์” แฝดคนพี่อย่าง Tegan กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ MTV ในปี 2004 หลังจากที่ปล่อยอัลบั้ม So Jealous ผลงานเพลงป๊อปพังก์ที่ตีความใหม่ของสองแฝด

          Paramore – Riot

อัลบั้มจากปี 2007 ‘Riot’ เปิดรับพลังความตื่นเต้น โหวกเหวก และไร้การควบคุมจากอัลบั้มผลงานชิ้นเอกของ Green Day มาอย่างเต็มเปี่ยม พวกเขาผสมสานพลังแบบ Green Day เข้าไปกับความป๊อปที่ถูกหูคนฟังและความพังก์ที่คงที่ ซึ่งนั่นทำให้ Paramore สามารถทะลุกำแพงความโด่งดัง กลายเป็นอีกวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จ ซิงเกิ้ลนำ Misery Business บอกเล่าเรื่องราวและล้อเลียนเด็กมัธยมคนเดิมคนเดียวกับที่ Billie Joe เคยล้อไว้ในอัลบั้ม Dookie เมื่อหลายปีก่อน

          FIDLAR – FIDLAR

 115366

หนึ่งในอัลบั้มป๊อปพังก์ที่ดีที่สุดของปี 2012 เพลงของ FIDLAR สามารถทำให้คนฟังเกิดความรู้สึกตื่นเต้นอันตราย ในแบบเดียวกับที่ Dookie ทำให้เรารู้สึก อีกข้อน่ารู้คือ เพลง Time of Your Life จากอัลบั้ม ‘Nimrod’ ของ Green Day เป็นเพลงแรกที่มือกีตาร์ของวง FIDLAR ใช้หัดเล่นดนตรี

          Wavves – Afraid of Heights

ฟีลลิ่งของคนเมา เสียงกีตาร์อันโหยหวญ และกลิ่นอายของเพลงป๊อป สามสิ่งสำคัญที่เป็นแก่นสำคัญของ Dookie ได้ปรากฏในอัลบั้มจากปี 2013 ของวงร็อคจากซานดิเอโก แม้แต่ NME ยังต้องบอกว่า ‘Afraid of Heights’ คือ Dookie เวอร์ชั่นโมเดิร์น ที่คนยังไม่ค่อยรู้จักนัก’

          Green Day – American Idiot

ด้วยยอดขายและชื่อเสียงที่ได้รับหลังจากปล่อยอัลบั้ม Dookie ทำให้ Green Day สามารถไปสุดในแนวทางของตัวเองได้มากยิ่งกว่าเดิม American Idiot คืออัลบั้มพังก์โอเปร่าที่ยุ่งเหยิง บอกเล่าเรื่องราวของชีวิตคนที่กำลังจมดิ่ง รวมไปถึงความรักและการสูญเสียของคนรอบนอกเมือง ในภายหลังมันทำยอดขายไปมากกว่า 14 ล้านอัลบั้มทั่วโลก และได้รับการดัดแปลงให้เป็นมิวสิคัลในชื่อเดียวกันอีกด้วย

ชื่อของ Green Day กลายเป็นที่ชื่นชมและนับถือจากศิลปินมากมาย ณ วันนี้พวกเขายังเดินหน้าทำเพลงต่อไป โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมที่แฟนเพลงรัก เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า วงร็อคดีกรีรางวัลแกรมมีจะปล่อยอัลบั้มใหม่ Father of All… และในเดือนมีนาคม พวกเขาจะเดินทางมาเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย หลังจากห่างหายไปเกือบ 10 ปี

Green Day Live in Bangkok 2020 จะมีขึ้นในวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคาเริ่มต้น 2,000 บาท เปิดจำหน่ายในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือคลิกที่นี่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2262-3838

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook