Tom Odell กับคอนเสิร์ตเดี่ยวเปียโนครั้งแรกในไทยอันทรงพลังในโรงหนังสุดขลัง

Tom Odell ในคอนเสิร์ตบรรยากาศสุดขลังของโรงภาพยนตร์สกาล่า สะกดคนดูด้วยเวทีอันเรียบง่าย แต่มาพร้อมเสียงร้อง และเสียงเปียโนอันทรงพลัง สะกดสาตา และสมาธิของผู้ชมได้ตลอดการแสดง

 

เป็นครั้งที่ 2 ของเรากับการชมคอนเสิร์ตของศิลปินต่างประเทศที่จัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์สกาล่า ยอมรับว่าครั้งแรกที่ได้มาชม Jake Bugg ประทับใจในบรรยากาศขลังๆ เก่าๆ ของสกาล่าอยู่พอสมควร แต่ติดที่ระบบเสียงยังมีปัญหาเสียงบวม และการกระจายเสียงไปในโซนต่างๆ ยังทำได้ไม่เท่ากันนัก ทำให้ผู้ชมแต่ละโซนอาจได้รับคุณภาพเสียงที่แตกต่างกัน ในจุดนี้เราเลยกังวลเล็กน้อยว่า คอนเสิร์ต Tom Odell Jubilee Road 2019 Tour in Bangkok ครั้งนี้ จากผู้จัด BEC-Tero Entertainment เจ้าเดิม จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้หรือไม่

>> นุ่มนวล หนักแน่น และอบอุ่น กับ Jake Bugg Solo Acoustic Tour Live in Bangkok 2018

 

วันที่ 27 มีนาคม 2019 บรรยากาศหน้างานคอนเสิร์ตยังคึกคักเหมือนเคย แม้ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตจากศิลปินที่อาจจะเรียกว่าเป็นกลุ่มค่อนข้างเฉพาะอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือคนที่มาชมคอนเสิร์ตล้วนแล้วแต่เป็นแฟนคลับตัวยงของหนุ่ม Tom Odell กันทั้งนั้น ถือว่าเป็นข้อดีของคอนเสิร์ตขนาดกลางจากศิลปินกลุ่มเฉพาะที่ฉีกแนวไปจากศิลปินระดับแมส ที่จัดในฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ที่จะได้รับประสบการณ์ในการชมคอนเสิร์ตอีกรูปแบบหนึ่ง แตกต่าง และมีเสน่ห์แตกต่างกันไปในแต่ละแบบ ซึ่ง BEC-Tero ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคอนเสิร์ตในฮอลล์ใหญ่ๆ อย่างอิมแพ็ค อารีน่า จะไม่ค่อยได้สัมผัสกับบรรยากาศคอนเสิร์ตขนาดกำลังอบอุ่น และทั่วถึงอย่างนี้มากนัก

เวลา 20.30 น. Tom Odell ศิลปินหนุ่มมาดเซอร์ นักร้อง-นักแต่งเพลงวัย 28 ปีจากเกาะอังกฤษปรากฎตัวขึ้นอย่างเรียบง่าย บนเวทีที่ตกแต่งไว้อย่างเรียบง่ายไม่แพ้กัน เพราะมีเปียโนตั้งตรงกลางเวทีขนาดกะทัดรัดหนึ่งหลังถ้วน พร้อมไฟสีขาวสีส้มบนเวทีไม่เกิน 5 จุด Tom Odell กล่าวทักทายแฟนเพลงชาวไทยพร้อมรอยยิ้มสั้น ก่อนจะเริ่มจรดนิ้วเล่นเปียโนเพลงแรก “Go Tell Her Now” ที่แอบสังเกตเห็นว่าช่วงแรกทีการปรับจูนเสียงกันเพิ่มเติมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ไหลลื่น และทั้งร้องทั้งเล่นเปียโนต่อได้อย่างไม่มีปัญหา

 

 

 

 

Tom Odell พูดคุยกับผู้ชมตลอดทั้งการแสดง ทั้งกล่าวว่าดีใจที่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกที่เมืองไทย ตั้งใจเซ็ตเวทีง่ายๆ โดยมีแค่เขากับเปียโน เพราะอยากจำลองบรรยากาศเหมือนตอนที่เขานั่งแต่งเพลงที่จะมีเพียงเขาและเปียโนเท่านั้น และก่อนเริ่มเล่นเพลงต่อไป “Grow Old With You” ที่เขากล่าวว่าเป็นเพลงรักเพลงแรกที่เขาแต่ง เป็นอีกหนึ่งเพลงฮิตของเขาที่แฟนๆ กรี๊ดตั้งแต่โน้ตเปียโนตัวแรก

หากคิดว่างานนี้เราจะได้ยินแต่เสียงเปียโนที่เป็นเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวที่ปรากฎบนเวทีแล้ว ก็ต้องบอกว่าคิดผิด เพราะ Tom Odell จิบน้ำเล็กน้อยก่อนเอื้อมตัวไปหยิบ harmonica พร้อมอุปกรณ์ช่วยมาเกี่ยวเอาไว้ที่ศีรษะ โยนมุกตลกว่า “นี่คือ harmonica นะครับ ไม่ใช่ sex toy” และออกตัวว่าเล่นไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่ได้เล่นมาเกือบปีแล้ว ทั้งยังกล่าวว่าช่วงนั้นฟังเพลงของ Bob Dylan หนักมาก ก่อนจะเข้าเพลง “Behind The Rose” ด้วยเปียโน ร้องสดสลับเล่น harmonica ในช่วงกลางและท้ายของเพลง แม้ว่าฝีมือในการเล่น harmonica จะไม่ได้เทพอย่างที่เจ้าตัวยอมรับตั้งแต่ตอนแรก แต่การเพอร์ฟอร์มคนเดียวทั้ง 3 อย่างในเพลงเดียวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งถือว่าเขาทำได้ดีแบบสอบผ่านฉลุย

 

 

 

ความพิเศษของโชว์ในค่ำคืนนี้ นอกจากจะได้ฟังเพลงเพราะๆ เน้นเสียงร้องสดๆ ไม่มีการปรุงแต่ง พร้อมเสียงเปียโนอย่างใกล้ชิดแล้ว เรายังได้ฟัง Tom Odell เล่าถึงช่วงที่แต่งเพลงนั้นๆ ลงดีเทลอย่างละเอียดว่าช่วงนั้นอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ และมีแรงบันดาลใจจากอะไรถึงแต่งเพลงนี้ขึ้น สลับกับข้อมูลสัพเพเหระที่เจ้าตัวแซวตัวเองขำๆ ว่า “ผมเล่าอะไรไปเนี่ย” เป็นสกิลพิเศษสำหรับศิลปินที่เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเล่าเบื้องหลังของเพลงแต่ละเพลงได้ละเอียดขนาดนี้ ทำให้เราอิน และเข้าใจเพลงที่กำลังจะได้ฟังต่อไปได้ง่ายขึ้น

แสง สี เสียงจากการแสดงคอนเสิร์ตแนวเดี่ยวเปียโนในโรงภาพยนตร์สกาล่ายังคงเสน่ห์เฉพาะตัวเอาไว้ได้อยู่เหมือนเดิม เสียงจากไมโคนโฟนที่มีความชัดใส แต่นุ่ม และก้องกังวานนิดๆ เข้ากันได้ดีกับเสียงเปียโนที่มีทั้งจังหวะหนักเบาสลับกันไปตลอดช่วงการแสดง เรื่องเสียงบวมหายไป แต่จะมีเสียงคีย์เปียโนค้างหลังเล่นเพลงจบอยู่บ้างเบาๆ แสงไฟสีส้มสลับขาวนวลเสริมความอบอุ่นให้กับบรรยากาศคอนเสิร์ตที่ไปในทางเดียวกันกับบทเพลงของ Tom Odell บวกกับน้ำเสียงของเขาที่ทรงพลังราวกับกำลังชมละครเวที ทำให้เราเพลิดเพลินเคลิบเคลิ้มไปกับการแสดงตรงหน้าจนลืมดูนาฬิกาไปเลยว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ใครที่คิดว่าฟังเพลงที่มีแต่เสียงเปียโนแล้วจะง่วงก็ต้องคิดใหม่ เพราะจังหวะจะโคนในเพลงของ Tom Odell ในแต่ละเพลง โดยเฉพาะ “Constellations” ที่มีไดนามิกดัง-เบา ชัด-จาง เร่ง-ช้า ทั้งเพลง มันสามารถดึงสมาธิผู้ชมไปตลอดทั้งเพลงได้ง่ายกว่าที่คิด

 

 

 

นอกจากเราจะได้ฟังเพลงคุ้นหูที่มาพร้อมกับการเรียบเรียงใหม่ด้วยเสียงเปียโนล้วนๆ อย่าง “I Know”, “Concrete”, “Magnetised” ที่เป็นผลงานจากอัลบั้ม Wrong Crowd รวมถึง “Jubilee Road”, “Queen of Diamonds” และ “If You Wanna Love Somebody” จากอัลบั้มล่าสุด Jubilee Road แล้ว เรายังได้ฟังเพลงที่ไม่ค่อยได้ฟัง รวมถึงเพลงใหม่เอี่ยมอย่าง “Tears That Never Dry” ที่กำลังจะลงในอัลบั้มใหม่ชุดที่ 4 กันด้วย ที่ในความเพอร์เฟ็กต์ใส่พลังเต็มตลอดทั้งโชว์ ก็มาตกม้าตายเอาในเพลงใหม่นี้แหละ ที่หนุ่ม Tom เล่นเปียโนผิดคีย์ รวมถึงขึ้นร้องผิดจังหวะไปเล็กน้อย เขาแก้สถานการณ์ด้วยการเล่นต่อไปพร้อมอมยิ้มนิดๆ เป็นความผิดพลาดที่น่าเอ็นดูดีเหมือนกัน

เราจะทราบว่าโชว์ใกล้จะจบก็ต่อเมื่อเพลงที่เล่นเป็นเพลงดังสร้างชื่อของศิลปินนั้นๆ Tom Odell เปลี่ยนอารมณ์จากเพลงใหม่ล่าสุด มาที่ซิงเกิลแรกอย่าง “Another Love” ที่แฟนเพลงส่งเสียงกรี๊ดตั้งแต่โน้ตเปียโนตัวแรกเช่นเคย ก่อนจะลุกขึ้นจากเปียโนหลังจากนั่งร้องนั่งเล่นมาตลอดชั่วโมงกว่าๆ กล่าวขอบคุณเสียงดังฟังชัด โบกมือส่งยิ้มให้แฟนๆ ก่อนจะหายตัวเข้าไปหลังเวที ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนเพลงให้ออกมาอังกอร์ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเขาแต่อย่างใด (และทีมงานเปิดเพลงเปิดไฟเป็นสัญญาณว่า “งานจบจริงๆ แล้วนะ” เป็นที่เรียบร้อย)

 

 

 

แม้ว่าจะเป็นโชว์ที่ค่อนข้างสั้นสำหรับคอนเสิร์ตทั่วไปที่มักมาพร้อมลิสต์เพลงเกือบ 20 เพลง แต่กว่า 12 เพลงที่ Tom Odell เป็น one man show เล่นเองร้องเพลงตลอดทั้งงานก็ถือว่าเขาทำได้ดีเกินความคาดหมายไปมากเหมือนกัน และเราแน่ใจว่าผู้ชมในวันนั้นก็มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเพอร์ฟอร์มในแต่ละเพลงของ Tom Odell ไม่แพ้กัน แม้ว่าจะไม่มีการร้องเพลงคลอเสียงดัง หรือ Tom Odell ไม่ได้โยนท่อนเพลงให้ผู้ชมร้องตามเลยสักท่อน รวมถึงหนุ่มขี้อายไม่ได้หันมาสบตากับผู้ชมระหว่างโชว์มากเท่าไร แต่เราเชื่อว่าการแสดงคอนเสิร์ตในครั้งนี้ให้ความ “อิ่มเอมใจ” จากเพลงอินดี้/โฟล์คป็อป และผู้ชมต่างคาดหวังว่าจะได้ฟังเสียง และชมโชว์ดีๆ จากเขามากกว่าจะเข้ามารับการเอนเตอร์เทนหนักๆ เหมือนโชว์อื่นๆ ทั่วไป

สิ่งที่อยากจะขอพูดถึงอีกนิด คือสปิริต และความเป็นมืออาชีพของ Tom Odell เมื่อเราทราบภายหลังว่าเขาต้องขึ้นแสดงแม้ว่าจะมีอาการอาหารเป็นพิษ ทั้งอาเจียนและท้องเสียอย่างหนักก่อนขึ้นโชว์ไม่นาน จนต้องยกเลิกกิจกรรมมีตแอนด์กรี๊ดที่จะต้องเกิดขึ้นก่อนขึ้นเวทีไปอย่างน่าเสียดาย (น้ำที่จิบอยู่ตลอดบนเวทีคือน้ำเกลือแร่!) แต่การเพอร์ฟอร์มของเขายังคงทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีแววเหนื่อยล้าให้เห็นเลย ถือว่า Tom Odell รักษามาตรฐานของตัวเองได้ดี และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองสูงจริงๆ

เสียดายอย่างเดียว… ไม่ทันได้ standing ovation ให้ในตอนจบ เพราะคิดว่าจะมีอังกอร์นี่แหละ… ไว้มาใหม่พร้อมวงเต็มรูปแบบอย่างสัญญากันไว้แล้วกันนะ

____________________

Story : Jurairat N.

Photos : BEC-Tero Entertainment