อบอวลกลิ่นอายความรัก และมิตรภาพไปกับ HONNE ใน Mangosteen Music Festival 2018 | Sanook Music

อบอวลกลิ่นอายความรัก และมิตรภาพไปกับ HONNE ใน Mangosteen Music Festival 2018

อบอวลกลิ่นอายความรัก และมิตรภาพไปกับ HONNE ใน Mangosteen Music Festival 2018
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เทศกาลดนตรีที่รวมเอาศิลปินไทยและต่างประเทศมาเล่นด้วยกันในงานเดียวมีให้เห็นในประเทศไทยไม่บ่อยนัก หรือถ้าจะมีก็เน้นไปทางศิลปินแนวอินดี้เสียมากกว่า ดังนั้นสำหรับ Mangosteen Music Festival 2018 ที่จัดขึ้นปีนี้เป็นปีแรกนั้น จึงได้รับการตอบรับอย่างล้มหลามจากนักฟังเพลงกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมการฟังเพลงแนวอินดี้ที่กระเถิบขึ้นสู่เมนสตรีมได้เป็นอย่างดี ทำให้บัตรเข้างานขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่รอบ early bird ของวันแรก จนต้องมีรอบที่สอง (และบัตรก็หมดอย่างรวดเร็วเช่นเดิม) นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าฐานแฟนเพลงแนวนี้ของบ้านเราก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าแนวเพลงอื่นๆ เช่นกัน

เราขอพูดถึงในส่วนของ Mangosteen Music Festival รอบที่สองที่เรามีโอกาสได้เข้าไปชม คนเนืองแน่นเต็มฮอลล์ GMM Live House อย่างที่คาดการณ์เอาไว้ และส่วนใหญ่แฟนเพลงจะอยู่ในช่วงตั้งแต่มัธยมปลาย มหาวิทยาลัย ไปจนถึงวัยทำงานช่วงแรกๆ และมักนัดกันมาดูเป็นกลุ่ม หรืออาจมากับคู่เดตคู่แฟน ดังนั้นพลังงานในการชมคอนเสิร์ตโดนรวมก็จะเต็มไปด้วยความสนุกสนานมีชีวิตชีวาตั้งแต่ช่วงแรก จนถึงช่วงท้ายของการแสดง เริ่มกันที่วง MEAN ในช่วงเวลาราวๆ 1 ทุ่ม ที่ขนเอาเพลงของฮิตของตัวเองอย่าง “ผู้ชมที่ดี”, “อ่อนแอก็แพ้ไป”, “ตัวแถม”, “หมายความว่าอะไร” และเพลงใหม่ล่าสุดอย่าง “สตรอง” ที่ได้ หญิง พรปวีณ์ มาช่วยร้องให้ และได้รับเชิญขึ้นมาช่วยร้องในคอนเสิร์ตด้วย นอกจากหญิงแล้ว วง MEAN ยังชวนเพื่อนพ้องศิลปินขึ้นมาแจมด้วยอีกมากมาย และยังหยิบเอาเพลงฮิตของศิลปินร่วมค่ายมาร้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “คำถามโง่ๆ” ของบอย โกสิยพงษ์ และ Restart” ของ Room39 การแสดงของ MEAN จึงเป็นการอุ่นเครื่องให้กับงานนี้ได้เป็นอย่างดี

 

mean-sanook

polycat-sanook

 

20.30 น. เป็นคิวของ Polycat (คืนแรกเป็น The TOYS) ที่เปิดตัวด้วยเสียงซินธิไซเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของวง และขนเพลงเพราะมาให้เหล่าวัยรุ่นได้ร้องตามกันอย่างคล่องปาก ไม่ว่าจะเป็น “เพื่อนไม่จริง”, “เพื่อนพระเอก”, “เป็นเพราะฝน”, “พบกันใหม่” และเพลงฮิตที่ทุกคนในฮอลล์ร้องตามกันได้ตั้งแต่ท่อนแรกยันท่อนสุดท้ายอย่าง “มันเป็นใคร” นอกจากนี้ Polycat ยังเพิ่มความพิเศษให้กับโชว์ด้วยการคัฟเวอร์เพลง Dirty Diana” ของ Michael Jackson และ “ฟ้ากับตะวัน” ของ นัท มีเรีย อีกด้วย ที่น่าชมเชยนอกจากในส่วนของดนตรี และการแสดงโดยรวมแล้ว วิชวลด้านหลังแนวดิสโก้ยุค ‘80s ก็ทำได้สวยงาม และกับเพลงได้ดีเช่นเดียวกัน

10.00 น. ได้เวลาไฮไลต์ของงานอย่างวง HONNE ดูโอซินธ์ป็อป-โซลร่วมสมัยสุดละเมียดละมัยขวัญใจวัยรุ่นชาวไทยในขณะนี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างเรียบง่ายด้วยเพลง Forget Me Not” แล้วมิกซ์ดนตรีเข้าสู่ Me & You” ให้แฟนเพลงได้ตะโกนร้องตามกันอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด แต่ในส่วนของดนตรีอาจจะไม่แน่นเหมือนเวอร์ชั่น original เลยทำให้ขาดอรรถรสไปเล็กน้อย

 

honne-1-sanoook

จากนั้นสองหนุ่ม HONNE ก็เริ่มทักทายคนดูด้วยประโยคง่ายๆ แต่จริงใจว่า “ขอบคุณทุกคนที่มาเจอพวกเราในค่ำคืนนี้ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าพวกเราจะสามารถจัดโชว์ที่บัตร sold out ได้สองคืนติด มันสุดยอดมากๆ” และก็เริ่มเอาใจแฟนเพลงด้วยเพลงเก่าสุดหวานอย่าง Coastal Love” และ Good Together” ที่ทำเอาคนที่ไปดูคอนเสิร์ตคนเดียวถึงกับเหงาๆ เพราะบรรยากาศรอบข้างจู่ๆ ก็อบอวลไปด้วยคู่รักวัยรุ่นโอบไหล่จับมือร้องเพลงไปด้วยกันขึ้นมาเสียอย่างนั้น

การจัดเพลย์ลิสต์ตลอดทั้งโชว์มีทั้งช่วงโทนมืด และโทนสว่างอย่างที่เป็นคอนเซ็ปต์ล่าสุดของอัลบั้มใหม่ Love Me ◑ / Love Me Not ที่ทยอยปล่อยเพลงใหม่ครั้งละ 2 เพลงที่มีโทนเพลงสว่าง และมืดมนแตกต่างกัน จากบรรยากาศซึ้งๆ จึงกลับเข้าสู่โหมดอึมครึม (แต่ละเมียดละมัย) กันเล็กน้อยด้วย Location Unknown” และ “I Got You” สองแทร็คใหม่จากอัลบั้มล่าสุด และตัดสลับกับแทร็คเก่าไปเรื่อยๆ ทั้ง 3AM”, “306”, “The Night”, “I Just Wanna Go Back” ก่อนจะค่อยๆ กลับเข้าสู่โหมดสว่างกันอีกครั้งด้วยเพลงรักหวานๆ อย่าง “It Ain’t Wrong Loving You” และเร่งจังหวะให้แฟนๆ ในฮอลล์โยกตัวตามกันอย่างสนุกสนานด้วย “Just Dance”

 

21070

21076

นอกจากดนตรีจะสดใหม่ แน่นและชัดเจนสมใจแฟนๆ แล้ว การใช้เทคนิคเสียงที่ผ่านออโต้จูน เช่นเพลง Sometimes” ก็สร้างความแปลกใหม่ให้กับโชว์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีนักสาวเสียงดีอย่าง BEKA มาช่วยร้องให้ใน No Place Like Home ผลงานจาก Over Me (EP) และ Someone That Loves You” ที่แฟนเพลงกลับมาเฮลั่นพร้อมชูมือถือถ่ายคลิปกันอย่างเนืองแน่นอีกครั้ง และแน่นอนว่าช่วงท้ายของการแสดงก็อัดแน่นไปด้วยแทร็คคุ้นหูทุกคนอย่าง All In The Value” ที่หนุ่ม James Hatcher โซโล่กีตาร์ได้อย่างดุเดือดในช่วงท้าย และ Warm On A Cold Night” และ “Day 1” ที่หนุ่ม Andy Clutterbuck นักร้องนำของวงเรียกให้แฟนเพลงช่วยกันร้องตามจนปิดโชว์ของค่ำคืนนี้ไปด้วยความอบอุ่นของทั้งจากแฟนเพลงที่มาเพื่อชมการแสดงของศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบกันจริงๆ และตัวศิลปินที่พูดขอบคุณแฟนเพลงไม่หยุด และคาดว่าน่าจะประทับใจกับแฟนเพลงของไทยเราไม่แพ้กัน

โดยรวมบรรยากาศของการแสดงสดของ HONNE เป็นไปอย่างราบรื่น แม้ในช่วงเล่นเพลงใหม่อย่าง I Might” กับ “Crying Over You” อาจจะทำให้บรรยากาศดูเงียบเหงาไปสักนิด ยิ่งด้วยการแสดงของ HONNE เน้นที่เพอร์ฟอร์มานซ์มากกว่าการเอนเตอร์เทน จึงทำให้เป็นช่วงเงียบๆ เบื่อๆ อยู่สักครู่ และด้วยความที่หนุ่ม Andy ออกตัวในช่วงของครึ่งโชว์ผ่านมาว่า เสียงของเขาอาจจะไม่ค่อยดีนัก เพราะเขาป่วย เลยทำให้โชว์บางช่วงอาจจะขาดพลังในการเอนเตอร์เทน หรือแอบอู้โดยการยื่นไมโครโฟนให้แฟนเพลงช่วยกันร้องไปบ้าง (รวมไปถึงการที่ไม่มีเพลง Woman” ตามที่พวกเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยเอาไว้ในตอนแรกด้วย) แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับพอรับได้ และถือว่ายังทำได้ดีในแบบที่ยังเป็น HONNE อยู่

 

honne-2-sanook

21067

 

การจัดการของโชว์โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง แสง สี เสียงทำได้ดีในระดับคอนเสิร์ตสากล เพียงแต่ในแง่ของเสียงร้องจากไมโครโฟนของนักร้องนำอาจจะไม่ได้ใสกิ๊ก หรือค่อนข้างไปในทาง “แบน” จึงทำให้ได้อรรถรสในการฟังเพลงลดลงเล็กน้อย แต่ในส่วนของเครื่องดนตรีอื่นๆ ก็ทำได้ดีและมีข้อผิดพลาดน้อย ที่ควรปรับปรุงเห็นจะเป็นการจัดการลำเลียงคนออกจากฮอลล์หลังงานจบที่ยังไม่สามารถดูแลคนจำนวนมากให้ออกจากสถานที่จัดงานพร้อมกันอย่างรวดเร็วได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดของสถานที่ การปล่อยคนออกจากฮอลล์หลายทางหลายประตูพร้อมกัน แต่มีทางออกจากสถานที่จัดงานทางเดียว การจัดการกับแอลกอฮอล์ของผู้ชมในคอนเสิร์ตที่ต้องทิ้งก่อนออกจากสถานที่จัดงาน รวมไปถึงเวลาในการจัดแสดงที่ค่อนข้างดึกเกินไปที่จะจัดอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีเวลาปิดค่อนข้างเร็ว จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากเดินทางออกจากห้าง และเดินทางกลับอย่างยากลำบาก (สำหรับคนที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ) ดังนั้นครั้งหน้าจึงอาจจะต้องประเมินจำนวนผู้ชม และประเมินเวลาในการจัดงานให้ดีกว่านี้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการโมรโมตงานโดยใช้โปสเตอร์ที่มีรูปวง HONNE วงเดียว จึงทำให้แฟนเพลงหลายคนเข้าใจว่าศิลปินไทยไปร่วมงานในฐานะวงเปิด ไม่ใช่การแสดงสดเต็มรูปแบบเป็นชั่วโมงๆ กว่าวงไฮไลต์ของงานจะขึ้นก็ปาเข้าไป 4 ทุ่ม จึงทำให้แฟนเพลงบางกลุ่มไม่พอใจได้ อย่างไรก็ตามเมื่อครั้งแรกก็ได้กระแสตอบรับดีขนาดนี้ ดังนั้นจึงคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการจัดงานในครั้งต่อๆ ไปให้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

HONNE ถือว่าเป็นวงที่ไม่ได้อยู่ในกระแสเมนสตรีม แต่ก็เป็นศิลปินที่มาแรงมากโดยเฉพาะกลุ่มแฟนเพลงรุ่นใหม่ และแฟนเพลงฝั่งเอเชียก็ให้การตอบรับพวกเขาเป็นอย่างดีตั้งแต่อัลบั้มแรก พวกเขาเพิ่งจะมีผลงานอัลบั้มเพียง 2 ชุดเท่านั้น แต่โชว์ในแต่ละที่ของพวกเขาต่างก็ sold out และยังมีจำนวนแฟนเพลงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย ดังนั้นหากจะบอกว่า HONNE เป็นขวัญใจวัยรุ่นยุคใหม่ก็อาจจะพูดได้ไม่ผิด ด้วยเพลงซินธ์ป็อปนุ่มนวลฟังง่าย เนื้อหาที่เกี่ยวกับความรักทั้งในด้านบวก และด้านหม่นหมองที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนจากโทนของเพลง จึงทำให้เพลงของพวกเขาเข้าถึงกลุ่มแฟนเพลงได้ง่ายโดยไม่ต้องการแรงโปรโมตมาก ดังนั้นหาก HONNE ยังคงรักษามาตรฐานในการทำเพลงแบบนี้เอาไว้เรื่อยๆ เชื่อว่าครั้งหน้ามาไทยบัตรก็ sold out อีกรอบแน่นอน

 

___________________

Story : Jurairat N.

Photos : Sanook! Music, Warner Music Thailand

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook