[Interview] “Mattnimare” วงดนตรีอินดี้ที่จะพาคุณดำดิ่งไปกับเสียงเพลงของพวกเขา

ถึงแม้จะเพิ่งฟอร์มวงมาไม่นาน แต่วงดนตรีสี่หนุ่มจากรั้ววิทยาลัย ดุริยางคศิลป์มหิดล อย่าง Mattnimare ก็มาพร้อมผลงานเพลงที่น่าจับตามองมาก เพราะพวกเขาได้ส่งเพลง รอยต่อออกมาและคว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ รางวัลเพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยมจากเวทีสีสันอวอร์ด ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาเลย และวันนี้ทาง Sanook! Music ก็ได้มีโอกาสได้นำบทสัมภาษณ์พิเศษของพวกเขาจาก JOOX มาให้ทุกคนได้ชมกัน 

 

 

วง “Mattnimare” มารวมตัวกันได้ยังไง

ซุง : พวกเราเรียนมาด้วยกัน คณะเดียวกัน เลยมารวมตัวกันตั้งแต่ตอนปี 1 ครับ เลยได้มีโอกาสตั้งวงขึ้นมา

 

“Mattnimare” มีความหมายว่าอะไร

ซุง : คือมันเป็นคำที่ไม่มีความหมาย ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาอะไรเลยครับ มันเป็นกลุ่มคำ สามพยางค์ที่เราเอามารวมกันใหม่ ความชอบที่เรามีต่อคำนี้ก็คือ เวลาเราเสิร์ชมันไม่เจออะไรเลย นอกจาก ชื่อของเรา เพลงของเราครับ แล้วมันเหมือนเป็นภารกิจของพวกเรา ที่จะทำให้คำที่ไม่มีความหมาย มันเป็นคำที่มีความหมายขึ้นมาครับ

แอ๊บ : จริงๆแล้วมันไม่มีความหมายครับ ตอนนั้นตั้งเล่นๆขึ้นมา เป็นแสลงน่ะครับ

 

ซิงเกิลล่าสุด “ความรัก” อยากให้เล่าถึงเอ็มวีของเพลงนี้หน่อยครับ

ซุง : เอ็มวีนี้เราใช้เวลาประมาณ 7 เดือนในการทำเอ็มวีตัวนี้และเพลงนี้ขึ้นมา เพราะเอ็มวีนี้มีการเปลี่ยนพล็อตเรื่อง เปลี่ยนคอนเซ็ปไปหลายครั้งมาก จนมาเจอคอนเซ็ปนี้ครับ

 

กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้างครับ

ซุง : กระแสตอบรับดีครับ ดีกว่าที่คาดเลยครับ

คลิกฟังเพลง ความรัก ได้ที่นี่

 

หลังจากที่ออกเป็นอัลบั้ม EP มาแล้ว มีแผนสำหรับอัลบั้มในอนาคตไหมครับ

แอ๊บ : เพลง ความรัก จริงๆเราวางไว้เป็นเพลงแรกของอัลบั้มที่สองครับ

ซุง : จริงๆตอน อีพีตัวแรกเราไม่คิดว่าจะเป็นอัลบั้มซะทีเดียวครับ แต่ว่าด้วยจำนวนแทร็กและเวลามันเพียงพอที่จะเข้าชิงรางวัลต่างๆในฐานะอัลบั้มเต็มได้ พอมันได้เข้าชิงแล้ว เราเลยคิดว่าเราเรียกมันว่า อีพีไม่ได้แล้ว เราควรเรียกมันว่า อัลบั้ม อะไรแบบนี้ครับ

 

คำนิยามในการทำเพลงของ “Mattnimare”

ซุง : คือผมคิดว่า เราโชคดีที่เราเขียนเพลงออกมาได้ เราสามารถทำอะไรซักอย่างออกมาให้คนฟังได้ ในเมื่อเราโชคดี เราควรใช้โอกาสนี้ในการเล่าสิ่งที่เราเป็น ว่าเราคิดอะไร ดีกว่าที่เราแต่งเรื่องขึ้นมา

 

ศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจของ “Mattnimare”

ว่าน : ผมว่าแต่ละคนก็มีแรงบันดาลใจของตัวเอง แต่พอมาทำเพลง มาถึงจุดๆหนึ่ง มันไม่ใช่ฟังวงนั้นชอบแล้วเอามาใส่ เมื่อก่อนช่วงแรกๆก็อาจจะมีครับ แต่หลังๆแต่ละคนมีลักษณะของตัวเอง มีอิทธิพลที่ถูกสร้างเป็นของตัวเอง

แอ๊บ : แต่ก่อนก็เคยตอบคำถามนี้ แต่พอต่อๆมาก็เริ่มตอบยากขึ้นครับ

ซุง : ผมมองว่าการที่มีศิลปินเป็นไอดอล มันก็ควรจะมีในตอนตั้งวง เพื่อให้รู้ว่าแต่ละคนชอบอะไร แต่ตอนนี้เราเหมือนเป็นซามูไรที่เรียนทุกตำรา แล้วลืมให้หมด แล้วออกไปสู้ด้วยจิตใต้สำนึก ด้วยสัญชาตญาณครับ

 

ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับศิลปินไทย อยากร่วมงานกับใครครับ

บาบูน : ศิลปินที่อยากร่วมงานคือศิลปินที่เป็นตำนาน แต่ถ้าจริงๆผมอยากร่วมงานกับศิลปินลูกทุ่งนะ อย่าง พี่พี สะเดิด ที่เขามีทางของเขาชัดเจน ผมว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่กับวงเรา ดูไม่เลี่ยน น่าจะสนุกครับ

ว่าน : พี่ เช่ The Richman Toy ครับ ถ้าได้ร่วมงานในฐานะศิลปินด้วยกันก็น่าจะเป็นการคุยที่แตกต่างครับดีครับ

ซุง : อยากร่วมงานกับอาจารย์ สุกรี เขาเป็นผอ.ของมหาวิทยาลัยเราด้วย ตอนเรียนผมก็คิดว่า เขาดุ อะไรงี้ พอเรียนจบมา ผมรู้สึกว่าเขาคือศิลปินครับ ในการสร้างมหาวิทยาลัยเรามา สิ่งปลูกสร้างต่างๆทุกอย่าง เขาดูเป็นศิลปินอะครับ เขาเป็นศิลปินที่มาทำให้เด็กมีความศิลปินในตัวเองครับ

แอ๊บ : ใครก็ได้ที่เราไม่รู้จัก เช่น เด็กวิศวะ อะไรแบบนี้ครับ ที่ไม่เคยเล่นดนตรี ไม่รู้จักดนตรีเลย

ซุง : อ๋อ อย่างเช่น เรามีคอนเสิร์ต เขาอาจจะเอาความที่เป็นวิศวะของเขานั่นแหละ มาทำเวที

แอ๊บ : ถ้าสมมติเราทำงานกับคนที่ไม่รู้อะไรเลย เราก็เอาไอเดียของเขามาช่วยตรงนี้ อย่างพี่ดี้ นิติพงษ์ ก็เป็นวิศวะ เค้าก็จะมองเพลงเป็นวิศวะ มีรากฐาน มีเสา อะไรแบบนี้ครับ

 

 

นอกจากทำวงเล่นดนตรีแล้ว แต่ละคนมีทำธุรกิจเป็นของตัวเองหรือเปล่าครับ

ว่าน : ผมทำโรงแรมครับ เป็นธุรกิจของที่บ้าน อยู่ที่เขาใหญ่ Mirasierra Khaoyai ครับ

บาบูน : ผมถ่ายรูปครับ ถ่ายรูปคอนเสิร์ตทั่วไปครับ

ซุง : ผมทำเพลงโฆษณา เพลงเบื้องหลัง แล้วก็เป็นนักแสดงอิสระด้วยครับ

แอ๊บ : กำลังจะเปิดสตูดิโอเกี่ยวกับดนตรีนี่แหละครับ

 

เราจะได้ฟังเพลงรักที่เป็นด้านสว่างต่างจากเพลงก่อนๆบ้างไหมครับ

ซุง : ผมว่ามีสิทธิ์นะครับ ช่วงชีวิตมวลรวมของคนในวงเริ่มจะสว่างมากขึ้นแล้วครับ ถ้าจะเขียนเพลงดาร์คก็อาจจะดูหลอกตัวเองไปหน่อย แต่ก็ยังไม่สัญญาน่ะครับ แต่ใจผมเองก็อยากแต่งเพลงทางบวกเหมือนกันครับ

ว่าน : ช่วงที่แต่ละคนกำลังดาร์คมาก เราก็ไม่จำเป็นจะต้องแสดงเวลาอยู่บนเวที เพราะความคิด ความรู้สึกตอนนั้นมันเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมเริ่มสนุกขึ้นแล้ว แต่ยังต้องเล่นเพลงดาร์ค บางทีก็ต้องนั่งขุดความรู้สึกดาร์คๆมาครับ

 

สุดท้าย อยากให้ฝากผลงานกับชาว JOOX หน่อยครับ

ว่าน : ใครที่ยังไม่ได้ดูเอ็มวี “ความรัก” มาดูกันครับ ให้คุณซุงเขาพาคุณเข้าห้องผ่าตัดดู มาชำแหละว่าความรักมันเป็นยังไง

ซุง : จริงๆเพลง “ความรัก” เป็นเพลงที่สำคัญกับวงเรามาก ตอนที่เราทำเพลงนี้ขึ้นมา เพลงนี้ทำให้พวกเราได้มาจับเข่าคุยครั้งใหญ่ของวงเรา มันเป็นความสำคัญของวงๆหนึ่งที่อินดี้มาก ค่อยๆสื่อสารออกมา อยากให้ไปดูครับ (ยิ้ม)

 

 

สำหรับใครที่อยากฟังผลงานเพลงของวง Mattnimare สามารถฟังเพลงของพวกเขาทั้งหมดได้ที่ JOOX และ Sanook! Music เลยครับ ซึ่งหลังจากนี้เราจะนำผลงานเพลงเจ๋งๆของเขามาอัพเดทให้แฟนๆได้ชมกันแน่นอน 

สัมภาษณ์โดย ธนพล ประดิษฐ์กนก 

Story : Ellie L.