“ใหญ่ อาทิตย์” แทคทีม “แมว-อิง” แต่งเพลงเพื่อพ่อ “ใครว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง” | Sanook Music

“ใหญ่ อาทิตย์” แทคทีม “แมว-อิง” แต่งเพลงเพื่อพ่อ “ใครว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง”

“ใหญ่ อาทิตย์” แทคทีม “แมว-อิง” แต่งเพลงเพื่อพ่อ “ใครว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรียกว่าเป็นการรวมตัวของคนดนตรีที่มีใจเป็นหนึ่ง ผุดโปรเจคทำเพลงเพื่อพ่อ นำทีมโดยนักแต่งเพลงรุ่นเก๋า ใหญ่ อาทิตย์ งานนี้ได้นักร้องคุณภาพอย่าง แมว จีรศักดิ์ และ อิง อชิตะ มาร่วมถ่ายทอดด้วย ที่มาที่ไปของโปรเจคนี้เป็นอย่างไรบ้าง ไปคุยกับพวกเค้ากัน

จุดเริ่มต้นของการทำเพลงนี้คือ คิดว่าอยากมีเพลงเพื่อพ่อสักเพลง และในฐานะที่เราทำงานตรงนี้จึงอยากทำ ตั้งแต่ท่านไม่อยู่พี่ก็จะเขียนกลอนอยู่แล้ว ซึ่งกลอนที่เขียนจะมีใจความว่า "ใครว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริง" เมื่อทุกสิ่งที่พ่อทำตอกย้ำว่า ตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ปาฏิหาริย์มีจริงยิ่งกว่าจริง เลยปรึกษาโปรดิวเซอร์ และทุกคนก็ชอบไอเดียนี้ เลยได้ส่งต่อพี่วินในการทำทำนองซัพพอร์ทกลอน และเติมเมโลดี้อื่นๆที่มันขาดไปให้มันเป็นเพลง

บทเพลงมีที่มาอย่างไร ?

บอกตรงๆ ตามเนื้อหาเลยว่าชื่อเพลง “ใครว่าปาฏิหาริย์ ไม่มีจริง” หลายคนมักจะชอบพูดว่า ในที่สุดปาฏิหาริย์ไม่มีจริง เพราะตอนนั้นทุกคนยังหลัง ปาฏิหาริย์ แต่จริงๆ เรามีปาฏิหาริย์มา 70 กว่าปีแล้ว ตลอดที่ท่านคลองแผ่นดินอยู่ เลยน่ำตรงนี้มาเป็นตัวตั้งต้นของเพลง ความรวมของเพลงนี้ก็เหมือนว่า ที่เราเกิดมาบนแผ่นดินนี้ มีพ่อชื่อ ภูมิพล พวกเราโชคดีที่สุดในโลกแล้ว ก็เหมือนปาฏิหาริย์ แล้วที่มีพ่อแบบนี้ และพวกเราก็จะมุ่งทำสิ่งที่พ่อทำมา เพื่อหวังว่าจะได้เป็นข้ารองบาทไปตลอดทุกชาติ

ศิลปินที่มาร่วมร้องมีใครบ้าง ?

มีพี่แมว จีรศักดิ์ มีพี่อิง อชิตะ พี่แซค และก็พี่วิน (คนแต่งทำนอง) ร้องด้วย เพราะเค้าเองก็เป็นศิลปินด้วย และก็มีศิลปินใหม่ค่ายเบเกอรี่อีก 2 คน เราเลือกเพราะเรานึกถึงความสะดวกในการทำงานด้วยกันมากกว่า และมีรูปแบบในการทำงานที่ไปในทางเดียวกัน ในเรื่องของ MV เรากำลังทำอยู่ ความตั้งใจแรก เราอยากจะเผยแพร่ในวันที่ 13 พ.ย. แต่บังเอิญว่าคงไม่ทันแล้วเพราะยังไม่เรียบร้อยดี คาดว่าหน้าจะได้ชมกันเร็วๆนี้ จะได้เผยแพร่ทาง Youtubeและสื่อโซเชียลต่างๆ รวมถึงวิทยุ ทีวีด้วย พวกเราทุกคนทำกันเต็มที่ ด้วยความรู้สึกอย่างเดียวกันคือรักพ่อ รักเพลง และเราก็รักกัน


ด้าน อิง อชิตะ เปิดใจว่า .....ทันทีที่ติดต่อมาก็รับเลย ถือว่าเป็นการให้เกียรติ์ ถ้าเกิดว่าโอกาสดีๆมาหล่นที่เรา ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว เอาจริงๆก็อยากจะขอเค้าร้องอยู่แล้วนะ (ไม่ได้ร้องพลงนานต้องปัดฝุ่นใหม่มั้ย) ต้องดูดฝุ่นยกใหญ่เลยครับ (คำสอนของพ่อที่นำมาใช้) จริงๆคำสอนของพ่อ อยู่รอบตัวเราสำหรับผมเกิดมาชาตินึงก็คงทำได้ไม่หมด ถ้าจะให้ยกว่าต้นแบบที่จะให้เราดำเนินรอยตาม นอกจากพ่อแม่แล้ว ก็มีท่านนี่แหละที่เราจะสามารถดำเนินรอยตามได้ ไม่ว่าจะทำตามท่านเสต็ปไหนก็แล้วแต่ ฟังคำพระราชดำหริอันไหนก็แล้วแต่มันใช้ได้จริง ที่เราได้ยินกันบ่อยๆมันก็ควรนำกลับไปใช้บ้าง เราอาจจะไม่สามารถทำได้ทุกข้อแต่ทำแต่ส่วนนึงผมว่าชีวิตก็จะมีความสุข ปลอดภัยมั่นคง

เคยมีโอกาสได้ถวายงาน หรือเข้าเฝ้าบ้างมั้ย?

เคยครับ เป็นงานพระราชทานเพลิงศพของคุณปู่ ท่านเสด็จมา ตอนนั้นปลื้มมากครับ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหนือใคร แต่จริงๆแล้วทุกคนก็มีในหลวงในหัวใจของทุกคนแหละครับ ผมโชคดีที่ได้เกิดในรัชสมัยชของท่าน แต่ก็รู้สึกโชคร้ายนิดๆที่จะต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ซึ่งมันก็เป็นสัจธรรม ภูมิใจที่เกิดป็นคนไทย ถ้าเลือกได้ก็ขอเปิดเป็นคนไทย อยู่ในแผ่นดินไทย ไม่คิดจะย้ายไปอยู่ที่ไหน

ด้าน แมว จีรศักดิ์ เปิดใจว่า .....ยินดีร้องเลยครับ สิ่งนึงที่เราทำได้ดีที่สุดคือการเล่นดนตรี และร้องเพลง เราควรทำสิง่ที่ดีที่สุดเพื่อพ่อของเรา โอกาสนี้เป็นเกียริต์มากๆ ที่ได้ร่วมโปรเจคนี้ ใครที่มีส่วนร่วมในงานนี้ แม้ว่าจะอยู่เบื้องหลังเค้าภูมิใจมากๆที่ได้ทำ แม้ว่าจะไม่มีใครรับรู้ (คำสอนของพ่อที่นำมาใช้) ผมมองชีวิจการทำงานของในหลวง ผมสรุปรวมเรื่องนึงคือท่านบำเพ็ญบารมีครบทั้ง 10 ข้อ เรามองย้อนกลับมาว่าเราเองจะทำได้อย่างท่านมั้ย ท่านเปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์สำหรับผม ส่วนที่ทำให้คนไทยทุกคนภูมิใจที่สุดคือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจโลกถึงทางตัน ระบบทุนนิยมเริ่มไม่ได้คำตอบที่ดีงาม ของโลกแล้ว ปรากฏว่าโลกทั้งโลกหันมามองแนวพระราชดำหริของพระองค์ ถึงขั้นดำไปปรับใช้ มั่นคง

เคยมีโอกาสได้ถวายงาน หรือเข้าเฝ้าบ้างมั้ย?

เคยตอนที่อายุ 19 ผมเล่นดนตรีแจส กับพี่ต๋อง เทวัญ ทรัพย์แสนยากร และได้มีโอกาสเล่นดนตรีถวายงาน เป็นงานเลี้ยงส่วนพระองค์ เลี้ยงแขกบ้านแขกเมือง ตอนนั้นเกร็งมาก กลัวมาก กลัวเล่นผิด พอเพลงสุดท้าย พี่ต๋องเล่นเพลง ชะตาชีวิต งานเข้าเลยยครับ ในหลวงท่านทรงขึ้นมาทรงแซ็กด้วย ท่านขอขึ้นมาร่วมเล่นด้วย ตอนนั้นความสุขมันมีนะครับ แต่ความกลัว ขาสั่น มือเย็น ผมได้แต่นั่งจับกีต้าร์ เล่นเป็นธุลีเล็กๆอยู่ซอกมุมหนึ่งบนเวทีเท่านั้น ไม่กล้าจะหันหน้าขึ้นไปมองว่าใครกำลังเป่าแซ็ก ที่ประทับใจคือท่านรับสั่งว่า คีย์อะไรบอกด้วย ถ้าเล่นผิดก็อย่าถือสาเรานะ เราไม่ได้เล่นนานแล้ว จำจนถึงทุกวันนี้ และที่จำมากกว่านั้นคือ ไม่ได้กลับบ้านเอง ท่านรับสั่งให้คนมาส่งจนถึงบ้าน ท่านดูแลทุกคนอย่างดีที่สุด ภูมิใจที่มุดในชีวิตที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย พ่อยังอยู่กับเราเสมอ ชาติหน้าหรือชาติต่อไป ผมก็ขอเป็นข้ารองบาทตลอดไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook