ลาบานูน! เปิดใจถึงการกลับมาที่สำเร็จ เข้าไปสู่ใจคนทั้งประเทศอีกครั้ง | Sanook Music

ลาบานูน! เปิดใจถึงการกลับมาที่สำเร็จ เข้าไปสู่ใจคนทั้งประเทศอีกครั้ง

ลาบานูน! เปิดใจถึงการกลับมาที่สำเร็จ เข้าไปสู่ใจคนทั้งประเทศอีกครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าพูดถึงวงร็อกที่หายไปนาน แต่ก็กลับมาประสบความสำเร็จได้ หลายคนๆ ต้องนึกถึงชื่อวง ลาบานูน เพราะถึงแม้จะพักงานไปนาน จนดูเหมือนพวกเขาเลือกที่จะเดินในเส้นทางใหม่กันไปแล้ว เพราะต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับด้านดนตรีอีกเลย! ซึ่งช่วงที่หายไปถึง 8 ปี นักร้องนำและมือกีต้าร์อย่างคุณเมธีก็ได้ไปเป็นอาจารย์และทำงานในส่วนราชการ ส่วนคุณอนันต์ มือเบสก็ได้ไปทำงานประจำที่บริษัทไอทีแห่งหนึ่ง และคุณสมพรมือกลอง ก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับวง กะลา

ทำให้การกลับมาครั้งนี้ คุณเมธีและอนันต์จึงชวนรุ่นน้องอย่างคุณสมเมย์มาร่วมงานกับวงอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาของพวกเขากับค่าย Genie Records นั้น ก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างถล่มถลาย เพราะในอัลบั้ม N.E.W.S ของพวกเขานั้น มีเพลงฮิตหลักร้อยล้านวิวถึงสามเพลง และได้รับคำชมมากมาย และในวันนี้วงลาบานูนก็ได้มาเยี่ยมออฟฟิศ Sanook! Music และเล่าถึงความสำเร็จที่มาพร้อมเบื้องหลังที่หลายคนไม่ค่อยทราบ

 

 

คลิกชมคลิปการสัมภาษณ์ของวงลาบานูนได้ที่นี่

 

ก่อนหน้านี้วงลาบานูนหายไปนาน ทำไมทางวงถึงตัดสินใจกลับมาทำเพลงอีกครั้ง 

เมธี ลาบานูน : ก็หายไปนาน มันมีความคิดถึงครับ อยากจะทำสิ่งที่เราเป็นอีกครั้ง เลยกลับมาเพื่อดูว่าเพื่อนๆยังจำเราได้ไหม 

 

ในตอนนั้นที่หายไป คือพักวงการเพลงไปเลยใช่ไหม 

เมธี ลาบานูน : พักไปเลยครับ ไม่ได้เเตะไม่ได้ร้องเลย ต้องฝึกและจูนใหม่ ทั้งกีต้าร์และการร้อง คือเสียงร้องหายไปเลย วีธีการเล่นกีต้าร์ก็จำไม่ได้

 

ตอนที่ทางวงกลับมาทำผลงานอีกครั้ง เราเตรียมตัวอย่างไรบ้าง 

เมธี ลาบานูน : ตอนนั้นก็เคาะสนิม ก็ซ้อมด้วยกันหนักมาก อยู่ด้วยกันสามคน ทำอะไรด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน เหมือนเข้าค่าย คืออยู่บ้านเดียวกัน คือหายไป 8-9 ปี มันนานมาก ก็เลยต้องใช้เวลา และเป็นการทดสอบน้องมือกลองด้วย เพื่อให้น้องเขารู้ว่าการใช้ชีวิตแบบลาบานูนเป็นอย่างไร อย่างพวกเราชอบเตะบอล น้องไม่ได้เตะ ก็ต้องไปเล่นด้วย 

 

เมธี (ร้องนำ/กีต้าร์) 

ใช้เวลานานไหมในการปรับจูนกัน กว่าจะมาออกผลงานอีกครั้ง 

เมธี ลาบานูน : หลายเดือนอยู่ครับ พอเราจูนเสร็จก็เขียนเรื่องราว ว่าแต่ละคนเจออะไรบ้าง อย่างเมย์ หรือ อนันต์ เจออะไรก็แชร์ไอเดียกัน จนมาเป็นอัลบั้ม N.E.W.S 

 

ช่วงที่หายไปนาน เวลากลับมาจะมีความประหม่าบ้างตอนกลับมาออกผลงาน สมาชิกวงลาบานูนรู้สึกอย่างไรกับความประหม่าที่เจอ

อนันต์ ลาบานูน : ก็ตื่นเต้นครับ แต่จริงๆพวกเราเวลาที่ออกอัลบั้มติดๆกันก็มีความประหม่าเหมือนกัน เพราะเจอแฟนเพลงใหม่ๆ สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เสมอ 

เมธี ลาบานูน : สำหรับผม ตอนเราทำงานในห้องอัดคือเราสนุกกับมัน  เลยไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายหรือประหม่าอะไรเวลาทำงานเพลง คือคิดว่าค่ายเขาให้โอกาส เราก็ดีใจแล้ว สำหรับผมคิดว่าแค่ค่ายให้เราทำผลงานเพลงใหม่ พ.ศนี้ ก็ถือว่าดีมากแล้ว

 

ทางวงลาบานูน มาร่วมงานกับค่าย Genie Records ได้อย่างไร 

เมธี ลาบานูน : ช่วงที่กำลังจะกลับมา พี่กบ บิ๊กแอส และ พี่ตูน บอดี้แสลม ก็มาชวนให้มาอยู่ด้วยกัน อย่างพี่กบและพี่อ๊อฟก็เคยทำงานต่ออยู่มิวสิคบั๊คส์ ตอนแรกพวกเราคิดว่าจะเป็นศิลปินอิสระ แต่สองคนมาชวนว่ามาอยู่ด้วยกันดีกว่า แบบที่เคยเป็นเมื่อ 18 ปีที่เเล้ว วันที่ไป จีนี่ ครั้งแรกนี่ พี่กบพี่อ๊อฟเหมือนพาเราไปมอบตัวเป็นนักเรียนใหม่เลย ก็ขอบคุณจีนี่มากๆเลยครับ

 

อนันต์ (เบส) 

เพลง เชือกวิเศษ เป็นผลงานที่แจ้งเกิดพวกเราอีกครั้ง ตอนนั้นเคยคิดไหมว่าเพลงของวงจะดังขนาดนี้ 

เมธี ลาบานูน : ไม่เลยครับ ตอนนั้นเราปล่อยเพลง ศึกษานารี และ พลังงานจน ที่เป็นเพลงเร็ว ทำใ้หซิงเกิ้ลที่สามไม่อยากปล่อยเพลงช้าอย่างเพลง เชือกวิเศษ เลย ก็ไปบอกทีมงานว่าไม่อยากปล่อยเพลงเชือกวิเศษ เพราะคิดว่าเพลงเร็วอย่างน้อยมันยังสนุกเวลาเราไปเล่น แต่พี่กบบอกว่าปล่อยเพลงช้าเถอะ ไม่ต้องคิดมาก พอทีมงานให้ปล่อยเราก็เลยปล่อย ก็ขอยกเครดิตให้ผู้กำกับเอ็มวี ค่ายจีนี่ และน้องตัง สารัช กับน้องอรดีกว่า พวกเราคือแค่ทำเพลงจากความรู้สึก เราก็ดีใจที่เพลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของเพื่อนๆทุกคน

 

ตอนที่แต่งเพลงนี้ขึ้นมา มีแรงบันดาลใจมากจากอะไร ทำไมถึงเลือกใช้ชื่อ "เชือกวิเศษ" 

เมธี ลาบานูน : ตอนนั้นคิดถึงคนที่จากไปครับ เพราะเจอสิ่งที่ดีกว่า แบบอยู่กับเราแล้วชีวิตไม่ดีขึ้น คือแบบเขาอยากจะไปเราก็รั้งไม่ได้ คือถึงมีเชือกวิเศษก็ทำอะไรไม่ได้ เป็นเรื่องจริงของคนที่ไม่รักกันแล้ว คนที่เจ็บก็ต้องคิดว่า อย่างน้อยก็เคยรักกัน ตอนแรกเพลงนี้มีชื่อว่า อยู่ไม่สุข คืออารมณ์แบบอยู่แล้วไม่มีความสุข ในเนื้อเพลงก็มีคำว่าเชือกวิเศษ ตอนที่ผมร้องคำนี้ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่าง เลยบอกพี่กบว่าขอเปลี่ยนชื่อเพลงได้ไหมเป็น เชือกวิเศษ มันเป็นอะไรที่วิเศษและรั้งคนที่รักกันไม่ได้ และมันพูดถึงการเสียสละด้วย

 

หลังจากที่ทางวงประสบความสำเร็จ ก็มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์กับต้นสังกัดเก่าด้วย ในฐานะนักแต่งเพลงเรารู้สึกอย่างไร 

เมธี ลาบานูน : บางครั้งก็เสียใจเหมือนกันครับ คือพวกเราทำเพลงก็ไม่คิดอะไร แต่เวลามีข่าวก็ปวดใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น คือวันหนึ่งเพลงที่เราแต่ง แต่เราร้องไม่ได้เพราะมีเรื่องฟ้องร้อง แถมเป็นคนรู้จักกัน เคยทำงานด้วยกัน พอมีเรื่องผลประโยชน์แบบนี้เป็นเสียที่เรา มันเป็นเรื่องของธุรกิจเราก็ต้องสู้ต่อไป ว่ากันไปตามกติกา 

 

สมเมย์ (กลอง) 

ผลงานใหม่ล่าสุดอย่างเพลง นักดับเพลิง มีเนื้อหาพูดถึงอะไร 

อนันต์ ลาบานูน : เวลาคนพูดถึงลาบานูน ก็จะนึกถึงเพลง ยาม, 191 ซึ่งเราห่างหายไปนานจากการทำเพลงเนื้อหาแบบนี้ ก็เลยกลับมาอีกครั้งกับเพลง พนักงานดับเพลิง ครับ 

 

ตอนเปิดตัวเพลงนี้ ทำไมถึงเล่นมุกการเปลี่ยนนักร้องนำ

สมเมย์ ลาบานูน : มันเป็นกลยุทธ์ของทางค่ายครับ

เมธี ลาบานูน : เพลงนี้เป็นเพลงสนุก คือแบบเราคงไม่บอกให้นักดับเพลิงไปดับไฟรักใครหรอก และคือได้พี่ ตั๊ก บริบูรณ์ มาเล่นเอ็มวี ซึ่งพี่เขาเป็นคนที่หล่อและฮา เลยให้มุกว่าเขาเป็นคนร้องเพลงนี้ ให้ใส่เต็มไปเลย เป็นตัวแทนของผม ตอนแรกที่ปล่อยทีเซอร์ก็มีดราม่าว่า ถ้าไม่ใช่เมธีจะไม่ฟังลาบานูนแล้ว บางคนก็คิดว่าอาจจะเป็นพี่อนันต์มาร้อง เพราะรูปเงาในทีเซอร์มันคล้ายพี่อนันต์ ก็คือแป๊ปเดียวเราก็เฉลยละว่าเป็นกิมมิกสนุกๆ

 

 

ทำไมทางวงถึงเลือกคุณ แนท อนิพรณ์ มารับบทนางเอกมิวสิควีดีโอเพลงนี้ 

สมเมย์ ลาบานูน : ด้วยอะไรหลายๆอย่าง คือน้องแน็ทมีความสดใส เซ็กซี่ และสวยด้วย 

เมธี ลาบานูน : พี่ตั๊กในเอ็มวีคิดว่าตัวเองหล่อ เลยหาผู้หญิงสวยๆมาเล่นเอ็มวีเลยเอาระดับ มิสยูนิเวิร์ส มาเลย ตอนแรกพี่ตั๊กก็จะมีเล่นตัวนิดนึง

 

กระแสตอบรับเพลงนี้ เป็นอย่างไรบ้าง

เมธี ลาบานูน : เพลงนี้ปล่อยออกมาวันแรกก็มียอดวิว แปดแสนวิว ซึ่งเพลงเร็วส่วนมากยอดวิวจะไม่พุ่งแบบนี้ แต่เราก็ดีใจว่าวันแรกได้เยอะแบบนี้ หลายคนฟังเพลงนี้ก็นึกถึงเพลงเก่าๆ แบบ 191 บางคนก็ถามว่าเพลงต่อไป จะเป็นอาชีพอะไร 

 

ในอนาคตทางวง จะนำเรื่องราวอาชีพมาใส่ในเพลงอีกไหม 

อนันต์ ลาบานูน : ก็มีดูๆ ไว้ครับ ขึ้นเครื่องบินก็คิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับแอร์ ไปโรงพยาบาลก็นึกถึงพยาบาล ก็คิดไปเรื่อยๆครับ 

 

 

ล่าสุดทางวงได้ปล่อยอัลบั้มเต็มออกมา ทำไมถึงใช้ชื่ออัลบั้มว่า N.E.W.S. ที่เป็นตัวย่อของทิศต่างๆ 

สมเมย์ ลาบานูน : อัลบั้มนี้พวกเราคิดว่า คนมักมองว่าเราเป็นวงดนตรีภาคใต้ แต่จริงๆแล้วดนตรีพาเราไปทุกภาค เหนือ ใต้ ออก ตก เลยเอาคำนี้มาเล่นครับ 

เมธี ลาบานูน : พวกเรานั่งประชุมกัน คือคิดว่าพวกเรามีเพื่อนทุกทิศ ไม่ได้มีแค่ภาคใต้ ความเป็นลาบานูนทำให้เราได้รู้จักกัน เลยชอบชื่อนี้ และในอัลบั้มมีเพลง เหนือ ใต้ ออก ตก ด้วย ที่พูดถึงว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน พวกเราก็จะรักกัน เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน

 

ในยุคนี้การมีอัลบั้มเรื่องยาก รู้สึกอย่างไรที่เรามีอัลบั้มเต็มในที่สุด

เมธี ลาบานูน : ดีใจมากครับ เห็นปกตัวเองวางขายคือตื้นตันใจมาก ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ทำอัลบั้ม ตอนคุยกับจีนี่คิดว่าจะมีแค่สามซิงเกิ้ลและมีมินิอัลบั้ม แต่พอไปคุยก็ได้ทำอัลบั้มเต็มเลย และอัลบั้มชุดนี้อัดมาตั้งแต่ปี 2557 ตอนที่เราอัดไม่คิดว่าเพลงจะดังแบบนี้ แต่จีนี่ก็ให้ทำอัลบั้มเต็ม เหมือนตอนปี 41 ที่เราทำอัลบั้มเอง ซีดีเดี๋ยวเป็นของสะสม เพราะเวลาฟังเพลงคนก็อาจเข้า JOOX หรือดูใน YouTube เอา และในอนาคตซีดีนี้จะมีมูลค่ามาก ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้จะได้ทำอัลบั้มแบบนี้อีกหรือเปล่า และอัลบั้มนี้ค่ายจีนี่ก็เปิดโอกาสให้พวกเราไปใช้ห้องอัดที่ดี และมีฝรั่งมามิกซ์เสียงให้ ตอนไปทำ Mastering ก็ทำที่นิวยอร์ก กับคนที่งานให้วง Metallica ซาวด์ที่ทำก็จะต่างจากชุดที่ผ่านมา

 

สมาชิกแต่ละคน ชอบเพลงไหนจากอัลบั้มนี้กันบ้าง

สมเมย์ ลาบานูน : ผมชอบเพลงเร็วครับ ชื่อเพลงว่า ตายดาบหน้า มันคือความรู้สึกตอนจะออกเพลง เพราะเราไม่รู้ว่าจะดังไหม แต่คือเราพร้อมจะลุยครับ 

อนันต์ ลาบานูน : ชอบเพลง ใจกลางเมือง ครับ เพลงนี้พูดถึงคนที่อยู่ไกลบ้าน คือเรามาอยู่ในเมืองคนเป็นล้าน แต่ใจอยู่ที่บ้าน และผมฟังเพลงนี้ก็คิดถึงแม่ด้วย แต่แม่ไม่อยู่แล้ว 

เมธี ลาบานูน : อยากให้ทุกคนฟังเพลง พลัดพราก ครับ เป็นเพลงที่ผมตั้งใจเขียนให้ทุกคนฟังครับ

 

 

การทำงานในยุคเทปซีดี และ ยุคดิจิตอล ต่างกันไหม สำหรับวงลาบานูน

เมธี ลาบานูน : ต่างมากครับ จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก คือยุคนี้เพลงทำง่าย มีเทคโนโลยีเยอะ คือสมัยนี้ร้องเพี้ยนก็แก้และปล่อยได้แล้ว แต่สมัยก่อนร้องผิดก็ต้องร้องอัดใหม่หมด สมัยก่อนเวลาทำก็เป็นอัลบั้ม ค่าใช้จ่ายก็สูง แต่เดี๋ยวนี้ทำซิงเกิ้ลก็ปล่อยไฟล์เลย มันทั้งง่ายและยาก คือสมัยทำเพลงง่ายแต่ผลงานจะไม่ดังนานเหมือนสมัยก่อน 

 

วงลาบานูนเอง มักจะใช้โซเชี่ยลมีเดียในการคุยกับแฟนเพลง คิดว่าโซเชี่ยลมีผลกระทบกับการทำงานไหม

อนันต์ ลาบานูน : ไม่นะครับ คือมันไม่กระทบการทำงาน แต่มันทำให้พวกเราเจอกับแฟนๆง่ายขึ้น สมัยก่อนแฟนเพลงเวลาไปเจอต้องใช้วิธีดักเจอ 

เมธี ลาบานูน : สมัยก่อนเวลาคุยกันต้องใช้จดหมาย ต้องตอบกัน แต่พอมีเฟสบุ๊คก็คุยกันง่ายขึ้น

 

ในฐานะที่เป็นวงดนตรีรุ่นพี่ มีคำแนะนำอะไรให้ศิลปินรุ่นน้องที่อยากเป็นเหมือนวงลาบานูนบ้าง

สมเมย์ ลาบานูน : ฝากน้องๆว่า ถึงจะไม่ได้เล่นดนตรี ก็อยากให้ตั้งใจกับสิ่งที่เรารัก และซื่อสัตย์กับมันครับ 

เมธี ลาบานูน : ตอนแรกผมเองอยากเป็น ปลัด แต่มาเป็นนักดนตรี คือไม่สำคัญว่าทำอะไร แต่ขอให้ตั้งใจในสิ่งที่เราทำ และมีความสุขกับมันครับ 

 

 

ถึงแม้ว่าวงลาบานูนจะหายไปนาน แต่ความตั้งใจในผลงานชุดใหม่ ก็ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอีกครั้งอย่างสวยงาม ซึ่งแฟนๆลาบานูนสามารถติดตามข่าวคราวของวงลาบานูนได้จากเฟสบุ๊คของวง และ เว็บไซต์ Sanook! Music ได้เช่นกันครับ 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ ลาบานูน! เปิดใจถึงการกลับมาที่สำเร็จ เข้าไปสู่ใจคนทั้งประเทศอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook