"แจ็ค BlackJack" จากบอยแบนด์ สู่ศิลปินเดี่ยวสุดโดดเด่น! | Sanook Music

"แจ็ค BlackJack" จากบอยแบนด์ สู่ศิลปินเดี่ยวสุดโดดเด่น!

"แจ็ค BlackJack" จากบอยแบนด์ สู่ศิลปินเดี่ยวสุดโดดเด่น!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การที่ศิลปินวัยรุ่นคนหนึ่งจะสามารถมีผลงานได้ยาวนานนั้น จัดว่าเป็นเรื่องที่ยากมากในยุคปัจจุบัน เพราะโลกโซเชี่ยลและการแข่งขันทำให้ศิลปินหลายคนต้องออกจากวงการ เพราะไม่สามารถหาจุดเด่นหรือมีความสามารถไม่มากพอ แต่วันนี้ Sanook! Music ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ศิลปินวัยรุ่นคนหนึ่งที่แจ้งเกิดในวงการเมื่อ 9 ปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงมีผลงานออกมาเรื่อยๆ ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ แจ็ค จารุพงษ์ หรือ แจ็ค แบล็คเเจ็ค นั่นเอง และวันนี้ทางเราก็มีโอกาสได้คุยถึงเรื่องราวในอดีต และผลงานใหม่ของเขาที่เจ้าตัวตั้งใจทำสุดๆ 

มีช่วงหนึ่งที่แจ็คได้พักจากวงการเพลง อยากถามว่าตอนนั้นแจ็คไปทำอะไร 

ผมหายจากวงการเพลงไปสองปี ก็พักเบรคไปทำธุรกิจที่บ้านหนึ่งปี และช่วงทำเพลง บุคคลสาบสูญ ตอนนั้นใช้เวลาอีกหนึ่งปีในการเตรียมงาน  

เพลง ภาพติดตา ต่างจากเพลง บุคคลสาบสูญ เมื่อปีที่แล้วอย่างไรบ้าง

ทั้งสองเพลงจะมีความเหมือนทางดนตรี ตรงที่ทั้งสองเพลงจะมีดนตรีจีนมาผสม แต่เพลงภาพติดตาจะเพิ่มเปียโน และดนตรีตะวันตกเข้ามาบ้าง โดยเพลง ภาพติดตา จะพูดถึงการเห็นภาพเดิมๆ เสียงเดิมๆ ที่ไม่เปลี่ยนแปลง เลยพอขึ้นโครงและเพลง

เอ็มวีหนังสั้นเพลงนี้มีคนชื่นชมเยอะมาก  ทำไมถึงทำออกมาเป็นแนวแอคชั่นแบบนี้

คือเราเปลี่ยนเรื่องใหม่เลยจากเอ็มวีคนสาบสูญ แต่เราไม่อยากให้คนเดาทางได้ เลยเปลี่ยนใหม่หมดเลย อย่างในเอ็มวี บุคคลสาบสูญ ก็จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับมาเฟียฮ่องกง แต่ในเอ็มวีตัวนี้ก็จะเป็นตำรวจสากล ที่ไม่มีเวลาให้คนรักก็จะทะเลาะกัน และในเรื่องก็จะมีผู้ร้ายที่เล่นโดยทีเจ ก็จะหนีออกมาและตามมาล้างแค้นเรา เลยเกิดเป็นดราม่าของ พระเอกนางเอก และผู้ร้าย 

ทำไมถึงเลือก ทีเจ และ กวางมาแสดงในเอ็มวีเพลง "ภาพติดตา" 

เริ่มที่ผู้ร้ายก่อน คือเราวางลุคว่าตัวร้ายต้องโฉด ดูติสต์และเข้าถึงยาก เลยมองว่าทีเจเหมาะมาก และน้องไม่เคยรับบทด้านแนวแอ็คชั่นฟันดาบ พอโทรไปน้องเขาก็โอเค ได้ร่วมงานกัน และบทนางเอกก็เหมาะกับน้องกวางด้วยเพราะน้องเขามีความเป็นผู้หญิงในตัวสูงแต่ก็มีความกล้าที่จะบอกเลิกผู้ชาย เอ็มวีเพลงนี้ก็ใช้เวลาเกือบวันนึงเลย 6 โมงเช้าถึง ตีสี่อีกวันหนึ่งเลย 

แล้วเเจ็คมีส่วนร่วมกับเพลงนี้อย่างไรบ้าง 

ก็ตั้งแต่แรกเลย เพราะเพลง บุคคลสาบสูญจบไปเขาก็เรียกมาคุยเรื่องเพลงใหม่เลย ก็เลยบอกว่าอยากได้บัลลาดมีจังหวะ มีเปียโนนำ และเนื้อหาที่คิดขึ้นมาก็พูดถึงเรื่องความติดตา การได้ยินเสียง และพอวางโครงเพลงเสร็จก็เห็นความพริ้วของดนตรีทั้งเปียโนและดนตรีจีน เลยทำให้เปลี่ยนลุคทรงผมให้ยาขึ้นให้ชุดดูยาวขึ้นด้วย 

ในฐานะที่เราเขาวงการมาก่อนยุค Social Media คิดว่าโลกโซเชี่ยลมีผลกับการทำงานเราหรือเปล่า

ก็สมัยนั้นเราจะวัดผลด้วยชาร์ทวิทยุ สมัยนั้นไม่มี YouTube, Facebook ก็ต้องไปพบปะเเฟนเพลง ไป School Tour เจอสื่อวิทยุ แต่ในยุคนี้ผลงานก็สามารถโปรโมทบนโซเชี่ยลได้ เลยทำให้ศิลปินหน้าใหม่แจ้งเกิดได้มาก แต่ผมมองว่ามันดีนะ เพราะมันพิสูจน์ได้ว่าศิลปินที่ออกผลงานนั้นมีคุณภาพหรือไม่ และมันทำให้เราเข้าถึงแฟนเพลงได้ง่ายขึ้นด้วย 

ตัวแจ็คเองเคยทำผลงานในรูปแบบอัลบั้มมาก่อน จนปัจจุบันมาเป็นซิงเกิ้ล ชอบการทำงานแบบไหนมากกว่ากัน  

ตอนแรกเคยทำอัลบั้ม 10 เพลง และมาเป็นอัลบั้มละหกเพลง จนเหลือทีละซิงเกิ้ล การทำงานคือต่างกันเยอะ เพราะถ้าเป็นอัลบั้มมันจะมีลุคของมัน คือเราจะติดกับลุคนี้เป็นปี ชุดคอนเซ็ปจะมีชุดเดียวและต้องใส่ทั้งปี คือบางทีก็อยากเปลี่ยน คือในแง่ดีคนจะจดจำเราได้ดี แต่คือศิลปินอาจจะเบื่อ แต่ถ้าทำเป็นซิงเกิ้ลเวลาเปลี่ยนเพลงก็จะได้ทำอะไรใหม่ๆเสมอ 

หลังจากที่อยู่ในวงการเพลงมา 9 ปี มีอะไรที่เเจ็ค อยากแชร์ให้เด็กรุ่นใหม่ที่อยากมาศิลปินบ้างไหม 

ผมมองว่า หลายๆคนมีความฝันว่าอยากเป็นศิลปิน และอาจจะมองว่ามันราบรื่น คิดว่าพอเป็นศิลปินแล้วต้องดัง คือ 9 ปีที่ผ่านมาต้องคิดตลอดว่าจะทำอะไรออกมา เพราะในวงการมันไม่สวยงามแบบนี้ มันมีอะไรหลายอย่างที่คนนอกวงการไม่มีใครรู้ครับ 

คลิกชมมิวสิควีดีโอเพลง ภาพติดตา - BlackJack 

เรียกได้ว่านอกจากจะมีความสามารถแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้แจ็คประสบความสำเร็จแบบนี้ ก็คือการที่เขาสามารถปรับตัวเองและมีการวางแผนเสมอ ซึ่งแฟนๆสามารถชมผลงานเพลง ภาพติดตา ได้ใน YouTube และติดตามผลงานและข่าวของแจ็คได้ที่ Sanook! Music เช่นกันครับ 

Story : LEGENDARYPEPPER

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook