5 วัยรุ่นนางสู้ในละคร ความเปลี่ยนแปลงรอไม่ได้ โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

5 วัยรุ่นนางสู้ในละคร ความเปลี่ยนแปลงรอไม่ได้ โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

5 วัยรุ่นนางสู้ในละคร ความเปลี่ยนแปลงรอไม่ได้ โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าจะเลยครบรอบหนึ่งปีของกะเทยนิวส์ที่เขียนบทความร่วมกับ Sanook มาได้ไม่นาน แต่กระแสการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่ ก็กลับมาครุกรุ่นในช่วงนี้ ในสายตาของกะเทยนิวส์เองผ่านเลนส์ของละคร มันมีหลายตัวละครอยู่นะคะคุณกิตติ ที่เป็นตัวละครแห่งการต่อต้านสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อตัวของเขา และจะสู้ เพื่อให้ได้มาซึ่งการเปลี่ยนแปลง

วันนี้เทยเลยขอมาไล่ตัวละครคนรุ่นใหม่ ที่จะขอท้าทายระบอบเก่าๆ ให้มันหายไปซะที

 

ศราวณี - คู่กรรม 2

หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่า คู่กรรม มีภาคต่อ และเคยผลิตเป็นละครโทรทัศน์ทางช่องสาม เมื่อปี 2547 โดยเป็นเหตุการณ์ในช่วงบั้นปลายชีวิตของ อังศุมาลิน โดยเล่าผ่านมุมมองตัวละคร โยอิชิ ลูกชายของ โกโบริ ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นเหตุการณ์ในช่วงการเรียกร้องประชาธิปไตยในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516

ตัวละครที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ของเรื่อง ก็คือ “ศราวณี” ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของบ้านอังศุมาลิน เนื่องจากที่บ้านของเธอเต็มไปด้วยความแค้นต่อครอบครัวอังศุมาลินมาก จึงใช้ ศราวณี เป็นเครื่องมือในการทำให้บ้านนี้เจ็บปวด แต่ ศราวณี ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น เธอจึงอุทิศตัวให้กับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ในที่ที่ทำให้เธอมีตัวตนมากกว่า ซึ่งเรื่องราวในช่วงเวลาดังกล่าว ศนท. หรือศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เป็นหลักในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องการต่อต้านการใช้สินค้าญี่ปุ่น การโจมตีนักการเมืองและนายทหารระดับสูงที่เข้าไปล่าสัตว์ ณ ทุ่งใหญ่นเรศวร และต่อยอดไปสู่การเป็นแกนนำในมวลชนเรียกร้องประชาธิปไตยในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม นั่นเอง

ประโยคเด็ดเผ็ดแสบของ ศราวณี มีมากมาย อย่างเช่น การเชื่อว่ากระแสแบบนี้ ไม่ใช่จะมาง่ายๆ และไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีอีกหรือเปล่า หรือแม้แต่ฉากการเดินแจกใบปลิวเพื่อเรียกร้องให้รัฐธรรมนูญ มาจากประชาชนเท่านั้น แม้ โยอิชิ และ อังศุมาลิน จะทัดทาน แต่เธอก็ยืนกรานที่จะทำเพื่อมันมาถึงจุดที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว

 

วิน - ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 1

ซีรีส์ที่นับเป็นปรากฎการณ์สำคัญของวงการเราเลยอย่าง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น นี่ก็ตบหน้าระบบการศึกษา และระบบในโรงเรียนเอาหน้าชาไปมากเลยนะคะคุณกิตติขา อย่างตัวละคร “วิน” ที่เปิดมา EP.1 ของซีซั่น 1 ฮีก็เริ่มตั้งคำถามกับการใส่ชุดนักเรียนมาเรียนของโรงเรียนนาดาวเลยเช่นกัน

การประกาศชวนให้นักเรียนนาดาวทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องของ วิน ออกมาร่วมกันลองใส่ชุดไปรเวทนั้น ทำให้นักเรียนในนาดาวแบ่งออกเป็นสามฝ่าย ทั้งกลุ่มที่เห็นด้วย กับกลุ่มที่เห็นด้วย แต่ยังไม่อยากจะขัดง้างกฎในตอนนั้น กับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และนั่นทำให้โรงเรียนนาดาวในวันนั้น ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง โดยเฉพาะฉากในห้องประชุม ที่เกิดการถกเถียงกันระหว่างอาจารย์และนักเรียนในประเด็นเดียวแค่ว่า ทำไมเราถึงจะใส่ชุดปกติมาโรงเรียนไม่ได้

ใครจะคิดว่าหลังจากซีรีส์จบไปหลายปี เหตุการณ์ถกเถียงเรื่องการใส่ชุดนักเรียนไปโรงเรียนนั้น จะเริ่มมีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง และเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์เสียด้วย ซึ่งมาจนถึงตอนนี้ ความเปลี่ยนแปลงในประเด็นนี้ ก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยคนรุ่นใหม่ที่เหมือนวินอีกมากมายหลายคน

 

บอส - ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 3

แม้ว่าในฮอร์โมน มีหลายตัวละครที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ระบบ สังคม เพศ ในตอนต่างๆ มาหลายซีซั่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวละครที่ส่งผลต่อคนทั้งโรงเรียนนั้น มันมีอยู่ไม่กี่คนจริงๆ นะเออ แล้ว ต้าวบอส ก็ทำสิ่งที่เป็นการเขย่าระบบอีกครั้งในฮอร์โมนซีซั่นสาม แถมเป็นประเด็นที่หนักแน่นกว่าพี่วินเสียอีก นั่นคือลงชิงตำแหน่งประธานนักเรียน พร้อมนโยบายที่หนักแน่น และตั้งใจที่จะมาเปลี่ยนแปลงสังคมในโรงเรียนให้ดีขึ้น

เหตุการณ์ที่น่าสนใจของ “บอส” คือการพยายามนำเสนอตัวเองบนความหนักแน่น ตรงไปตรงมาและไม่ประนีประนอม สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้นักเรียนในนาดาวรักฮีมากมายนัก เพราะมองว่าการอยู่กับ บอส แล้ว ช่างเป็นไอ้ต้าวผู้เต็มไปด้วยความอึดอัดเสียนี่กะไร พรรคของบอส จึงถูกไฮแจ็คด้วยการให้ บอส ลงไปทำนโยบายแทน และให้ นน ที่ดูจะประนีประนอมมากกว่า พูดจาเอาใจเพื่อนๆ ได้ดีกว่า ซึ่งทางพรรคของบอส เชื่อว่าวิธีการนี้จะนำชัยชนะของการเลือกตั้งมาได้มากกว่า

ความน่าวงวารของไอ้ต้าวบอส ก็คือการโดนไฮแจ็คจนออกจากพรรคไปเลย เพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกับเพื่อน ซึ่งนั่นทำให้ บอส กลายเป็นคนไม่ไว้ใจใครในโรงเรียนอีก เพราะเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงในโรงเรียน คงไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่ ถ้าทุกๆ คนยังทำตัวแบบนี้ ซึ่งก็เหมือนบอสพูดอะไรไว้ก็ไม่มีผิด การประนีประนอมของนน นอกจากจะทำให้นโยบายของทางพรรคไม่สำเร็จดังพูดแล้ว การใจอ่อนของเขาต่อทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่าย ก็นำมาสู่ความล่มสลายของงานกีฬาสี ทั้งๆ ที่เขาเป็น “คนจิตใจดี” แต่ในเมื่อมันไร้ซึ่งประสิทธิภาพในการบริหาร มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ อ่ะนะเธอ

 

เวกัส - เลือดข้นคนจาง

ท่ามกลางการตามหาว่า “ใครฆ่าประเสริฐ” การปกป้องครอบครัว แม่อั๊วแม่ลื้อ ของสองลูกพี่ลูกน้องพีทกับอี้ ที่ควานหาตัวฆาตรกรอย่างเอาเป็นเอาตาย ตัวละครนึงที่เหมือนจะไม่สำคัญ แต่ก็พยายามตั้งคำถามกับความผิดปกติในบ้านตลอดเวลา ก็คือ “เวกัส”

ตั้งแต่ EP.1 ที่ เวกัส ตั้งป้อมใส่ครอบครัวตัวเองกลางโต๊ะอาหาร เมื่อป๊าของเขาเอ่ยปากขอรถใหม่ซักคันจากกงสีครอบครัว เพื่อให้ เวกัส ไว้ขับไปเรียน โดยอ้างว่ารถคันเก่ามันก็หลายปีแล้ว แต่ เวกัส ที่เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้อง ก็พูดโพล่งขึ้นมาอย่างโนสนโนแคร์ ว่าไม่เอาป๊า มันยังไม่ได้จำเป็นตอนนี้ และท่ามกลางการตามหาความจริง เวกัสเป็นตัวละครที่ตามหาหลักฐานอย่างที่ควรจะเป็น ไม่เล่นนอกเกม คอยสอดส่องดูความผิดปกติรอบบ้าน เสพย์ข่าวอย่างมีสติ และเป็นคนเดียวที่ตามหาสิ่งที่หายไปเจอ “กล้องวงจรปิด”

แม้ว่าในภายหลัง เวกัสจำเป็นจะต้องลดความเถรตรงของตัวเองลง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของครอบครัวไว้ แต่การเดินตามกติกาของเขา ก็กลายเป็นชนวนสำคัญของเรื่อง ที่นำไปสู่การแก้ปัญหาได้ดีเลยทีเดียวนะเออ 

 

มีน / มายด์ - Who Are You เธอคนนั้นคือฉันอีกคน

ละครที่รีเมคต้นฉบับมาจากซีรีส์เกาหลีในชื่อเดียวกัน กลาวถึงเรื่องราวของเด็กผู้หญิงในรั้วโรงเรียนที่ต้องต่อสู้กับการบูลลี่จากเพื่อนๆ ครอบครัวที่โดนกดทับจากปัญหาต่างๆ ซึ่งพอซื้อลิขสิทธิ์มาเป็นบริบทของไทย ก็ทำให้เห็นปัญหาต่างๆ ที่ไม่ต่างอะไรจากระบบสังคมของเกาหลีมากนัก

“มายด์” เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยในจังหวัดปราจีนบุรี ที่โรงเรียนมายด์ไม่มีเพื่อนเลยสักคน มิหนำซ้ำยังถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนในโรงเรียน นำโดย "ธิดา" ลูกสาวผู้มีอิทธิพล มายด์ถูกธิดาและพวกกลั่นแกล้งอย่างรุนแรงและเกินกว่าเหตุนับครั้งไม่ถ้วน จนสุดท้ายมายด์จึงตัดสินใจจบชีวิตของเธอโดยการฆ่าตัวตาย แต่ความลับข้อหนึ่งที่มายไม่เคยล่วงรู้มาก่อนนั่นคือ เธอมีพี่สาวฝาแฝด ที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกันชื่อว่า “มีน”

มีนเป็นเด็กกำพร้าเช่นเดียวกับมายด์แต่โชคดีที่เธอได้รับอุปการะโดย "ขวัญ" มีนได้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขเท่าที่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งควรจะมี แต่วันหนึ่งระหว่างที่มีนได้ไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆ ของเธอที่จังหวัดปราจีนบุรี มีนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย การหายตัวไปครั้งนั้นของมีนเป็นวันเดียวกันกับที่มายด์ตัดสินใจฆ่าตัวตาย มายด์รอดชีวิตกลับมาได้ แต่เธอกลับสูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป ขวัญและเพื่อนในห้องที่มาพบมายด์จึงเข้าใจไปว่า มายด์คือมีน และตัวของมายด์เองก็เข้าใจเหมือนดั่งทุกคนว่าเธอคือมีน

การเอาคืนของมีน เป็นการเขย่าระบบโครงสร้างผู้มีอิทธิพล ที่ไม่ได้จบแค่ธิดา แต่กำลังลามไปถึงเครือข่ายผู้ปกครองที่สอดแทรกอยู่ในโรงเรียน การบูลลี่ที่ขยายวงไปจนถึงการบริหารงานที่ไม่เป็นธรรมในโรงเรียน การละเลยของครูและลูกศิษย์ การเลือกที่รัก มักที่ชัง แต่มีน ก็ไม่ยอมท้อถอย และใช้พลังใจเท่าที่เธอ ในการงัดกับเรื่องที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้ให้ได้ แม้จะต้องสู้เพียงลำพังก็ตาม

 

5 นักสู้รุ่นใหม่เหล่านี้ นางแรง นางฟาด ใช้พลังงานไปเยอะ กับการห้ำหั่นกับระบบระบอบที่ไม่เป็นธรรมในสังคม วัฒนธรรม และประเทศของเรานะคะ แม้ว่าหลายๆ คนจะพูดว่าเนี่ยนะ ละครไทย ไม่ค่อยมีแก่นสาร ไม่ขับเคลื่อนสังคม แต่ก็ว่าไม่ได้ มีคอนเทนต์อีกหลายตัว ที่สอดแทรกประเด็นที่เราคิดไม่ถึงว่า คนรุ่นใหม่ในวัยเรียน จะกล้าลุกขึ้นมาทำอะไรๆ ให้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้

เทยเองเห็นตัวละครมีไฟจากหน้าสื่อแบบนี้แล้ว ในเมื่อเราอินออกอรรถรสไปกับซีรีส์เรื่องดีแบบนี้ได้ การยืนหยัดเคียงข้างวัยรุ่นในโลกแห่งความจริงที่กำลังลุกขึ้นมาทำบางอย่างเพื่อการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นอะไรที่เราควรจะทำเหมือนกันนะเออ

 

เหยี่ยวเทย รายงาน

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ 5 วัยรุ่นนางสู้ในละคร ความเปลี่ยนแปลงรอไม่ได้ โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook