ไขความลับ (อดีตเม่า)ปรมาจารย์ผู้บุกเบิกการลงทุนแนว VI

ในสมัยก่อนหน้านั้น อ.นิเวศน์ ก็เคยซื้อขายหุ้นแบบนักลงทุน(แบบไม่เต็มตัว) แมงเม่าทั่วไป เวลาซื้อขายดูตามข่าวสาร วิเคราะห์หุ้นทั่วไปภาพรวมของตลาด เทรดมีได้มีขาดทุนแบบแมงเม่าทั่วไป

จุดพลิกผัน มาเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่า ?

อ.นิเวศน์ เริ่มลงทุนแนว VI ตั้งแต่ปี 2539 ในช่วงนั้นระบบเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างมาก
ในภาวะวิกฤต เริ่มเกิดขึ้น มีสัญญาณมาตั้งแต่ก่อนปี 40 แล้ว อ. นิเวศน์เคยทำงานอยู่ในแวดวงของสถาบันการเงินมา จึงเล็งเห็นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่า สถาบันการเงินเกิดภาวะเงินหมด ประชาชนเริ่มถอนเงินออกไปกันมาก
แม้ว่าทั้งภาครัฐและเอกชนได้พยายามกอบกู้สถานการณ์ แต่ไม่สามารถประคองสถาบันการเงินได้ต่อไป จนเกิดเป็นวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 ขึ้นมาในที่สุด

อย่างไรก็ตาม อ.นิเวศน์ ได้เห็นโอกาสในการลงทุน "เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส" มองว่าราคาหุ้นได้ปรับลดลงมาเยอะ และมองว่ากิจการยังสามารถดำเนินไปต่อได้ เป็นที่มาของการลงทุนแนว VI

ช่วงนั้นไม่มีคนรู้จักแนว VI แล้วทำไมถึงลงทุนแนว VI?

อ.นิเวศน์ มองว่าแนวคิดหลักการของ VI นั้นถูกต้อง ทั้งวิธีการลงทุนและมีความเสี่ยงต่ำในการลงทุน

ให้คิดว่า...นี้คือการลงทุนในหุ้น ให้เป็นการลงทุนเหมือนซื้อธุรกิจในตลาดหุ้น ทั้งที่ อ.นิเวศน์ ก็รู้ว่า ซื้อหุ้นไปตอนนั้นก็ไม่สามารถขายได้ เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายต่ำ ตลาดหุ้นช่วงนั้นขาดสภาพคล่องอย่างมาก

อีกทั้ง อ.นิเวศน์ ได้นำเงินไปลงทุนด้วยเงินก้อนที่ไม่ได้มากนัก แต่กลับได้สัดส่วนหุ้นที่มีจำนวนมาก เพราะว่าราคาหุ้นที่ถูก มองไปว่าแม้จะมีวิกฤต แต่หุ้นก็ยังสามารถจ่ายปันผล แล้วนำเงินมาใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไปได้

นอกจากนั้น อ.นิเวศน์ ยังค่อยข้างมั่นใจว่า VI จะเป็นกระแสใหม่ในช่วงนั้น เนื่องจากประวัติศาสตร์โลกที่เกิดขึ้นได้พิสูจน์มาแล้วในต่างประเทศ

ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ?

VI เป็นกระแสสำคัญ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ประสบความสำเร็จ

อ. นิเวศน์ กล่าวไว้ว่า "เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องของแนวคิด ทัศนคติการลงทุน" มักจะฝืนธรรมชาติของนักลงทุน เช่น ทำไมคนถึงไม่กินอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารชีวจิต เพราะในยีนของคนชอบกินของอร่อยๆ ทนไม่ไหว !
จะมีเพียงแค่คนบางกลุ่มที่ทนไหวกินอาหารสุขภาพได้ แล้วจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีแข็งแรง เปรียบเทียบเช่นเดียวกับนักลงทุนหากฝืนความรู้สึกบางอย่างได้ มีความอดทนต่อเหตุการณ์ข่าวสารได้ที่ส่งผลกระทบในระยะสั้น ก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จ

แนวทางในการลงทุน หัวใจของ VI ?

อ.นิเวศน์ ตอบว่า จริงๆ แล้ว VI มีหลากหลายรูปแบบ แต่ในรูปแบบของ อ.นิเวศน์ เป็นไป ดังนี้
- ลงทุนระยะยาว เน้นที่ตัวธุรกิจ ดูพื้นฐานธุรกิจ มีความสามารถในการแข่งขัน คู่แข่งต่อสู้ได้ยาก
หลักการสำคัญ คือ "ถ้านักลงทุนจะรวย ก็เป็นเพราะบริษัทที่ไปลงทุนมีความเจริญรุ่งเรือง"
ทั้งนี้ทั้งนั้น การลงทุน VI ก็เป็นวัฎจักรได้เช่นกัน ไม่มีใครรู้ได้ มีความไม่แน่นอนสูง แต่ อ.นิเวศน์ ต้องการความแน่นอน

ดังนั้น นักลงทุนต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายได้ว่า... กิจการจะดีไปได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า และสามารถเติบโตได้พอสมควร
ในระหว่างทางการลงทุน ต้องไม่หวั่นไหวกับข่าวสารที่มากระทบราคาหุ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ
นอกจากนั้น อ.นิเวศน์ บอกหุ้นของตนเองส่วนใหญ่แล้ว มักถืออย่างน้อย 10 ปี ถ้าธุรกิจยังดีอยู่ ไม่มีเหตุอะไรที่ต้องขาย

ณ ปัจจุบัน การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นอย่างไร?
หุ้นในปัจจัุบันยังมีพื้นฐานดี แต่ในนาทีนี้แล้ว ราคาหุ้นค่อนข้างจะแพงไปหลายเท่าแล้ว
โดยที่ อ.นิเวศน์ เริ่มลงทุนในช่วงเกิดวิกฤต กล่าวคือ เข้าตลาดหุ้น จากดัชนี 800 จุด ลงไปถึง 200 จุด จนมาถึงช่วงระยะหลัง ๆ นี้ ดัชนี SET ใกล้จะถึง 1600 จุดไปแล้ว !

หรือว่า...นาทีนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับจะเป็นวีไอ ถือระยะยาวก็ได้
เนื่องจากการเป็น VI ที่ดีนั้น ไม่ได้แค่ดูที่กิจการหรือธุรกิจดีเท่านั้น แต่ต้องซื้อตอนในราคาที่เหมาะสมอีกด้วย
หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ นักลงทุนไปหาตลาดหุ้นในต่างประเทศได้



อนาคตหุ้นเมกะเทรนด์ของมุมมองอ.นิเวศน์?

ในไทยระบบเศรษฐกิจจะมาอิงกับผู้บริโภครายย่อยมากขึ้น เช่น หุ้นค้าปลีก คนธรรมดาจะมีส่วนมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจที่สังคมเริ่มรวยขึ้น การบริโภคมากขึ้นๆ
แตกต่างกับอดีตที่ประสบความสำเร็จ เช่น การส่งออก (เมื่อมาเทียบการส่งออก ณ ปัจจุบัน ติดลบไปแล้ว)

หัวใจของ VI แบบสมบูรณ์เป็นอย่างไร?

- เน้นที่ตัวกิจการ ไม่สนใจหุ้นหรือตลาดหุ้น เน้นลงทุนในธุรกิจที่มั่นใจว่าจะเติบโตได้ดี
- การเล่นหุ้นโอกาสสำเร็จน้อย แต่การลงทุนเป็นนักลงทุนต้องลงทุนเปรียบให้เหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีๆ แน่นอนว่าถ้าเป็นเจ้าของกิจการที่ดีแล้วจะทำให้นักลงทุนมั่งคั่งไปได้ แต่ต้องรอได้ในระยะยาว
อย่าไปสัมผัสกับความโลภที่เกิดขึ้นทุกวันในตลาดหุ้น มีสติความอดทน สุดท้ายนักลงทุนจะประสบความสำเร็จได้เอง

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : เม่าปีกเหล็ก ตอน เม่าปรมาจารย์สุดยอดการลงทุนแนว VI (ออกอากาศ 6-10-57 ทางกรุงเทพธุรกิจทีวี)

บทความจาก stock2morrow เขียนสรุปโดย : Freedom VI