"เทสโก้" ขายที่ดินล้างหนี้ โละ "ไซซ์ใหญ่" หลังนักช็อปแห่ซื้ออีคอมเมิร์ซ

"ซีรีส์" ของการออกมาเฉือนเนื้อตัวเอง เพื่อพลิกฟื้นยอดขายและผลกำไรหลังจากประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักของ "เทสโก้" เริ่มเห็นชัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวล่าสุดคือการที่ "เทสโก้" ได้ขายที่ดินสำหรับเตรียมก่อสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวนถึง 14 โครงการในอังกฤษ ให้กับกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นจำนวนเงินกว่า 250 ล้านปอนด์ เพื่อนำมาปลดภาระหนี้สิน และลดการขยายสาขาที่มีความซ้ำซ้อนกันบางพื้นที่

รายงานจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า บริษัท "เมเยอร์ เบิร์กแมน" บริษัทลงทุนและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ เป็นผู้ซื้อที่ดินดังกล่าวซึ่งกระจายอยู่ทั่วลอนดอน ไปจนถึงพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงใต้ และพื้นที่ในเมืองบาธ

ซึ่งนอกจากที่ดินเปล่าที่เทสโก้กำลังวางโครงการก่อสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตยังมีที่ดินจำนวน 4 โครงการที่ถูกก่อสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตไปบ้างแล้ว

"เทสโก้" ระบุว่า เจ้าของพื้นที่เหล่านี้คือบริษัท "สเปนฮิลล์" ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเทสโก้ มีความเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวเหมาะสำหรับการนำไปพัฒนาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ซึ่งจะสามารถรองรับได้ถึงกว่า 3,000 ครัวเรือน

ขณะที่แหล่งข่าวในวงการค้าปลีกเชื่อว่า ที่ดินที่เทสโก้มีแผนจะพัฒนาอีก 49 โครงการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็อาจนำมาเทขายเพื่อก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยอีกหลายพันครัวเรือน

"เดฟ ลูอิส" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสโก้ กล่าวถึงดีลนี้ว่า จะช่วยนำมาซึ่งการลงทุนสำคัญ ๆ ให้กับชุมชนท้องถิ่นต่อไปในอนาคต รวมถึงโอกาสสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย ซึ่งบริษัทกำลังทำงานร่วมกับทางเมเยอร์ เบิร์กแมน และเทศบาลท้องถิ่น เพื่อส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

เชนซูเปอร์มาร์เก็ตจากอังกฤษรายนี้ ยังต้องเผชิญกับพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ที่หันมาช็อปปิ้งออนไลน์ หรือในร้านสะดวกซื้อกันมากขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับเทรนด์การออกไปซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ นอกเมืองอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทยังมีที่ดินอีกจำนวนมากที่วางแผนไว้เพื่อพัฒนาเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อธุรกิจของเทสโก้หนักขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะจำนวนพื้นที่ที่เทสโก้ครอบครองและรอการพัฒนาอยู่นั้นมีอยู่อีกจำนวนมาก

แม้ว่าการนำพื้นที่โครงการที่มีความซ้ำซ้อนมาก่อสร้างที่อยู่อาศัยจะเป็นหนทางหนึ่งที่มีศักยภาพ แต่นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซกส์ ชี้ว่า เทสโก้ได้ประเมินมูลค่าของที่ดินในงบดุลสูงเป็นเท่าตัว จากมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับเมื่อแปรเป็นที่อยู่อาศัยเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ด้านของคู่แข่งอย่าง "เจ เซนส์บูรี่" เชนสโตร์ค้าปลีกรายใหญ่ในอังกฤษก็มองหาการนำที่ดินในไพรมโลเกชั่นที่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะสาขาที่มีพื้นที่จอดรถขนาดใหญ่ในลอนดอน หรือในโซนตะวันออกเฉียงใต้ มาปรับปรุงเพื่อทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน

แผนการโปรเจ็กต์ปรับปรุงพื้นที่ของ "เจ เซนส์บูรี่" ในครั้งนี้ ได้แก่ ไนน์ เอล์ม, เซาท์ลอนดอน และฟูลแฮม รวมถึงพื้นที่อีกกว่า 10 โครงการที่อาจจะนำมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยได้ เช่น ไวต์ชาเพล และแลดโบรก โกรฟ ในลอนดอนตะวันตก

ซึ่งโครงการดังกล่าวอาจทำให้เจ เซนส์บูรี่มีผลกำไรในช่วง 2 ปีข้างหน้าถึง 150 ล้านปอนด์ แต่สำหรับเทสโก้ การขายพื้นที่โครงการที่จะนำไปก่อสร้างซูเปอร์มาร์เก็ตใหม่ ๆ นั้น เป็นไปเพื่อลดภาระหนี้สิน ทำให้งบดุลกลับมามีความเข้มแข็งอีกครั้ง

ต้นเดือนที่ผ่านมา "เทสโก้" ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมีหนี้สิน และรายการเทียบเท่าหนี้สิน รวม 17.7 พันล้านปอนด์ในปัจจุบัน ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะมีมูลค่าต่ำกว่า 1 พันล้านปอนด์ในปีนี้

ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เทสโก้ยังได้ขายธุรกิจ "โฮมพลัส" ในเกาหลีไปด้วยมูลค่าดีล 4.2 พันล้านปอนด์ รวมถึงการออกมาเร่ประมูลหน่วยธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง "ดันฮัมบี้" ในเวลาต่อมา แต่ต้องล้มเลิกไปเนื่องจากราคาที่เสนอซื้อนั้นต่ำกว่าที่บริษัทคาดการณ์เอาไว้