ปชช.จี้ตั้งคกก.อิสระสอบปมน้ำมันรั่วระยอง
น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ในฐานะตัวแทนกลุ่มติดตามน้ำมัน ปตท. รั่ว กล่าวในงาน
เสวนา หัวข้อ "คำถามที่ ปตท.ต้องตอบ...ก่อนที่ความจริงจะหายไปพร้อมกับคราบน้ำมัน" ว่า ที่ผ่านมา ทาง
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอ้างว่าได้ดำเนินการ
แก้ไขปัญหาตามมาตรฐาน จากกรณีน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเล จ.ระยอง แต่ภาคประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในข้อมูล
และการดำเนินงาน เนื่องจาก คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ (กปน.) รวมถึง คณะกรรมการตรวจสอบที่ตั้งขึ้น โดย PTTGC และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่มีองค์ประกอบของผู้เชี่ยวชาญอิสระและภาคประชาชน และไม่มีการเปิดเผยกระบวนการและรายงานการตรวจสอบต่อสาธารณะ ดังนั้น กลุ่มติดตามน้ำมัน ปตท.รั่ว ซึ่งติดตามปัญหามาตั้งแต่ต้น ได้เรียกร้องต่อรัฐบาล ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีประชาชนร่วมลงรายชื่อแล้ว กว่า 30,000 คน ในการสนับสนุนข้อเรียกร้อง ให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปัญหาน้ำมันรั่ว ซึ่งทางกลุ่มจะดำเนินการยื่นข้อเรียกร้องพร้อมรายชื่อผู้สนับสนุนต่อนายกรัฐมนตรี ในวันอังคาร ที่ 27 สิงหาคมนี้
นักวิชาการ เชื่อ น้ำมันรั่วลงทะเลจะเกิดซ้ำ
นายธรรมศักดิ์ ยีมิน ผู้เชี่ยวชาญนิเวศวิทยาแนวปะการัง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า กรณีเหตุน้ำมันรั่ว 50,000 ลิตร และมีการใช้สารเคมี กว่า 30,000 กว่าลิตร ถือเป็นปริมาณที่สูง ส่งผลต่อระบบนิเวศของน้ำทะเล โดยทาง ปตท. จะระบุว่าไม่เป็นอันตรายคงไม่ได้ เพราะสารเคมีเหล่านี้เมื่อใช้เกินปริมาณที่กำหนด ย่อมต้องระมัดระวังอยู่แล้ว ตนจึงอยากเสนอให้ ปตท. เปิดเผยข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อยุติปัญหา ความสับสน คลุมเครือ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว เชื่อว่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้น ต้องวางแผนเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาระยะยาว อีกทั้งปัจจุบัน ไทยยังไม่มีเจ้าภาพในการแก้ปัญหาที่ชัดเจน แม้จะมีผู้รับผิดชอบ คือ ปตท. จึงจำเป็นที่ต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ
ประมง อัด ปตท. ยังไม่เยียวยาเหตุน้ำมันรั่ว
นายวีรศักดิ์ คงณรงค์ ตัวแทนสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง กล่าวในงานเสวนา หัวข้อ "คำถามที่ ปตท. ต้องตอบ...ก่อนที่ความจริงจะหายไปพร้อมกับคราบน้ำมัน" ว่า ขณะนี้ผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นชาวประมงใช้เรือในการประกอบอาชีพ ยังไม่ได้รับการเยียวยาอย่างทั่วถึง แต่ทั้งนี้พบว่า ทาง ปตท. กลับเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบอาชีพที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประมง และได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า เช่น กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า กลุ่มนวดแผนโบราณ ซึ่งตนไม่เข้าใจวิธีการช่วยเหลือ และอยากให้ทาง ปตท. ปรับวิธีการช่วยเหลือโดยด่วน
นอกจากนี้ ภายในงานเสวนา นายวีรศักดิ์ ได้นำตัวอย่างทรายของชายหาด อ.แกลง ที่ปนเปื้อนคราบน้ำมันที่ลอยมาติด เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม มาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่า ยังมีคราบน้ำมันเหลือค้างอยู่จริง พร้อมเปิดเผยว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลัง พบว่า มีความเสี่ยงที่จะสะสมมลพิษจากน้ำมัน กรณีปลาที่ชาวประมงจับได้ ไม่สามารถนำหัวและท้องของปลาไปรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะมีสารเคมีตกค้าง ซึ่งล่าสุด มีชาวบ้านในพื้นที่มีอาการป่วย อาทิ ผื่นคัน ท้องเสีย จากการรับประทานสัตว์น้ำแล้ว
