นักวิทย์ชี้ "สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง" ปลอดภัยแถมดีต่อสุขภาพ

นักวิทย์ชี้ "สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง" ปลอดภัยแถมดีต่อสุขภาพ

นักวิทย์ชี้ "สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง" ปลอดภัยแถมดีต่อสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

AsapSCIENE รายการวิทยาศาสตร์ยอดนิยมบนยูทูปซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4 ล้านคน ผลิตโดยสองคู่หูนักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา Mitchell Moffit และ Gregory Brown อ้างว่า "การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง" เป็นเรื่องปกติของทั้งผู้หญิงและผู้ชายซึ่งมิได้เป็นอันตรายอย่างที่หลายคนเชื่อกัน แต่ยังเป็นผลดีต่อสุขภาพด้วย

ผู้ดำเนินรายการอ้างว่า จากผลสำรวจ ผู้ชายกว่า 95 เปอร์เซนต์ และผู้หญิงราว 72 เปอร์เซนต์เคยสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง แม้กระทั่งชายหญิงที่มีคู่แล้วก็ยังนิยมสำเร็จความใคร่ด้วยอัตราที่สูง

สารเคมีอย่างโดพามีนที่หลั่งออกมาหลังสำเร็จความใคร่ช่วยกระตุ้นให้สมองรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข และสารเอนโดฟีนอื่นๆที่หลั่งออกมาหลังถึงจุดสุดยอดยังช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวด ส่วนสาวๆที่ขัดไข่มุก (การช่วยตัวเองของผู้หญิง) ยังช่วยลดการปวดประจำเดือนอีกด้วย

ส่วนผู้ที่มีปัญหาการนอนหลับฮอร์โมนโปรแลคตินที่หลั่งออกมายังทำให้คุณรู้สึกง่วงและหลับง่ายขึ้น และสำหรับคุณผู้ชายที่กำลังเป็นไข้ การช่วยตัวเองยังกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวในกระแสเลือด

การช่วยตัวเองยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แม้ยังไม่ทราบสาเหตุของการลดลงของอัตราเสี่ยง แต่นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่าการหลั่งน้ำกามเพิ่มขึ้นทำให้สารก่อมะเร็งในต่อมลูกหมากถูกหลั่งออกมามากขึ้นเช่นกัน ทำให้ผลกระทบจากสารดังกล่าวต่อร่างกายลดลงตามไปด้วย

ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมทั้งสัตว์และมนุษย์ถึงหันมาช่วยตัวเองทั้งๆที่ดูจะเป็นการเปลืองพลังงานและสารคัดหลั่ง ผู้ดำเนินรายงานระบุว่า การทำรักกับตัวเองจริงๆแล้วช่วยเพิ่มคุณภาพของน้ำเชื้อ

การวิจัยพบว่า แม้ว่าการมีเพศสัมพันธ์หลังการช่วยตัวเองไม่นานของฝ่ายชาย ปริมาณสเปิร์มของผู้ชายที่เข้าไปในช่องคลอดของผู้หญิงจะลดลง แต่ปริมาณสเปิร์มที่ฝ่ายหญิงได้รับไม่ได้ลดลงตามไปด้วย

จากผลวิจัยจึงกล่าวได้ว่า การช่วยตัวเองเป็นหนึ่งในวิธีการเพิ่ม "ความฟิต" ให้กับสเปิร์ม เนื่องจากสเปิร์มอายุน้อยมีโอกาสที่จะปฏิสนธิกับไข่ของฝ่ายหญิงได้ง่ายกว่า

การช่วยตัวเองยังเป็นเหมือนการออกกำลังกายบริหารอวัยวะเพศซึ่งจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และยังช่วยให้ร่างกายคงระดับสารไนตริคอ็อกไซด์ในกระแสเลือดไว้ได้แม้อายุจะมากขึ้น ซึ่งการขาดสารตัวนี้จะทำให้ร่างกายขาดความต้องการทางเพศตามไปด้วย

อย่างไรก็ดี แม้การช่วยตัวเองจะมีประโยชน์มากมาย แต่การพึ่งพาการปลดปล่อยอารมณ์ด้วยวิธีการเดียวอาจทำให้ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นด้วยวิธีการอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือ สมรรถภาพทางเพศลดลงเมื่อจะต้องร่วมเพศด้วยการสอดใส่กับคู่รักจริงๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook