ฟู้ดดี้ สนีกเกอร์ : คอลแล็บสุดแปลกของรองเท้าและของกินที่ดูไม่เข้ากัน ที่ดันน่ากินมากกว่าน่าใส่
ในโลกของแฟชั่นอันเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์แบบไร้พรมแดน กระแสของเครื่องแต่งกายย่อมจะต้องเปลี่ยนไปตามกระแสของสังคมในทุก ๆ วัน ในบางครั้งการโคจรมาเจอกันของแบรนด์ชื่อก้องที่ไม่น่ามาพบกันได้ ก็อาจก่อให้เกิดเป็นไอเท็มฮอตฮิตติดกระแสวัฒนธรรมร่วมสมัยไปด้วยยังไงอย่างงั้น อย่างล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ใครจะไปคิดว่า THE SIMPSONS จะโคจรมาพบกับ BALENCIAGA ได้
หรืออย่างสนีกเกอร์ 10 คู่นี้ ที่เลือกจับ "ของกิน" มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรองเท้าของตัวเอง ฉีกทุกกฎของการร่วมงานกันไปอย่างสิ้นเชิง บางคู่ก็ดูสวยน่าใส่ ในขณะที่บางคู่ดูหอมน่ากิน
รองเท้าเหล่านี้อาจถือคติเช่นเดียวกันกับอาหารที่ว่า ถึงรสชาติจะไม่ถูกปากทุกคน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการมีอยู่ของรองเท้าเหล่านี้ เป็นสีสันและรสชาติชั้นดีให้แก่วงการสนีกเกอร์และแฟชั่นได้อย่างแท้จริง
Main Stand ขอชวนมาดู 10 การคอลแล็บสุดแปลกของสนีกเกอร์และของกิน ที่น่าใส่และชวนน้ำลายสอไปในเวลาเดียวกันและขอแนะนำให้ทานข้าวก่อน เพราะบางคู่ก็ดูน่ากินมากกว่าน่าใส่จริง ๆ
1. NIKE SB DUNK LOW X BEN & JERRY'S "CHUNKY DUNKY"
การคอลแล็บกันของแบรนด์สปอร์ตแวร์ใหญ่ยักษ์อย่าง ไนกี้ ร่วมกับ เบนแอนด์เจอร์รี่ส์ ร้านไอศกรีมชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาผู้โด่งดังเรื่องกรรมวิธีการผลิตไอศกรีมอย่างพิถีพิถันและไอศกรีมรสดังที่ผสมคุ้กกี้โดห์ กลายเป็นรองเท้าที่โดดเด่นด้วยลายบรรจุภัณฑ์ของไอศกรีมแบรนด์ดังกล่าว ออกมาในปี 2020
ชื่อรุ่น "ชังกี้ ดังกี้" ล้อไปกับไอศกรีมรสกล้วยของแบรนด์ชื่อ "ชังกี้ มังกี้" บริเวณหนังโดยรอบอย่างส่วน ทิป และ ฟอกซ์ซิ่ง ของรองเท้าจะเป็นลายวัวและยังทำออกมาเป็นลักษณะขนให้เหมือนขนวัวด้วย ส่วนควอเตอร์ตรงกลางด้านข้างรองเท้าเป็นรูปวิวที่วัวมักจะยืนอยู่ในโลโก้ของ Ben & Jerry's เหมือนมีวัวอยู่กลางทุ่งหญ้าเขียวขจีภายใต้ทองฟ้าสีสดใส ก่อนจะทาบด้วยโลโก้เครื่องหมายถูกสีเหลืองเหมือนกล้วยนั่นเอง
รองเท้าคู่ดังกล่าวเปิดตัวที่ราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือในราคา 3,600 บาทไทย แต่ปัจจุบันที่ไม่รู้เป็นเพราะความสวยหรือความหิว รองเท้าดังกล่าวมีราคาดีดขึ้นไปสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 330,000 บาท กลายเป็นหนึ่งในไอเท็มสตรีทแวร์สุดไฮป์ไปเสียอย่างงั้น (อ้างอิงจาก StockX เว็บแลกซื้อขายสนีกเกอร์ออนไลน์ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไซส์รองเท้า ราคาดังกล่าวมาจากไซส์ US 15)
2. ADIDAS FORUM 84 X M&M’S
การร่วมงานกันกับอีกหนึ่งแบรนด์สปอร์ตแวร์เบอร์ใหญ่อย่าง อาดิดาส และ บริษัทขนมช็อกโกแลตหลากสี เอ็มแอนด์เอ็มส์ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ปรับแต่งแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นสายคาดของเท้า เชือก หรือตัวยางที่เอาไว้ติดเพิ่มลูกเล่นและความน่าสนใจให้รองเท้าดูน่ากินมากกว่าน่าใส่
อาดิดาส ได้เลือกใช้โมเดลฟอรั่ม 84 โมเดลรองเท้าบาสเกตบอลสุดคลาสสิกของแบรนด์ ที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1984 และเพิ่งจะถูกนำกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ โดดเด่นด้วยสีเหลือง (ซึ่งเป็นสีเดียวที่ผลิตออกมาในรุ่นนี้) พร้อมกับอุปกรณ์ชุดแต่งอีกมากมาย ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเทขนมช็อกโกแลตหลากสีออกมาจากซอง
อาดิดาส ฟอรั่ม 84 เอ็มแอนด์เอ็มส์ ยังไม่ออกวางจำหน่าย เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่คนล่าสุดแห่งวงการรองเท้าขนม คาดว่าจะเปิดตัวที่ราคา 180 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,000 บาท)
3. SAUCONY X DUNKIN’ DONUTS "KINVARA 10"
ซาวโคนี่ บริษัทรองเท้าที่เน้นไปที่การออกกำลังกายจำพวก วิ่ง เดิน เทรล และปีนเขา ร่วมกับของหวานหนักแป้งอย่าง "ดังกิ้น โดนัทส์" ขนมแป้งทอดมีรูสุดโด่งดังที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมอเมริกันมานานแสนนาน
รองเท้าคู่นี้ออกมาในปี 2019 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้แก่การวิ่งมาราธอนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองบอสตัน แมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งปกติแล้ว ซาวโคนี่ จะเป็นผู้ผลิตรองเท้าแบบคัสตอมมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะทุกปีอยู่แล้ว โมเดลโดนัทคู่นี้ก็ได้ออกมาด้วยกันถึง 2 ครั้ง พร้อมได้รับการอัพเกรดจากซาวโคนี่ให้ดีมากยิ่งขึ้น จาก รุ่นคินวาร่า 9 มาเป็น 10 ที่ลดแรงเสียดสีและใส่สบายมากขึ้น รวมไปถึงดีไซน์ที่จะมีความต่างกันนิดหน่อยเท่านั้น
รองเท้าดังกิ้น โดนัทส์ ของซาวโคนี่เป็นรองเท้าของกินที่ราคาดีดเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะเป็นรองเท้าวิ่ง แต่ด้วยดีไซน์ชวนหิว รองเท้าคู่นี้ก็ได้กลายเป็นสตรีทแวร์ไอเท็มที่มีราคาไปไกลถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว (ราว 19,800 บาท)
4. NIKE "KYRIE 2" X KRISPY KREME
อีกครั้งกับ ไนกี้ ที่คราวนี้เป็นรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นซิกเนเจอร์ของนักบาสเกตบอลสุดติสต์ที่เพิ่งโดนแบนเพราะไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไปหมาด ๆ อย่าง "ไครี เออร์วิ่ง" กับโมเดล ไครี 2 ที่ร่วมทำกับ "คริสปี้ ครีม" อีกหนึ่งแบรนด์โดนัทสุดโด่งดังจาสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016 โดดเด่นด้วยสีที่คล้ายกับกล่องโดนัท คริสปี้ ครีม วางจำหน่ายสุดพิเศษด้วย รถคริสปี้ ครีม ประหนึ่งรถขายโดนัท ที่ขับตามไครีในขณะที่ไปแข่งตามเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา
ความน่าสนใจของ ไครี 2 คริสปี้ ครีม คือแพ็กเกจที่ถูกบรรจุมาไม่เหมือนกล่องรองเท้า แต่เป็นกล่องที่คล้ายกับกล่องโดนัทแทน ยิ่งทำให้ดูน่ารักน่ากินขึ้นไปอีก
รองเท้าคู่นี้มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 165 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,400 บาท) แต่เช่นเดียวกันกับคู่อื่น ๆ เมื่อมันเป็นการคอลแล็บสุดแปลกกับนักบาสชื่อดัง ปัจจุบันราคาของรองเท้าคู่ดังกล่าวดีดไปสูงสุดถึง 1,158 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 38,000 บาท บนหน้าเว็บ GOAT อีกตลาดซื้อขายสนีกเกอร์ออนไลน์
5. UNDER ARMOUR "CURRY 7" X SOUR PATCH KIDS
ถ้าจะบอกว่านักบาสสุดติสต์อย่าง ไครี เออร์วิ่ง นั้นมีแต่คอลแล็บแปลก ๆ เพราะความที่เขาเป็นไครีก็คงไม่ได้ เพราะทางจักรกลนักชู้ต 3 แต้มอย่าง สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ แห่ง โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ก็มีรองเท้าบาสเกตบอลซิกเนเจอร์ของตัวเองที่น่ากินไม่แพ้กัน กับการจับมือร่วมกันกับขนมเยลลี่เปรี้ยวเข็ดฟัน "ซาวเออร์ แพตช์ คิดส์" ที่ดูจะเป็นการร่วมงานที่ค่อนข้างแปลกพอสมควรในปี 2019
โดยปกติแล้ว เคอร์รี่ ก็เป็นคนที่ชอบกิน ซาวเออร์ แพตช์ เป็นทุนเดิม พวกเขาจึงเริ่มจัดแจงออกคอลเล็กชันรองเท้าร่วมกัน โดยได้แบรนด์ อันเดอร์ อาเมอร์ ที่เป็นพาร์ตเนอร์อย่างเป็นทางการของเคอร์รี่อยู่แล้วให้การสนับสนุน โดยใช้โมเดล เคอร์รี่ 7 ส่งรองเท้าสีสุดจี๊ดจำนวนจำกัดออกมาอย่างสีแดงและเขียวนีออนประหนึ่งเป็นสีเยลลี่ อีกทั้งอินโซลด้านในยังมีรูปเยลลี่หลากสีละลานตาอีกด้วย
วางจำหน่ายด้วยราคา 140 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,600 บาท) และปัจจุบันราคาก็พุ่งไปแล้วถึง 650 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21,500 บาท) ใน StockX
6. KOIO X DOMINIQUE ANSEL
ยกระดับขึ้นมาเป็นจานหรูกันบ้างกับแบรนด์รองเท้าสนีกเกอร์สไตล์โมเดิร์นลักชูรี่ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก กับแบรนด์ "Koio" (อ่านว่า โคยโอะ) ที่พ้องเสียงกับคำว่า "Cuoio" (อ่านว่า คูอิโย) ในภาษาอิตาลี ที่แปลว่า หนัง สอดคล้องกับกรรมวิธีการผลิตของแบรนด์ที่เป็นรองเท้าแฮนด์เมดสุดพรีเมียมจากประเทศอิตาลี ที่ออกมาในปี 2019
รองเท้าคู่ดังกล่าวยิ่งดูหรูขึ้นไปอีกเมื่อได้ร่วมงานกับ ดอมินิค อันเซล ร้านเบเกอรี่สัญชาติฝรั่งเศส-อเมริกันเลื่องชื่อจากนิวยอร์ก ซิตี้ ที่โด่งดังจากเมนู "โครนัท" ที่เป็นการผสมกันระหว่างครัวซองต์และโดนัท
รองเท้าคู่ดังกล่าวได้แรงบันดาลใจมาจากวัตถุดิบในการทำครัวซองต์อันประกอบไปด้วย แป้ง ไข่ น้ำตาล และเนย สีที่ออกมาจึงจะมีความคล้ายกับครัวซองต์ ด้านหน้าตรงบักเคิลร้อยเชือก จะมีดีเทลเล็ก ๆ เป็นรูปครัวซองต์จิ๋วอยู่ด้วย เพื่อเป็นการย้ำถึงเอกลักษณ์ของรองเท้าคู่นี้
เปิดตัวด้วยราคาหรู 348 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11,500 บาท) ถ้าใส่ไปนั่งกินขนมอยู่ในคาเฟ่ก็อาจจะดูเข้ากันอย่างกลมกลืนแน่นอน
7. FILA X SUBWAY
พักของหวานมาทานของคาวกันบ้างแต่ยังคงอยู่ที่อิตาลี กับ ฟิล่า สตรีทแวร์จากบิเยลล่า ปีย์มองต์ ที่ไปดังระเบิดระเบ้อที่เกาหลีใต้ที่ได้รวมงานกับร้านแซนด์วิชแบบคัสตอมได้อย่าง "ซับเวย์" สินค้าในไลน์ ฟิล่า x ซับเวย์ ในปี 2020 ไม่ได้มีจำกัดอยู่แค่รองเท้า แต่ยังมีเสื้อ กระเป๋า หมวก รวมถึงรองเท้าแตะด้วย แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คงเป็นสนีกเกอร์
สนีกเกอร์ในคอลเล็กชันนี้จะประกอบไปด้วย 2 รุ่นของฟิล่า อันได้แก่ ซากาโต้ และ โอจี คลาสสิก บอร์ดเดอร์ ซึ่งทั้งสองรุ่นขายหมดอย่างรวดเร็วในตอนที่วางจำหน่ายด้วยราคา 79,000 วอน (ราว 2,000 บาท) สำหรับรุ่นซากาโต้ และ 59,000 วอนสำหรับรุ่นโอจี (ราว 1,600 บาท)
ความน่าสนใจของสนีกเกอร์ทั้งสองคู่นี้อยู่ที่คู่สีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์แซนด์วิชชื่อดัง อย่างเหลืองเขียว และในรุ่นซากาโต้ ยังมีแท็กชื่อเมนูแซนด์วิชของซับเวย์อย่าง อิตาเลียน บี.เอ็ม.ที่ ที่เป็นดีเทลเล็ก ๆ ติดอยู่ด้วย
ถึงจะไม่มีลายหรือสีแฮมแผ่นที่แสดงถึงความเป็นแซนด์วิชและมีราคาถูกถ้าเทียบกันกับหลาย ๆ คู่ในลิสต์นี้ แต่แค่มีเงินอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะต้องมีดวงในการตามหาด้วย
ขออภัยที่เราก็ไม่สามารถชี้เป้าในการซื้อให้ได้เช่นเดียวกัน เพราะรองเท้าคู่นี้อาจจะหายากยิ่งกว่าสูตรลับในการสั่งซับเวย์เสียอีก
8. ALLBIRDS "TREE RUNNER" X SHAKE SHACK
มีแซนด์วิชแล้วก็มีเบอร์เกอร์ด้วย รองเท้าแบรนด์ "ออลเบิร์ดส์" บริษัทสนีกเกอร์ลูกครึ่งนิวซีแลนด์-อเมริกัน ที่ยึดปณิธานรักษ์โลก ชูเรื่องวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างการนำเส้นใยจากต้นยูคาลิปตัสมาทำรองเท้า
ออลเบิร์ดส์ ผู้ซึ่งได้รับการรับรองจาก Certified B Corporation ที่ยืนยันว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริง จับมือกับ "เชคแชค" ร้านฟาสฟู้ดส์จากนิวยอร์กซิตี้ที่พยายามจะยกระดับการกินฟาสฟู้ดส์ในแบบที่ไม่จำเจอีกต่อไป เพราะเป็นร้านอาหารประเภท "Fast Casual" ที่โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบที่ดีกว่า ลดการใช้วัตถุดิบแช่แข็ง (มักเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกากับแคนาดา)
ทาง ออลเบิร์ดส์ มองว่าทางบริษัทของตนเองและ เชค แชค นั้นถือจุดร่วมเดียวกันคือการพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม จึงเกิดมาเป็นรองเท้ารุ่นลิมิเตด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "โฮกี้ โพกี้ มิลค์เชค" นมปั่นสุดโด่งดังของประเทศนิวซีแลนด์
น่าเสียดายที่รองเท้าคู่ดังกล่าววางจำหน่ายอย่างเอ็กซ์คลูซีฟในปี 2018 เฉพาะที่ร้านเชคแชคสาขาสวนสาธารณะ เมดิสัน สแควร์ ในนิยอร์กเท่านั้น ในราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,300 บาท)
9. EWING ATHLETICS X GRILLO PICKLES
เริ่มแปลกขึ้นเรื่อย ๆ กับรองเท้า x แตงกวาดอง คอลแล็บสุดงงแห่งปี 2019 ที่เอาใจสายของดองโดยเฉพาะ รองเท้าคู่นี้เป็นการร่วมงานกันระหว่าง "ยูวิง แอตเลติกส์" แบรนด์รองเท้าบาสเกตบอลสัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งโดย "แพทริก ยูวิง" อดีตนักบาสเกตบอลลีก NBA กับผลิตภัณฑ์แตงกวาดอง นาม "กริลโล่ พิกเคิลส์" โดดเด่นด้วยวัสดุหนังกลับของรองเท้าและสีเขียวของแตงกวาดองเป็นสีหลัก
ก่อนที่จะงงไปมากกว่านี้ว่าทั้งสองโคจรมาร่วมงานกันได้ยังไง เดิมที "ทราวิส กริลโล่" ผู้ก่อตั้งบริษัทแตงกวาดอง มีความตั้งใจอยากที่จะเป็นดีไซเนอร์ที่ไนกี้ น่าเศร้าที่เขาถูกปฏิเสธ ทำให้เขาไม่ได้งานในบริษัทรองเท้าในฝันของเขา เขาจึงผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าแตงกวาดอง (ที่ดูเหมือนจะรุ่งกว่าด้วย) ในเวลาต่อมา
ทว่าความรักในรองเท้าของเขานั้นยังไม่หมดไป เขาได้ร่วมงานกับ ยูวิง แอตเลติกส์ ร่วมกันผลิตสนีกเกอร์แบบในฝันของเขาขึ้นมาในที่สุด เปิดตัวด้วยราคา 140 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,600 บาท) และยังคงตามหาอยู่ได้บ้างใน StockX หากใครที่สนใจ
ถ้าวันนั้นทราวิสไม่โดนไนกี้ปฏิเสธ ความชอบในการกินแตงกวาดองของเขาก็อาจส่งผลให้เราเห็น AIR MAX x Pickles ในวันนี้ก็เป็นได้
10. THE SHOE SURGEON X PIZZA HUT "PIE TOP"
คู่สุดท้ายในลิสต์ที่เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์สุดยอดของรองเท้าของกิน ชนิดที่เรียกได้ว่า "Go Hard or Go Home" เพราะนอกจากรองเท้าจะดูเวอร์แล้ว คอลแล็บที่ร่วมด้วยนั้นเวอร์ยิ่งกว่า เพราะนี่คือรองเท้าที่เชิดชูอาหารอันโอชะอย่างพิซซ่า กับแบรนด์ "พิซซ่า ฮัท" โดย "เดอะ ชู เซอร์เจียน" บริษัททำรองเท้าแบบคัสตอมจากลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย ที่ออกต่อกันมาแล้ว 2 รุ่นใน 2 ปีติด ในปี 2017 และ 2018
รองเท้าคู่ดังกล่าวถูกสั่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะจากการว่าจ้างของ พิซซ่า ฮัท เอง ใช้ชื่อว่ารุ่น "พาย ท็อป" ลักษณะเด่นคือ เป็นรองเท้าหุ้มข้อทรงสูงที่โดดเด่นด้วยสีของแบรนด์พิซซ่า ฮัทเอง ซึ่งสีแดงที่ว่านี้เป็นสีของซอสมะเขือเทศมารินาร่าที่มักนิยมใช้สำหรับพิซซ่าและอาหารอิตาเลียน
ความแรร์ของรองเท้าคู่นี้เรียกได้ว่าหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร เพราะมีจำนวนอยู่แค่ 64 คู่เท่านั้น สำหรับพายท็อปรุ่นแรก และพายท็อปรุ่น 2 มีอยู่แค่ 50 คู่เท่านั้น
ความฮาของรองเท้าคู่นี้อยู่ที่พายท็อปรุ่น 2 นี้เอง ที่มีปุ่นกดซ่อนอยู่ใต้ลิ้นรองเท้า ที่เมื่อกดลงไป เราสามารถที่จะหยุดทีวีชั่วคราวได้ประหนึ่งใช้งานเป็นรีโมต อีกทั้งยังสั่งพิซซ่าให้พุ่งตรงมาหาเราได้ด้วยไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ปัจจุบันรองเท้าคู่นี้อยู่ในระดับที่ยิ่งกว่าหายาก ล่าสุดที่มีการซื้อขายกันใน StockX มีราคาถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,950 บาท) ใครจะไปรู้ว่าถ้ามีการคิดราคาตามไซส์ ราคาของรองเท้าพิซซ่าคู่นี้ ก็อาจจะเหยียบแสนไปแล้วก็ได้