H&M Group และ Renewcell ขยายความร่วมมือผลิตเส้นใย Circulose® ที่ทอขึ้นจากเสื้อผ้ารีไซเคิล
H&M Group มีความยินดีที่ได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับบริษัทรีไซเคิลสิ่งทอนวัตกรรมใหม่ในประเทศสวีเดนเป็นระยะเวลาหลายปี เพื่อจัดหาเส้นใย Circulose® บริสุทธิ์คุณภาพดีนับพันตันที่ผลิตมาจากเศษผ้าเหลือใช้ ซึ่งข้อตกลงในครั้งนี้เป็นอีกก้าวที่สำคัญของ H&M Group สู่การเป็นบริษัทที่ใช้ทรัพยากรหมุนเวียนครบวงจร เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่น สิ่งที่ยากที่สุดในการเลิกใช้เส้นใยผ้าผลิตใหม่และการใช้วัสดุที่ยั่งยืนมากขึ้นก็คือการหาวัสดุเหล่านี้ในปริมาณที่มากเพียงพอต่อความต้องการในระดับอุตสาหกรรม การมีข้อตกลงเช่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะทำให้ความตั้งใจด้านความยั่งยืนเป็นจริงได้มากขึ้น ในระยะเวลา 5 ปีนี้ Renewcell จะผลิตเส้นใย Circulose® ให้ H&M Group ในปริมาณที่เพียงพอต่อการผลิตเสื้อผ้านับล้านชิ้นสำหรับใช้ในแบรนด์ต่างๆ ภายใต้ H&M Group
ปาสคาล บรัน (Pascal Brun) หัวหน้าฝ่ายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ H&M กล่าวว่า “ในการสานต่อความร่วมมือระยะยาวระหว่าง H&M Group และ Renewcell ข้อตกลงในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญทั้งสำหรับ H&M Group และสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น เพราะเป็นการทำให้วัสดุที่มาจากการหมุนเวียนมีปริมาณเพียงพอสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในการก้าวสู่การเป็นบริษัทที่ใช้วัสดุหมุนเวียนครบวงจร และทำตามเป้าหมายของเราที่จะใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืนทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2030 นั้น เราต้องใช้วัสดุอย่างเช่น Circulose® เป็นวัสดุหลักของเราตั้งแต่นี้ไป”
H&M Group ได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ Renewcell มาตั้งแต่บริษัทนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 และ H&M Group ได้ลงทุนกับ Renewcell ผ่านบริษัทย่อยที่ชื่อว่า CO:LAB ในปี 2017 โดย H&M เป็นแบรนด์ค้าปลีกรายแรกที่นำ Circulose® มาใช้หลังจากเปิดตัวคอลเลกชั่น Conscious Exclusive เมื่อเดือนมีนาคม 2020 ข้อตกลงนี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือดังกล่าว และเป็นก้าวสำคัญสำหรับความร่วมมือระหว่างสองบริษัท
แพทริก ลุนสตรอม (Patrik Lundström) กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท Renewcell กล่าวว่า "เราภาคภูมิใจในก้าวใหม่ที่สำคัญในครั้งนี้และความร่วมมือระยะยาวกับ H&M Group ซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมแฟชั่นระดับโลก และเป็นบริษัทที่มุ่งมั่นในการลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่โลกแฟชั่น ผมเชื่อว่าความร่วมมือเช่นนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แบรนด์แฟชั่นอื่น ๆ มองหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม"